ตอนที่ 3 เจ้าหญิง
ส่วนวันนี้ที่เป็นวันเปิดเทอมวันแรกทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี ทุกคนดูดีใจกันมากที่ได้มาเจอกันอีกครั้งหลังจากที่ปิดเทอมไปซะนานเลย เราที่เป็นเหมือนเจ้าหญิงของโรงเรียนก็ถูกน้องๆเข้ามาพูดคุยด้วยราวกับเป็นคนดังอย่างงั้นแหละ และถ้าถามว่าในโรงเรียนไม่มีใครไม่รู้จักเราบ้างบอกเลยว่าไม่มี และแน่นอนว่ามันไม่ใช่เพราะเรานะ แต่มันเป็นเพราะ ชื่อเสียงพ่อพฤกที่เป็นผู้สนับสนุนทุนให้โรงเรียนมาทุกปีต่างหาก ปี 1 ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านเพื่อเพื่อสนับสนุนโรงเรียน เราจึงกลายเป็นนักเรียนที่บรรดาคุณครูเกรงใจ ไม่เคยพูดไม่ดีด้วยเลย แต่เราว่าเราอึดอัดมากกว่า เราอยากเป็นนักเรียนปกติที่โดนดุบ้าง โดนตีบ้าง ไม่ใช่อะไรก็ไหลตามน้ำแบบนี้
“เจ้าหญิงดวงใจครับ”กัปตัน เพื่อนชายห้องเดียวกับเราร้องเรียก เราจึงหันไปมองด้วยสายตาที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
“บอกกี่ครั้งแล้วไงกัปตันว่าไม่ให้เรียกดวงใจแบบนี้”
เราดุกัปตันไปชุดใหญ่เลย เพราะเราไม่ชอบให้ใครมาเรียกแบบนี้จริงๆนะ
“อะๆ ไม่เรียกเจ้าหญิงก็ได้ แต่เราเรียกดวงใจว่าที่รักได้ปะ”
“กัปตัน พูดอะไรอ่ะ”
“เราล้อเล่น อย่าคิดมากเลยนะ แค่ล่อเล่นจริงๆ”
"จ้ะ ล้อเล่นก็ล้อเล่น แต่คราวหน้าอย่าพูดแบบนี้อีกนะ ดวงใจว่ามันไม่ดีเลย”
“โอเครไม่พูดแล้วไม่พูดแล้ว”กัปตันโคล้งหัวให้เราราวกับว่าจะทำความเคารพเราอย่างงั้นแหละ เห็นแล้วเรารู้สึกเบื่อจริงๆ
“ว่าแต่กัปตันมีอะไรกับเรารึเปล่า"
"ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่จะถามว่าดวงใจกำลังจะไปกินข้าวใช่มั้ย"
"จ้ะ ใช่"
"งั้นเราไปด้วยซิ"
"ไปกินข้าวนะเหรอ อืมก็ได้"
เราส่งยิ้มให้กัปตันอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก จะว่าไป กัปตันเริ่มมาตีสนิทเราตั้งแต่ม 5 เทอม 2 แล้วนะ ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะเราก็เป็นเพื่อนห้องเดียวกันอยู่แล้ว แต่ น้ำตาล เพื่อนสนิทเราบอกว่าไม่ให้ไว้ใจกัปตันมาก เพราะเขาอาจจะคิดไม่ดีกับเราอยู่ก็ได้ เราว่าน้ำตาลคิดมากเกินไปมากกว่า
“ไม่มีตีนเดินไปแดกเองรึไง ไอ้ตัน” น้ำตาลเข้ามาแทรกกลางระหว่างเรากับกัปตัน ทำเอากัปตันหน้าเสียไปเลย
“ไอ้ตาลมึง พูดดีๆซิวะ”
“ก็กูจะพูดแบบเนี้ย แล้วมึงก็อย่ามายุ่งกับเพื่อนกูให้มากนัก อย่าคิดนะว่ากูไม่รู้ว่ามึงคิดจะทำอะไรไอ้ตัน”
“กูจะทำอะไรวะ พูดให้ดีๆนะไอ้ตาล”
“ให้กูพูดเลยมะ เอามะ ไอ้สัส ให้กูพูดตรงนี้เลยมั้ย”
“ฝากไว้ก่อนเหอะมึง”
แล้วกัปตันก็เดินออกไปอย่างหัวเสีย คือน้ำตาล ถึงชื่อจะหวาน แต่ห้าวสุดๆผิดจากชื่อเลย เราได้ข่าวมาว่า น้ำตาลเป็นทอม เราก็ไม่รู้นะว่าจริงมั้ย แต่ถ้าจริง เราก็ไม่ติดที่จะคบน้ำตาลเป็นเพื่อน ก็คบกันมานานแล้วจะให้เลิกคบเพราะเป็นทอม มันก็คงไม่ใช่
“ทำไมพูดไม่เพราะเลยละตาล”
“พูดเพราะกับมันทำไม นี่ดวงใจ รู้มั้ยว่าไอ้กัปตันมันเลวแค่ไหน”
“เลวเหรอ เลวยังไง ”
“ก็เมื่อวาน เราไปได้ยินพวกมันพูดกับรุ่นพี่นอกโรงเรียนว่าจะจีบดวงใจและถ้ามันจีบติดมันจะยกดวงใจให้ไอ้เวรพวกนั้น มันชั่วมั้ยละ”
“คิดมากน่า เขาอาจจะพูดเล่นกันก็ได้ แต่ถึงมันจะจริง ก็ไม่ต้องกลัวหรอก ดวงใจ ไม่ได้ชอบกัปตันซะหน่อย”
“จริงอ่ะ”
“จริง”
“ก็ดี งั้นไปกินข้าวกัน”
น้ำตาลทำหน้าเชิดก่อนจะดึงมือเราไปที่โรงอาหาร เราเดินดูอาหารอยู่พักใหญ่เพราะไม่รู้ว่าจะกินอะไรดี แต่เอาจริงๆนะ เราอยากกินข้าวไข่เจียวมากกว่า แต่ที่นี่ไม่มี มีแต่อาหารฝรั่ง อย่างพวกสปาเกตตี้อะไรพวกเนี้ย เห็นแล้วเบื่อจัง
“ปึก!!!!!โอ้ยยยยย”
เราเดินชนเข้ากับใครซักคน จนตัวปลิวเลย เจ็บจัง
“ขอโทษ”
เราเงยหน้าขึ้นไปมองตามเสียง ก็เห็นว่าเป็นผู้ชายตัวสูงมีรอยสักเต็มตัวเลย เขาหน้าหล่อมาก ในตาสีฟ้า ซึ่งดูน่ากลัวมากเช่นกัน แล้วก็สะดุดตาเรามากด้วย
“ไม่เป็นไรคะ”
“เป็นอะไรมากรึเปล่า เจ็บมากมั้ย”พี่เขาถามเราด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน ซึ่งต่างจากลักษณะภายนอกของเขาสุดๆ
“ป่าวค่ะดวงใจไม่เป็นไร”
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
เขามองเราก่อนจะยิ้มเล็กๆให้ คือรอยยิ้มเขาดูน่าสนใจอย่างบอกไม่ถูกเลย ทำไมเราถึงสะดุดกับยิ้มนี้มากเลยนะ แล้วก็เดินไปขับมอเตอร์ไซค์ออกไป ทำไมเนี้ย ทำไมใจเราเต้นแรงขนาดนี้ อาจจะเป็นเพราะดวงตาสีฟ้าที่ไม่เหมือนใครก็ได้มั้งหรือไม่ก็รอยยิ้มของเขา
“มีอะไรเหรอดวงใจ”น้ำตาลเดินมาถามเรา
“ไม่มีอะไรหรอก ไปกินข้าวกันเหอะ”
“ชวนไปกินข้าว แล้วเลือกได้ยั้งว่าจะกินอะไร”
“ยังอ่ะ เราเลือกไม่ถูก”
“เอาพิซซ่ามั้ย รึว่า ไก่ทอด ข้าวยำปลาแซลม่อนมั้ย”
“หึ ไม่เอา ”
“เอ้า แล้วจะกินอะไรเนี้ย เจ้าหญิง”
“น้ำตาล บอกแล้วใช่มั้ยว่าดวงใจไม่ชอบให้เรียกแบบนี้”
“อะๆ ไม่เรียกละ แล้วตกลงจะกินอะไร”
“มีไข่เจียวมั้ยอ่ะ”
“หะ!!! ไข่เจียว บ้าป่าว เขาไม่มีขาย ไข่ดาวไส้กรอกอะได้อยู่”
เราคิดอยู่ีแล้วว่าไม่น่าจะมี แต่อยากกินจริงๆนะ
“งั้นเอา สปาเกตตี้ก็ได้”
“อืม”
น้ำตาลพยักหน้าก่อนจะเดินไปซื้อ สปาเกตตี้ให้เรา เราจึงจับมือน้ำตาลแล้วเดินเอาจานไปวางที่โต๊ะ แต่เรายังสลัดภาพของพี่ชายคนนั้นออกจากหัวไม่ได้เลยนี่ซิ แล้วเราจะได้เจอเขาอีกรึเปล่านะ