ตอนที่ 4 ดวงใจ เหนือเมฆ เหนือตะวัน
พอตกตอนเย็น คุณพ่อก็มารับเราตามที่บอกเราจึงโบกมือบ๊ยบายน้ำตาลแล้วเดินมาขึ้นรถ ส่วนเมฆกับตะวันก้เดินมาขึ้นรถเหมือนกัน แต่หน้าตานี่ช่างต่างกันมาก อีกคนยิ้มเริ่งร่ามีสาวๆเดินมาส่ง ส่วนอีกคน หน้าบูดแถมสายตานี่เหวี่ยงใส่คนอื่นจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เลย เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าทำไมพวกเราถึงต้องไปกินข้าวบ้านคุณปู่วันนี้ ทั้งที่จริงมันควรจะเป็นวันอาทิตย์มากกว่า
“พี่ดวงใจรู้รึเปล่าว่าทำไมพวกเราถึงต้องไปบ้านคุณปู่วันนี้ด้วย ทั้งๆที่วันนี้มันก็ไม่ใช่วันอาทิตย์ซักหน่อย”เหนือเมฆหันมาถามเราทั้งๆที่ในมือยังคงแชทคุยกับสาวๆไม่ขาดเลย
“ไม่รู้ซิ น่าจะมีงานใหญ่ละมั้ง อาจจะเป็น งานฉลองอะไรซักอย่าง”
“แต่เมฆว่าไม่ใช่”
“แล้วเมฆว่าเรื่องอะไร”
“ถามไป ก็ไม่ได้เรื่องหรอก เพราะเมฆมันไม่รู้”ตะวันพูดขึ้นลอยๆ แล้วก็หันไปมองวิวข้างกระจกต่อ เจ้าเด็กน้อยเอ้ยทำเป็นเข้มตลอดเลย
“ก็ไม่รู้พอๆกับตะวันนั่นแหละ” เมฆหันไปดุตะวัน เราละเอ็นดูความรักกันของ 2 คนนี้จริงๆ
แล้วไม่นานเราก็มาถึงบ้านของคุณปู่ เรานี่ตกใจเลยนะเมื่อรถเคลื่อนตัวเข้ามา เพราะว่ารถในบ้านเต็มไปหมด ดูท่าจะมาทุกครอบครัวเลย
“เอ้าเด็กๆลงมาได้ละ คุณปู่กับทุกคนน่าน่าจะรอนานแล้ว” พ่อพฤกเปิดประตูรถให้พวกเรา ก่อนจะนำเดินพวกเราเข้าไปด้านใน แล้วที่บอกว่ารถเยอะ ยังไม่เท่าลูกๆหลานๆของคุณปู่เลย เรียกว่า โต๊ะนี่ต้องสั่งทำเป็นพิเศษ เพราะมันไม่พอนั่ง
“สวัสดีค่ะคุณปู่” เรา เมฆ แล้วก็ตะวันยกมือไหว้คุณปู่ และแน่นอนว่าเราไม่ลืมที่จะหอมแก้มคุณปู่ด้วย แต่ที่สำคัญเราก็หันไปไหว้บรรดาลุงๆอาๆด้วยนะ เพราะทุกคนกำลังยิ้มรอพวกเรา จะว่าไปง านนี้ดูท่าจะขาด อาเสาร์กับอาดวงพิกุล แล้วก็อาศุกร์กับอากันยานะ เพราะเราไม่เห็นทั้ง4 คนเลย
“เจ้าพฤกทำไมมาเป็นครอบครัวสุดท้ายเลยเนี้ย”คุณปู่หันไปถามพ่อพฤก
“พอดีไปรับเด็กๆมานะครับ เลยมาช้า”
“แกนี่นะ ช้าตลอด ว่าแต่ดวงใจเหอะ เป็นไงบ้าง คิดถึงปู่มั้ย
“ดวงใจคิดถึงปู่ที่สุดเลยค่ะ”
“ปู่ก็คิดถึงดวงใจ นี่ถ้าพ่อเราไม่รั้นเราก็ไม่ต้องออกไปอยู่ข้างนอกหรอก ป่านนี้เราก็คงเจอกันทุกวัน”
คุณปู่ตัดพ้อพ่อพฤกด้วยสายตา ก็อย่างที่คุณปู่บอกนั่นแหละ พ่อพฤกรั้นมาก ทั้งๆที่คุณปู่นี่อยากจะให้พวกเราอยู่ด้วยตลอด แต่ก็ยังหนีไปซื้อบ้านซะงั้น
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณปู่ เดี๋ยวเมฆจะมาหาคุณปู่บ่อยๆเลยนะครับ”
“มาหาปู่ หรือมาหาเด็กน้อยข้างบ้านที่พึ่งมาอยู่ใหม่กันแน่เมฆ ปู่รู้มาว่า จีบเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ”
ทุกคนต่างหันไปมองเมฆเป็นตาเดียวเลย ขนาดตะวันก็ยังมองเลยนะ แต่ตะวันคงจะรู้แล้ว เพราะตะวันส่ายหัวเบาๆก่อนจะก้มลงไปมองโทรศัพท์ต่อ
“แหม สายคุณปู่เยอะจังนะครับ แค่เพื่อนครับแค่เพื่อน”
“อย่าให้เสียมาถึงปู่นะเมฆ ปู่ไม่อยากโดนถอนหงอกตอนแก่”
“ครับๆ ไม่มีทางแน่นอนครับ”
เมฆเขินหนักมา ทำเอาบรรดาลุงๆอาๆหัวเราะชอบใจกันใหญ่เลย
“แต่ข่าวเรื่องความเจ้าชู้ของพี่เมฆ ดังไปไกลจนถึงโรงเรียนเมขลาเลยนะคะ”เมขลาพูดขึ้นในขณะที่กำลังหั่นสเต็กเข้าปากอย่างเรียบร้อย เมฆลาเป็นสาวน้อยสายเนิร์ด เด็กเรียนแว่นหนาเตอะ คุณพ่อเคยบอกเราว่า เมขลาถอดแบบความเนี้ยบมาจากลุงพุธ เพราะเหมือนกันอย่างกับแกะ”
“ใช่ ลีก็ได้ข่าวมาเหมือนกันนะ”พาลีพาลพูดเสริมขึ้นอีกคน
“พูดไปรื่อย หยุดเลย ทุกคนเข้าใจผิดหมดแล้วเนี้ย”เมฆรีบส่งสายตาดุน้องๆใหญ่ ทุกคนเลยยิ่งเอ็นดูในความเขินของเมฆ
“พอแล้วๆ เลิกแซวพี่เขาได้แล้ว เมขลา พาลี ว่าแต่แล้วตะวันละ งานที่ไปทำดีมั้ยลูก”
คุณปู่หันไปถามตะวันที่นั่งเงียบ นี่ก็ทำเอาทุกคนตกใจไปอีกเพราะไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย ส่วนตัวเรา เราก็ไม่คิดด้วยว่าคุณปู่จะรู้ ยิ่งพ่อพฤก ยิ่งตกใจหนักไปใหญ่
“คุณพ่อรู้เหรอครับ ว่าตะวันมันไปทำงาน”น้ำเสียงพ่อพฤกดูตกใจกับคำตอบของคุณปู่มากๆ พรางสายตาก็มองไปที่ตะวันอย่างไม่พอใจก่อนจะหันกลับมาจ้องมองคุณปู่เพื่อรอคำตอบ