บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 งานเลี้ยงที่ตึกใหญ่

ก่อนถึงงานเลี้ยงต้อนรับพัทธนนท์ ทายาทคนโตของตระกูลอัครรัตน์ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการบริหารจากต่างประเทศเพียงไม่กี่วัน นิลอุบลก็ถูกเรียกไปพบประมุขของบ้าน

“เธอแค่ช่วยพี่ทิพย์ทำอาหารว่าง พวกขนมไทยอย่างสาคูไส้หมู ข้าวเกรียบปากหม้อ ตอนงานเลี้ยงส่งยายแพท ฉันจำได้ว่าเธอทำอร่อย แขกในงานชมกันหลายคน” คุณพิมพ์อรกล่าวเสียงเนิบนุ่ม

หญิงวัยกลางคนที่ยังคงความสง่างามพิจารณากิริยามารยาทของคนตรงหน้า เธอต้องยอมรับว่าเป็นไปอย่างพองาม ไม่รู้ว่าสิ่งนี้เกิดจากการอบรม หรือเป็นเพราะสายเลือดบางส่วนจากคนที่ทำให้เธอช้ำใจเมื่อในอดีต

นิลอุบลรับคำหลังจากนั่งฟังเพียงไม่นาน ก่อนจะบอกลากลับเมื่อคนอาวุโสกว่าหมดธุระลง หล่อนยกมือไหว้ทั้งคุณพิมพ์อรและชายวัยกลางคนที่นั่งไม่ห่างกัน หวังแค่ให้เขาหันมามอง และท่าทางที่นิลอุบลแสดงออกมา มีหรือที่คุณพิมพ์อรจะรู้ไม่เท่าทัน เด็กคนนี้คาดหวังอยู่เสมอให้เป็นที่สนใจของสามีนาง รวมถึงพัชริดาอีกคนที่ให้ความสนิทสนมจนมากเกินไป เธอไม่อาจยอมรับว่าเด็กทั้งสองผูกพันด้วยสายเลือด จึงมองว่าเป็นเพราะนิลอุบลเข้ามาตีสนิทเอง ช่วงหลังจึงไม่ค่อยเรียกใช้ให้มาที่ตึกใหญ่ นอกจากมีเหตุจำเป็นจริงๆ

“แล้วเชิญใครบ้างล่ะ” คุณประชัยเก็บพับหนังสือพิมพ์พร้อมหันมาถามภรรยา

“ญาติพี่น้องเป็นส่วนใหญ่ค่ะ ดิฉันอยากจัดเลี้ยงพบปะกันในหมู่ตระกูลของเรา เลยถือโอกาสที่ตาพัทธ์เรียนจบกลับมา จัดเลี้ยงต้อนรับ งานหลักเป็นช่วงกลางวัน ส่วนกลางคืนปล่อยเด็กๆ เขาสนุกกันต่อ ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนตาพัทธ์ที่เคยคบหากันตอนอยู่เมืองไทย มีบางส่วนที่รู้จักตอนเรียนอเมริกา” คู่ชีวิตกล่าวน้ำเสียงอ่อนโยนเมื่อเอ่ยถึงบุตรชาย

“ดีแล้ว เสร็จเรื่องพวกนี้แล้วคงให้เข้ามาดูงานในบริษัทกันจริงจังสักที” ชายวัยกลางคนปรารภ เขาอยากหยุดพักเต็มที แต่ไม่มีคนสานงานต่อ

แล้วใจประหวัดถึงเจ้าของดวงหน้านวลที่นั่งตรงหน้าเมื่อกี้นี้ แม้เขาไม่ได้ดูแลใกล้ชิด แต่ยังคอยติดตามความเป็นไปอยู่เสมอ หากด้วยความรู้สึกผิดที่มีต่อภรรยาเมื่อครั้งอดีต เขาจึงลำบากใจที่จะอุ้มชูอย่างเปิดเผย และเมื่อต้องเลือก เขายังคงให้ความสำคัญกับภรรยา รวมถึงบุตรธิดาทั้งสองคนมากกว่าอยู่ดี

ในงานเลี้ยงของตึกใหญ่ แหวนเด็กรับใช้ในบ้านที่ออกไปเสิร์ฟอาหารกลับมารายงานตามรายการสั่งอาหารจากแขกพิเศษข้างนอก แล้วนั่งบนเก้าอี้เพื่อช่วยป้านอมแม่ครัวใหญ่เตรียมวัตถุดิบปรุงอาหารมื้อหลัก

“คุณนิล ข้าวเกรียบปากหม้ออีกสองจานค่ะ”

นิลอุบลยิ้มรับพร้อมจัดวางผักกาดหอมข้างจาน หล่อนยังเร่งมือทำงานหวังว่าจะเสร็จและกลับไปยังเรือนเล็กเร็วๆ

“แปลกนะป้า ไหนบอกว่าเลี้ยงต้อนรับคุณพัทธ์ไง ไม่เห็นเจ้าของงานอยู่เลย” เด็กรับใช้ร่างท้วมตั้งข้อสังเกต

“คุณพัทธ์ออกไปรับแฟน เห็นว่ารู้จักกันที่เมืองนอก ลูกหลานคนใหญ่คนโต ฉันได้ยินคุณผู้หญิงพูดกับท่าน” ป้านอมตอบทันทีอย่างคนรู้เรื่องดี

“ชอบจริงๆ เลยนะเรื่องเจ้านาย พูดได้ทั้งวัน โดนเข้าสักครั้งจะรู้สึก”

สามีป้านอมซึ่งทำหน้าที่เป็นคนขับรถพ่วงตำแหน่งคนสวนขัดคอ จึงได้รับค้อนงามๆ จากภรรยาไปตามระเบียบ

“คุณนิลกินข้าวหรือยังครับ นี่ก็บ่ายสองแล้ว”

ลุงพร้อมทักขึ้นเมื่อนึกได้ว่านิลอุบลนั่งทำงานในครัวมาพร้อมพวกตนที่พักกินมื้อเที่ยงกันเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหญิงสาวบอกว่าจะกลับไปกินกับยายแถบ แต่เท่าที่เห็นยังไม่ได้ขยับตัวไปไหนเลย

“ยังค่ะ เสร็จแล้วจะกลับเรือนเล็ก” คุณนิลของลุงพร้อมตอบพลางส่งยิ้มให้

“โอย อย่ารอเสร็จเลยค่ะคุณนิล เดี๋ยวป้าหาอะไรให้กินรองท้องก่อน แขกตอนค่ำก็มี คงมากกว่าที่เห็นตอนนี้กันละ อย่างน้อยก็เพื่อนๆ คุณพัทธ์ตั้งมากมาย ป้ายังไม่รู้เลยว่าคุณนิลต้องอยู่ถึงกี่โมง” ป้านอมพูดเสียงดังตามแบบฉบับของตน แต่หญิงสาวรู้ดีว่านางใจดีกับเธอและยายเสมอ

“มาค่ะ แหวนแคะเอง เจ้าปากหม้อเนี่ย มันคงมีบุบๆ เบี้ยวๆ บ้าง คุณนิลค่อยมาทำชิ้นสวยวางทับข้างบน แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว”

แหวนกล่าวอย่างเห็นขัน ยังไงก็ออกมาอร่อยเหมือนกันละน่า ก็คุณนิลเตรียมส่วนผสมไว้เรียบร้อยหมดแล้ว เธออดคิดไม่ได้ว่าคุณทิพย์แม่บ้านใหญ่ที่อาสาจัดการเรื่องขนมและอาหารว่างทั้งหมดบอกว่าให้นิลอุบลแค่มาช่วย แต่ที่ไหนได้ ยังไม่เห็นย่างกรายเข้ามาเลย เห็นมัวแต่เดินสั่งการอยู่ด้านนอกตั้งแต่เริ่มงานแล้ว

ป้านอมลุกขึ้นเตรียมสำรับมาวางให้บนโต๊ะในครัว ด้วยความหิวของนิลอุบลจึงทำให้ข้าวสวยทั้งจาน แกงจืดและผัดผักรวมหมดไปอย่างรวดเร็ว หญิงสูงวัยจึงมองอย่างเอ็นดูและสงสารในที

ในที่สุดก็เป็นไปตามคาด เพราะตั้งแต่ตอนเย็นจนเริ่มงานตอนค่ำ นิลอุบลยังไม่ได้หยุดพัก แขกในงานทยอยกันมา สลับกับชุดแขกผู้ใหญ่ตอนกลางวัน โดยส่วนใหญ่เป็นญาติทางคุณพิมพ์อรซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ และมีชื่อเสียงทั้งในแวดวงธุรกิจและการเมืองทยอยกลับกัน

งานเลี้ยงในช่วงค่ำ นิลอุบลเปลี่ยนมาทำหน้าที่เตรียมเครื่องดื่ม ขณะตักเครื่องดื่มใส่แก้ววางในถาด หล่อนได้ยินเสียงคุยมาทางด้านหน้าตึกเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนจัดงานอยู่บริเวณสนามหญ้าซึ่งเป็นพื้นที่โล่ง รวมถึงรอบสระน้ำที่ตอนนี้ถูกประดับอย่างสวยงามด้วยแสงไฟและพุ่มดอกไม้

“สองทุ่มแล้ว คุณนิลกลับเถอะค่ะ เหนื่อยมาทั้งวัน ถ้าใครถามหาจะให้นังแหวนบอกว่าคุณไม่ค่อยสบาย”

“อ้าว ป้า เรื่องพวกนี้โยนให้กันตลอดเลยนะ” เด็กแหวนโวยวาย

นิลอุบลยิ้มรับการเย้าแหย่ของสองหญิงต่างวัยที่ประคารมกันตลอดเวลา แต่ยอมรับน้ำใจของสองคนเพราะรู้สึกเหนื่อยล้า ตอนนี้เธออยากพักเต็มทีแล้ว

นิลอุบลลุกขึ้น คิดจะเข้าห้องน้ำด้านในติดกับโรงครัว ล้างหน้าล้างตาให้สดชื่นก่อนกลับ แต่ได้ยินเสียงพูดคุยทางโทรศัพท์ในมุมมืด แล้วเห็นเงาของใครรางๆ คิดว่าเขาคงเป็นแขกในงานที่หลบหามุมเงียบมาคุยธุระ หล่อนมองแล้วหันกลับไปโดยไม่สนใจอีก

ร่างสูงตรงที่ยืนหันหลังเมื่อครู่หันกลับมาพิงเสาในมุมมืด เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้าห้องน้ำ แค่แวบแรกเขาก็จำได้ติดตา ผู้หญิงหน้าตาอ่อนใสที่เคยแอบมองเขาในห้องประชุมที่บริษัท

เธอเป็นใครกัน...ความสงสัยนี้ทำให้เขาต้องตามมาดูให้มั่นใจ จนเห็นเธอนั่งทำขนมอย่างขะมักเขม้นโดยไม่สนใจใคร

ชายหนุ่มขยับตัวเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก เขารู้สึกขำตัวเองที่มายืนแกร่วอยู่แถวนี้ ถ้าใครมาเห็นยังไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรด้วยซ้ำ กระทั่งเห็นหญิงสาวออกมา จึงสาวเท้าไปหาอย่างช้าๆ

“สวัสดีครับ”

เสียงห้าวทุ้มคุ้นหู นิลอุบลชะงักเท้าที่ก้าวออกจากห้องน้ำ หันกลับมาทั้งตัว แล้วยืนตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นชัดว่าเจ้าของเสียงทักนั้นเป็นใคร ทว่าอีกฝ่ายแค่ทำหน้านิ่งแล้วมองเธอตรงๆ

“คะ?” นิลอุบลตั้งตัวไม่ทัน ความสงสัยอื้ออึงในหัว

เขาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ทำไมเธอจะจำเขาไม่ได้...หากพอขยับตัว อีกฝ่ายก็ก้าวประชิด

“คุณเป็นแขกของพัทธนนท์หรือครับ”

เขาถามไปทั้งที่มั่นใจว่าไม่ใช่แน่นอน หลังจากกวาดสายตาคมกริบทั่วร่างบอบบางอย่างอ้อยอิ่ง สาวสวยในเครื่องแต่งกายกางเกงสามส่วนสีขาวแค่เข่ากับเสื้อยืดเข้ารูปสีชมพูหวาน ผมยาวมัดเป็นหางม้า เขาเกือบหัวเราะ เมื่อคิดว่าคนทำงานบ้านของตนยังใส่เสื้อผ้าดีกว่าเธอซึ่งดูมอมแมมในงานเลี้ยง คิดอีกทีหรือเขาจะเจอซินเดอเรลล่าปีสองพันสิบเข้าให้แล้ว

“ปละ เปล่าค่ะ ขอตัวนะคะ”

หญิงสาวเลือกที่จะตัดปัญหาโดยการเดินหนีไปดื้อๆ หัวใจของเธอเต้นแรงกับสายตาแปลกประหลาดคู่นั้น จนทำให้หนาวไปทั้งตัว

“เดี๋ยวครับ คุณไม่คิดจะทักทายกันก่อนหรือ”

หญิงสาวสะดุ้งเมื่อมือแข็งแรงคว้าข้อมือบางไว้ แล้วดึงเข้าไปใกล้จนได้กลิ่นเหล้าจางๆ จากเรือนกายใหญ่ เธอพยายามขืนตัวหนี ความกลัวแล่นปราดทั่วร่าง และยิ่งกระหน่ำเป็นทวีคูณเมื่อฝ่ายนั้นก้มใบหน้าลงมาใกล้

“เฮ้! ตัวสั่นเลย กลัวหรือครับ”

คนตัวใหญ่หยอกเย้าอย่างนึกสนุก นิลอุบลอยากร้องไห้นัก หล่อนชื่นชมภาพพจน์ของเขาในมาดนักธุรกิจ แต่ที่เห็นตอนนี้ไม่ต่างจากเพื่อนของพัทธนนท์บางคนที่มาสังสรรค์แล้วตอแยหล่อนอย่างสนุกสนานเหมือนเมื่อก่อน

ร่างบางถูกรั้งเข้ามาชิดร่างกำยำใหญ่โต มือหนาร้อนผ่าวยกขึ้นไล้แก้มนวล นิลอุบลดิ้นรนหนีอย่างบ้าคลั่งเมื่อมั่นใจว่าชายหนุ่มไม่มีทีท่าจะหยุดการกระทำหยาบคายนี้ลงเลย

“ปล่อยนะ บอกให้ปล่อย”

เสียงสั่นเครือร้องห้ามอย่างหวาดกลัว แต่เหมือนชายหนุ่มจะยังสนุกกับการล่อหลอก สองแขนแกร่งกอดรัดร่างเธอไว้ ยกมือหนาขึ้นกดแผ่นหลังบางจนอกอวบแนบชิด หญิงสาวก้มหน้าเบี่ยงหนี แต่เหมือนแรงดิ้นรนจะไม่มีผลกับเขาเลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel