ตอนที่ 2
ครู่สั้นๆ ต่อมา
หญิงสาวใบหน้าสะสวย เรือนผมสีดำสลวยราวแพรไหม ขมวดเป็นมุ่นมวยเอาไว้ที่ด้านหลัง เรือนร่างเอิบอิ่มสะดุดตา สะโพก อก เอว อะร้าอร่าม กำลังก้าวเดินมาพร้อมกับนมช้อย
แวบแรกที่สายตาของคิมหันต์เหลือบไปเห็น เขาถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ ถ้วยกาแฟแทบหลุดออกจากมือ
ชายหนุ่มตะลึงงัน กับความงดงามของหญิงสาว เธอทำให้สายตาของเขาจ้องมองไม่กระพริบราวถูกสะกด ผิวพรรณเกลี้ยงเกลา ขาวผ่องเป็นยองใย ทรวงอกอวบใหญ่ขยับยวบยาบ แม้จะซุกซ่อนอยู่ภายใต้ร่มผ้า หากแต่สายตาชอนลึกและช่างสำรวจของคิมหันต์ซึ่งมีประสบการณ์ในเรื่องเหล่านี้มาโชกโชน ก็ทำให้เขาสามารถประมาณได้แม่นยำ ว่าหนั่นเนื้อที่ดุนดันอยู่ภายใต้เสื้อยืดตัวน้อยจนแลดูน่าอึดอัดนั้นน่าจะเกินคัพซีอย่างแน่นอน
คิมหันต์มองแล้วมองอีก กลืนน้ำลายเอื๊อกด้วยความลืมตัวจนผู้เป็นบิดาอดแซวไม่ได้
“อ้าว… ถึงกับตะลึงเลยรึตาคิม”
ชายหนุ่มหัวเราะแหะๆ สายตายังไม่ละจากใบหน้าของแพรวพรรณที่กำลังทรุดร่างลงนั่งเผชิญหน้ากับเขา ทรวดทรงองค์เอวของเธอช่างอะร้าอร่าม ยิ่งได้เห็นใกล้ๆ ก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความหมดจดงดงามไร้ที่ติติง ผิวพรรณขาวผ่องอมชมพูระเรื่อ เปล่งปลั่งไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาว
“สวัสดีค่ะพี่คิมหันต์”
สาวน้อยเอ่ยทักทายด้วยท่าทางสุภาพนอบน้อม รอยยิ้มผุดขึ้นที่ริมฝีปาก สายตาจับอยู่ที่ใบหน้าหล่อเหลาของคิมหันต์เช่นกัน
“เรียกพี่คิมเฉยๆ ก็ได้จ้ะ”
คิมหันต์รีบกล่าวทั้งที่สายตาแทบไม่ละจากใบหน้าสะสวยของเธอ สุ้มเสียงหวานเสียจนคนเป็นบิดาอยากจะถีบให้ตกเก้าอี้ นึกในใจว่าเชื้อหื่นไม่ทิ้งแถวเลยจริงๆ ไอ้ลูกคนนี้
“รู้จักกันไว้… นี่หนูแพรว”
นายประทีปแนะนำหญิงสาวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
“แพรวฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ”
หญิงสาวยกมือไหว้อ่อนหวาน
“ยินดีครับ”
คิมหันต์ทำเสียงหล่อ เขานึกในใจว่านอกจากหน้าตาสะสวยแล้วทรวดทรงองค์เอวยังอะร้าอร่าม พูดจาไพเราะอีกต่างหาก แบบนี้มีหรือที่เขาจะกล้าปฏิเสธรับเอาไว้เป็นน้องสาวคนพิเศษ
เวลาบนโต๊ะอาหารผ่านไปพร้อมๆ กับเสียงสนทนาเบาๆ หลังจากที่ได้พูดคุยทำความรู้จักกันได้ครู่ใหญ่ๆ ท่าทางของหนุ่มสาวเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น
‘น้องสาว’
คิมหันต์รำพึงคำนั้นอยู่ในใจ ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่าจู่ๆ ก็มีน้องสาวเข้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน
ภายหลังเสร็จจากรับประทานอาหาร หนุ่มสาวพากันออกมาเดินเล่นที่สวนหย่อมหน้าบ้าน ตามคำชักชวนของคิมหันต์ที่อยากใช้เวลาทำความรู้จักกับแพรวพรรณให้มากกว่านี้ เพราะนานๆ เขาจึงจะมีโอกาสกลับมาเชียงใหม่สักครั้ง ช่วงเวลานี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความรู้จักกับน้องสาวแสนสวยคนนี้
“อายุเท่าไรแล้วล่ะเรา”
เขาถามเหมือนกลัวว่าจะเผลอพรากผู้เยาว์เข้าสักวัน
“ยี่สิบสองค่ะ”
เขานึกในใจว่าวัยกำลังน่าเคี้ยว
“เรียนอยู่ปีไหนแล้ว… ใกล้จบหรือยัง”
คิมหันต์ถาม หลังจากคุยกันแล้วได้ความว่าหญิงสาวกำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
“ปีสี่แล้วค่ะ… ”
“สาขาอะไร”
เขาทำหน้าอยากรู้
“บริหารธุรกิจค่ะ…”
“ดีจัง… อีกไม่นานก็คงจะจบแล้วสินะ”
“ใช่ค่ะ เดือนหน้าแพรวคงต้องเริ่มหาที่ฝึกงาน ตอนนี้กำลังดูๆ อยู่ว่าจะฝึกงานในเชียงใหม่หรือที่กรุงเทพฯ”
แพรวพรรณบอกไปตามตรง
“ไปฝึกงานกับพี่ก็ได้นะ… ถ้าสนใจ บริษัทพี่มีงานให้ช่วยเยอะเลย”
เขาถือโอกาสชักชวน จู่ๆ ก็อยากได้เลขาส่วนตัวขึ้นมาซะงั้น
“จริงหรอคะ ขอบคุณค่ะ… พี่คิมใจดีจัง”
หญิงสาวยิ้มหน้าระรื่น แสดงอาการตื่นเต้นดีใจจนออกนอกหน้า ตัวจริงของคิมหันต์ช่างน่ารัก จากที่เห็นในรูปว่าหน้าเข้มๆ นึกว่าจะดุเสียอีก
“แต่บอกก่อนนะว่าบริษัทพี่งานค่อนข้างหนัก แล้วตอนนี้เรามีหลายโครงการ ทั้งบ้านเดี๋ยว คอนโดและทาวน์เฮาส์ของเราผุดขึ้นอีกหลายแห่ง ที่พี่ไม่ค่อยได้กลับมาเชียงใหม่เพราะบางครั้งต้องออกไซต์งานต่างจังหวัดบ่อยๆ”
คิมหันต์เป็นคนขยัน เราชอบออกตรวจงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับช่างรับเหมาของโครงการ ไม่ใช่ผู้บริหารในแบบที่ชอบชี้นิ้วสั่งงานอยู่แต่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำภายในออฟฟิศ
“ไม่มีปัญหาค่ะ เจองานหนักสิดี แพรวจะได้เก่งเร็วๆ”
ความใสซื่อและบริสุทธิ์ต่อโลก ทำให้หญิงสาวตอบอย่างคนมองโลกในแง่ดี ชายหนุ่มนึกในใจว่าเดี๋ยวเขาจะจัดงานหนักๆ ให้เป็นพิเศษ… อิอิ คอยดู
คิมหันต์หารู้ไม่ว่าแรงจูงใจและเหตุผลสำคัญเหนือสิ่งอื่นใดที่ทำให้สาวน้อยตรงหน้าตอบโดยไม่ต้องคิดว่าจะฝึกงานในบริษัทของเขา… ก็เพราะเธออยากใกล้ชิดกับเขานั่นเอง
แพรวพรรณแอบปลื้มเขาตั้งแต่แรกเห็น ชายหนุ่มสะกดเธอด้วยรูปถ่ายที่แขวนเอาไว้ข้างฝาผนังห้องรับแขก ในรูปที่เห็นนั้นเขาหล่อเหลามาก แต่พอเจอตัวจริง อุต่ะ! ยิ่งหล่อกว่าในภาพถ่ายอีกหลายสิบเท่า
นี่ถ้าไม่รู้จักกันมาก่อน เธอคงคิดว่าเขาเป็นนายแบบที่หลุดมาจากปกแมกกาซีนฝรั่งอย่างแน่นอน หน้าตาคมเข้มแบบหนุ่มละตินอเมริกัน ทำเอาเธอเก็บไปฝันแทบทุกคืน