ราชโองการเลือด : 1
"จับกุมคนในจวนเยว่ให้หมดทุกคน!"
เสียงทรงอำนาจดังก้องกังวาลไปทั้งจวนเยว่
เหล่าทหารแต่งชุดเกราะเต็มยศราวกำลังจะออกศึกวิ่งกรูเรียงแถวเข้ามาคุมตัวบ่าวสาวรับใช้ในเรือนราวนักโทษฉกรรจ์
"นี่มันเรื่องอันใด"
เยว่ฉินจื่อที่ได้ยินเสียงโวยวายของข้ารับใช้ในเรือนรีบวิ่งออกมาดู
ภาพตรงหน้าทำให้กระบี่ในมือเขาสั่นแทบจะออกจากฝัก เหล่าบ่าวสาวรับใช้ ไม่ว่าจะเด็ก คนแก่ สตรีหรือบุรุษต่างถูกปลายกระบี่แสนแหลมคมจ่อไปที่บ่าหนึ่งต่อหนึ่งเยี่ยงนักโทษต้องประหาร
"จับกุมตัว!"
หากแต่ผู้มาเยือนในชุดว่าราชการเต็มยศสีแดงเลือดหมูกลับมิสนใจตอบคำถามของบุตรชายเจ้าบ้าน เปล่งคำสั่งเด็ดขาดจบ ทั้งคุณชายใหญ่และคุณชายรองสกุลเยว่ต่างถูกจับกุมตัวให้นั่งคุกเข่าลงพื้นเฉกเช่นคนอื่น ๆ อย่างไม่ทันจะได้ขัดขืน
"ปล่อยข้า ปล่อยข้านะ!"
"โอ้ย! เจ้ากล้ากัดข้าหรือ นางเด็กนี่!"
"อย่าทำร้ายหนิงเอ๋อร์"
เสียงโวยวายของสตรีมากกว่าสามคนดังขึ้นทางด้านหลัง ครั้นหันไปมองจึงเห็นทหารสี่ห้าคนจับกุมตัวฮูหยินใหญ่ของจวนเยว่พร้อมกับบุตรตรีอีกสามคน
หากแต่เยว่อันหนิงน้องเล็กของบ้านกลับดื้อรั้น นางไม่ยอมให้ทหารจับกุมตัวอย่างไร้เหตุผล พยายามหนีการจับกุมและทำร้ายคนที่ตามจับนางอย่างไม่เกรงกลัว
ปลายกระบี่คมวับง้างขึ้นเตรียมฟาดฟันเด็กน้อยหากแต่ถูกเยว่ฮูหยินวิ่งเข้ามารั้งไว้เสียก่อน
"หนิงเอ๋อร์!"
"ท่านแม่!"
เสียงเยว่ฉินจื่อกับเยว่อินกวานตะโกนอย่างเสียวไส้เมื่อเห็นเหตุการณ์ชุลมุนเมื่อครู่
"ใต้เท้า ได้โปรดไว้ชีวิตลูกสาวข้าด้วยเถิด นางยังเด็กนักไม่รู้ประสาที่ล่วงเกินลูกน้องท่าน"
เยว่ฮูหยินยอมลดศักดิ์ศรีของภรรยาแม่ทัพใหญ่ที่สร้างชื่อเสียงและความดีความชอบให้เมืองเทียนติ่งมานับไม่ถ้วน โขกศีรษะลงกับพื้นวอนขอความเมตตาจากมือกระบี่ที่หมายคร่าชีวิตบุตรสาวนางอย่างไร้ปรานี
"เลิกเสียเวลาได้แล้ว ทุกคนในจวนเยว่รับราชโองการ"
เสียงดุดันตะเบ็งจนดังสะท้อนทั่วลานกว้างของจวนเยว่ ม้วนหนังสือสีทองอร่ามถูกหยิบออกมาจากกล่องอันหรูหรา
มู่ตงหยวนเจ้ากรมตุลาการค่อย ๆ คลี่ราชโองการพร้อมอ่านอย่างชัดถ้อยชัดคำ
"แม่ทัพใหญ่เยว่จิ้นกงมักใหญ่ใฝ่สูงหวังยึดอำนาจ แอบลักลอบซ่อนสุมกำลังลับเอาไว้ห้าหมื่นนายหมายสั่นคลอนความสงบสุขของราชบัลลังก์ ฮ่องเต้มีรับสั่งให้ลงโทษสถานหนัก ปลดตำแหน่งแม่ทัพใหญ่และลงโทษประหารชีวิตพร้อมบุตรชายทั้งสอง เยว่ฉินจื่อและเยว่อินกวาน จากนั้นนำหัวเสียบประจานหน้าประตูเมือง ฮูหยินใหญ่ไฉอันปิงและอนุถูกส่งไปเป็นทาสให้แคว้นพันธมิตร บุตรสาวทั้งสาม เยว่จินจิน เยว่อิงเถา เยว่อันหนิง ถูกส่งเป็นเครื่องบรรณาการแก่แคว้นเสียนหย่ง บ่าวไพร่ที่เหลือถูกเนรเทศออกนอกเมืองห้าพันลี้ตลอดชีวิต จบราชโองการ"
"ไม่จริง! ท่านพ่อไม่เคยซ่อนสุมกำลังทหารอย่างลับ ๆ ต้องมีคนใส่ร้ายท่านแน่"
"ฝ่าบาทโปรดให้ความเป็นธรรมแก่สกุลเยว่พวกเราด้วยเพคะ สามีข้าหายใจเข้าออกมีแต่บ้านเมือง ไหนเลยจะกล้าคิดการใหญ่ก่อกบฎเช่นนี้"
ทั้งเยว่ฉินจื่อและเยว่ฮูหยินต่างพากันคัดค้านราชโองการอย่างเด็ดเดี่ยว หากแต่เสียงของพวกเขาคงดังได้เพียงในจวนสกุลเยว่แห่งนี้ เมื่อทุกอย่างถูกตัดสินมาแล้ว
"เยว่ฮูหยิน รับราชโองการ"
สายตาของเจ้ากรมตุลาการมู่ตงหยวนมิได้มีความเคลือบแคลงหรือสงสารคนตรงหน้าสักนิด คำสั่งเด็ดขาดบังคับให้ผู้มีอำนาจรองจากเจ้าของจวนให้มารับม้วนราชโองการเหมือนมีดที่กรีดลมหายใจคนทั้งจวน
"ห...หม่อมฉัน...รับราชโองการ"
เสียงอันสั่นเครือของเยว่ฮูหยินดังบาดหัวใจบุตรชายและบุตรสาวรวมถึงข้ารับใช้ แม้ในใจพวกเขามีหมื่นล้านคำอยากแก้ข้อครหาให้ผู้เป็นนายท่านแต่พวกเขาเป็นเหมือนมดปลวกใครจะให้ค่า โทษทัณฑ์จากเนรเทศหากกล้างัดข้อกับท่อนซุงใหญ่คงเปลี่ยนเป็นโทษตายอย่างมิต้องสงสัย
ตุบ!
ทว่าสิ่งที่ไม่คาดคิดกลับเกิดขึ้นเมื่อเยว่อันหนิงใจกล้าบ้าบิ่นปัดราชโองการที่มารดากำลังเอื้อมมือไปรับลงพื้นจนกลิ้งหลุน ๆ หยุดที่ปลายเท้าของเจ้ากรมตุลาการมู่ตงหยวน
"บังอาจ!"
เสียงแห่งความเกรี้ยวโกรธดังสะท้านไปทั้งลานกว้าง
ปลายกระบี่แหลมคมของหม่าเย่า องครักษ์ข้างกายมู่ตงหยวนจ่อเข้าที่ลำคอน้อยของเยว่อันหนิงทันที
"อย่า! ใต้เท้าโปรดเมตตา หนิงเอ๋อร์นางไม่รู้ความจึงได้ทำเรื่องไม่สมควรลงไป มานี่! ขอประทานอภัยต่อราชโองการฝ่าบาทเดี๋ยวนี้!"
ข้อมือน้อยถูกมารดารั้งอย่างแรงเพื่อให้คนทำผิดนั่งลงกับพื้น ศีรษะเล็กถูกจับกดลงกับพื้นเพื่อขอความเมตตา
ในใจของเยว่ฮูหยินตอนนี้แสนปวดร้าวที่ต้องรุนแรงกับบุตรสาวครั้งแรกในชีวิต หากแต่นี่เป็นเพียงหนทางเดียวที่นางจะรักษาชีวิตน้อย ๆ ของเยว่อันหนิงไว้นางยอมปวดใจและเป็นมารดาใจร้ายในสายตาผู้อื่น
"ข้าไม่ขอโทษ! ท่านพ่อมิเคยคิดชั่ว มีแต่ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก คนเหล่านี้ต่างหากที่เป็นคนชั่ว ใส่ร้ายท่านพ่อข้า...อึก!"