ตอนที่ 1 แรกเริ่ม[1]
ตอนที่ 1 แรกเริ่ม
หลายวันผ่านไป
ชีวิตในวัยมหาลัยของหฤทัยก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิมมากสักเท่าไหร่ ไปเรียน เรียนเสร็จก็รีบกลับมาบ้าน นอกจากกานต์ชนก เธอก็ไม่ได้มีเพื่อนเพิ่ม อาจจะมีคนมาทักทายบ้างแต่ก็ไม่ได้ถึงกลับสนิทสนมอะไรมากนัก
“ขวัญ กลับบ้านกัน พี่พงษ์มารับแล้ว”
“จ้ะ”เธอหันไปเก็บหนังสือที่อ่านฆ่าเวลา ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามหลังของกานต์ชนกไปที่รถคันหรูของกิตติพงษ์
เวลาที่กิตติพงษ์สวมใส่ชุดนักศึกษา มันทำให้ชายตรงหน้าเป็นผู้ใหญ่มากๆ แถมหน้าตาของเขา ก็ละหม้ายคล้ายกับกิตติภพมากอีกด้วย ไม่รู้ทำไมพอหฤทัยนึกถึงใบหน้าเย็นชาของอีกคน สีหน้าสวยจิ้มลิ้มของหญิงสาวก็อดไม่ได้ที่จะแดงก่ำออกมา
“ร้อนเหรอขวัญหน้าแดงเลย”
“เอ่อ ใช่จ้ะแดดแรงมาก” กานต์ชนกพยักหน้ารับรู้ ไม่ได้ถามอะไรอีก ทั้งสองขึ้นไปนั่งบนรถก่อนจะพูดคุยเรื่องทั่วไปตามประสา เพียงไม่นานรถของกิตติพงษ์ก็เลี้ยวเข้ามาจอดในบ้านหลังใหญ่แทบจะเรียกว่าคฤหาสน์ก็ว่าได้
หฤทัยเดินลงจากรถไม่วายเอ่ยขอบคุณชายหนุ่มตรงหน้า กิตติพงษ์ได้แต่พยักหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในบ้านด้วยสีหน้าเรียบนิ่งตามนิสัย คนตัวเล็กพ่นลมหายใจออกมา อันที่จริงเธอชินกับนิสัยของผู้ชายคนนี้แล้วต่อให้กิตติพงษ์ไม่ค่อยพูด แต่เขาก็ไม่เคยต่อว่าหรือทำอะไรให้เธอเสียใจ ไม่เหมือนกับอีกคน หากแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไม คนนิสัยใจร้ายอย่างกิตติภพถึงทำให้หัวใจเธอสั่นไหวก็ไม่รู้
หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นล่าง เธอไม่ได้อยู่ชั้นบนเหมือนคุณๆ เขา แต่ก็ไม่ได้อยู่ห้องคนใช้ ห้องของเธอถือว่าหรูกว่าห้องสมัยเด็กมาก การที่เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้คุณปู่กิตติศักดิ์ดูแลเธออย่างดี ไม่ให้อยู่อย่างอดอยาก เธอจึงคอยช่วยเหลืองานในบ้านบ้าง เพราะไม่ต้องการอยู่เฉยๆ ถึงแม้ชายชราจะเคยสั่งห้ามก็ตาม
ร่างบางอรชรเปลี่ยนจากชุดนักศึกษาเป็นชุดไพรเวทธรรมดา เสื้อยืดกางเกงขาสั้น ด้วยร่างกายที่กำลังเติบโตทำให้หญิงสาวมีหุ่นดีสมวัย มีทรวงทรงเข้ากับใบหน้าจิ้มลิ้ม หฤทัยเป็นคนผมดกดำเธอปล่อยยาวจนถึงกลางหลัง ทุกๆ วันเวลาทำงานบ้านเธอก็จะใช้กิ๊บใหญ่รวบผมขึ้นยิ่งทำให้เธอดูน่ามองอย่างละสายตาได้ยาก มันเป็นความสวยที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเพิ่มเติม
ที่ผ่านมามีหนุ่มๆ มาจีบเธออยู่บ่อยครั้ง ทว่าหญิงสาวก็ไม่เคยสนใจ เพราะไม่อยากทำให้คุณปู่ผิดหวังในตัวเธอ เธอยังเด็กอยู่ด้วย ทำให้ไม่คิดที่จะสนใจใครในตอนนี้ และก็อีกอย่างเพราะคำพูดของใครอีกคนทำให้ไม่กล้าเปิดใจให้ใคร
‘คุณปู่ไม่เห็นต้องส่งเสียผู้หญิงคนนี้เลย ไม่รู้จะเรียนจบรึเปล่า หรืออาจจะมีผัวตั้งแต่ยังไม่จบม.ปลายก็ได้’ มันคือคำพูดของกิตติภพที่เอ่ยตราหน้าเธอเอาไว้ สิ่งนี้เลยทำให้เธอไม่คิดสนใจผู้ชายคนไหน
“หนูขวัญไม่ต้องมาช่วยป้าก็ได้ ไปทำการบ้านเถอะ” เสียงป้าน้อย หัวหน้าแม่บ้านคนเก่าคนแก่ที่อยู่อาศัยในบ้านหลังนี้เอ่ยบอกคนตัวเล็กด้วยสายตาเอ็นดู เธอเห็นหฤทัยมาตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งตอนนี้ เด็กสาวคนนี้เป็นคนคิดดีทำดีเลยทำให้เธอรู้สึกเอ็นดูในตัวของหฤทัยมาก
“ขวัญไม่มีการบ้านค่ะ เพิ่งเปิดเทอมเองให้ขวัญช่วยงานคนอื่นบ้างนะคะ” ที่บ้านหลังใหญ่นี้มีแม่บ้านอยู่อีกสองสามคน มีคนขับรถ คนสวน เรียกได้ว่าแม่บ้านยันคนสวนรวมๆ แล้วก็หลายชีวิตเลย
“ดื้ออีกแล้ว ถ้าคุณท่านมาเจอจะโดนดุเอานะคะ”
“ตอนนี้คุณปู่ไม่ว่าอะไรแล้วค่ะ ถึงว่าขวัญก็แอบมาทำอยู่ดี ขวัญไม่อยากกินๆ นอนๆ อยากตอบแทนคุณปู่ที่ช่วยเหลือขวัญด้วย”
“เฮ้อ ดื้อจริงๆ คนนี้”
“โอ๊ยป้า เธออยากทำก็ให้ทำไปสิ ดีแล้วที่คิดได้ ทำให้พ่อแม่คุณชายตาย คุณท่านก็ยังเอามาเลี้ยงดู ไม่รู้จะพ่อพระไปไหน! รู้จักตอบแทนบุญคุณก็สมควรแล้ว!” เสียงพี่แจ๋มแม่บ้านอีกคนเอ่ยออกมา
“นังแจ๋ม!” ป้าน้อยหันไปมองด้วยความไม่พอใจทันที ก่อนจะหันกลับมามองสีหน้าถอดสีของเด็กสาวตรงหน้า หญิงวัยกลางคนรู้ดีว่ามีเพียงเรื่องนี้ที่ตอกย้ำความรู้สึกเจ็บปวดในใจของหฤทัยมากแค่ไหน
“ฉันพูดความจริง รับไม่ได้รึไงกัน!”
“แกไปล้างผักเลยไป ปากไม่เคยจะอยู่สุขเลยนะ!” ป้าน้อยบ่นแม่บ้านอีกคนด้วยสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะหันหน้ามาหาเด็กสาวตรงหน้าที่ซึมลงไปเล็กน้อย ก่อนที่หฤทัยจะระบายยิ้มออกมาบอกว่าไม่เป็นอะไร
แต่ถึงจะพูดออกไปอย่างนั้นแต่ป้าน้อยก็รู้ดีว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่ปากพูด เธอเลี้ยงดูหฤทัยมา ทำไมจะไม่รู้จักนิสัยกัน
“ป้าวานหนูขวัญเอาน้ำส้มกับของว่างไปให้คุณหนูกานต์หน่อยนะ”
“ได้ค่ะป้า” หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะยกถาดของว่างไปให้เพื่อนสนิทบนห้องนอน