2 มากกว่าที่คิดไว้
เอกอาทิตย์นอนเฝ้าอัญชิสาจนเช้าแต่หญิงสาวก็ยังไม่ตื่นเขาจึงบอกพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ให้จัดการเรื่องพยาบาลพิเศษอีกครั้ง ก่อนจะรีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัวที่บ้านและกลับมาราวน์จนเสร็จก็มาตรวจผู้ป่วยที่แผนกผู้ป่วยนอก
“หมอซันคะ” ศิราณีหัวหน้าพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกเคาะประตูที่เปิดทิ้งไว้ก่อนจะเดินเข้ามาหลังจากที่ผู้ป่วยคนล่าสุดเดินออกไปแล้ว
“มีอะไรครับพี่ณี”
“แผนกผู้ป่วยในโทรมาแจ้งว่าตอนนี้อัญฟื้นแล้ว”
“จริงเหรอครับ แต่ทำไมหน้าของพี่ณีดูไม่ดีเท่าไหร่เลย”
“ก็เขาบอกว่าอัญจำอะไรไม่ได้เลยน่ะสิคะหมอซัน พี่ก็เลยจะมาชวนหมอซันขึ้นไปดูหน่อย”
“อะไรนะครับพี่ณี” คุณหมอหนุ่มตกใจมากเพราะไม่คิดว่าอาการของเธอจะหนักถึงเพียงนี้
เมื่อเช้าเขาได้รับแจ้งจากหมอแผนกออร์โธปิดิกส์ว่ากระดูกข้อเท้าด้านซ้ายของเธอมีรอยร้าวและจำเป็นที่จะต้องใส่เฝือกซึ่งเขาก็รับทราบ แต่ไม่คิดว่าอาการทางสมองของเธอจะแย่กว่าที่คิดไว้
หมอเอกอาทิตย์ดูผลซีทีสแกนแล้วก็ไม่เห็นว่าจะมีเลือดออกหรือเลือดคั่งตรงจุดไหน ทำให้ชายหนุ่มค่อนข้างเบาใจมาก แต่เมื่อได้ยินว่าเธอจำอะไรไม่ได้ก็เลยตกใจและกังวลเนื่องจากตนเองเป็นต้นเหตุทำให้หญิงสาวต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้
“ตอนนี้อัญจำอะไรไม่ได้เลยค่ะหมอซัน จำคนรอบข้างไม่ได้จำไม่ได้ว่าตัวเองเป็นใคร”
“ผมว่าเรารีบไปกันดีกว่านะครับพี่ณี”
สีหน้าของเอกอาทิตย์เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขารู้ว่าตัวเองเป็นสาเหตุเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดและยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่างแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะรับผิดชอบยังไง
“พี่ณีครับผมรู้มาว่าอัญไม่มีญาติที่ไหน”
“ใช่ค่ะหมอซัน อัญไม่มีญาติที่ไหนมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งทำงานอยู่ที่แผนกโอพีดี”
“แล้วแบบนี้ใครจะดูแลเธอล่ะครับ”
“พี่ก็หนักใจเรื่องนี้เหมือนกัน ลำพังแค่กระดูกร้าวเราก็น่าจะผลัดกันดูแลได้แต่ถ้าเธอจำอะไรไม่ได้เลยแบบลำบากหน่อย ช่วงนี้ก็คงต้องอยู่โรงพยาบาลไปก่อน”
“เรื่องนี้ผมเป็นต้นเหตุทั้งหมดผมคิดว่าจะเป็นคนรับผิดชอบเอง พี่ณีคิดว่าผมจะพาเธอไปอยู่ที่บ้านดีไหม” เขาปรึกษาพี่หัวหน้าพยาบาลซึ่งน่าจะเป็นคนที่รู้จักและสนิทกับอัญชิสาดีกว่าใคร
“พี่ว่าก็เป็นความคิดที่ดีนะ แต่อัญจะยอมไปหรือเปล่ามันก็อีกเรื่องหนึ่งนะคะหมอ แล้วที่บ้านหมอจะมีคนดูแลเหรอ”
“ถ้าอัญยอมไปอยู่จริงผมก็คงจ้างคนมาดูแล แต่ผมกับเธอก็ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ยิ่งเธอจำอะไรไม่ได้แบบนี้ก็คงจะยากที่จะยอมไปอยู่กับผม”
“หรือจะให้เธอพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลแต่ก็คงต้องจ้างพยาบาลพิเศษเฝ้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ถ้าหากอาการทางกายเธอดีแล้วพี่ว่าพาออกไปอยู่นอกโรงพยาบาลน่าจะดีกว่า”
“ผมว่าจะปรึกษาเรื่องนี้กับหมอเจ้าของไข้ดูว่าอัญจะออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่”
ทั้งสองคนเดินมาถึงแผนกผู้ป่วยในก็เจอกับที่ธีรกานต์คุณหมอหนุ่มจากแผนกอายุรกรรมซึ่งเป็นเพื่อนของหมอเอกอาทิตย์
“ได้ข่าวว่าขับรถชนคนใช่ไหมซัน”
“อือ ข่าวเร็วดีนี่”
“ก็คนที่นายชนเป็นพยาบาลของที่นี่ฉันก็ต้องมารู้สิ นี่นายก็มาเยี่ยมเหมือนกันเหรอ นายไปขับรถชนเธอได้ยังไง”
“เมื่อคืนฉันรีบมากไปหน่อยก็เลยไม่ทันมองว่ามอเตอร์ไซค์สวนเข้ามาที่หน้าโรงพยาบาลน่ะ"
“แล้วนายเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ฉันไม่เป็นอะไรหรอก เราเข้าไปข้างในกันเถอะ”
เมื่อเดินเข้ามาในห้องตรวจคุณหมอจากแผนกศัลยกรรมประสาทก็กำลังตรวจอาการของอัญชิสาพอดี
“คนไข้จำอะไรไม่ได้เลยเหรอคะอาจารย์” ศิราณีถามอาจารย์หมอด้วยสีหน้าเป็นกังวล
“ครับ”
“แล้วเราต้องทำยังไงบ้างครับอาจารย์”
“คงต้องค่อยๆ ฟื้นฟูความจำเธอทีละนิด อย่าพยายามให้เธอรู้ทุกอย่างในครั้งเดียว ได้ยินมาว่าหมอซันเป็นคนขับรถชนเธอเหรอ”
“ครับอาจารย์ ผมคงต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น”
“มีอะไรให้ผมช่วยก็บอกนะ ไปหาผมที่ห้องได้ตลอด ผมขอตัวก่อน อย่าคุยกับคนไข้นานล่ะ ผมอยากให้เธอได้พักผ่อน”
“ขอบคุณครับอาจารย์”
เมื่ออาจารย์หมอออกจากห้องไปแล้วศิราณีหัวหน้าพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกก็เข้าไปแนะนำตัวกับอัญชิสา
“สวัสดีจ้ะอัญพี่ชื่อณีนะ เป็นหัวหน้าพยาบาลแผนกที่อัญทำงานอยู่”
“ฉันชื่ออัญเหรอคะ”
“ใช่จ้ะชื่ออัญชิสาชื่อเล่นชื่ออัญดูตามบัตรประชาชนนี้นะ” ศิราณีหยิบบัตรประชาชนในกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในลิ้นชักหัวเตียงให้กับหญิงสาวดูซึ่งนอกจากบัตรประชาชนแล้วยังมีบัตรสมาชิกสภาการพยาบาลและใบขับขี่รวมถึงบัตรอื่นๆ อยู่อีกหลายใบ
“อัญเป็นพยาบาลเหรอคะ”
“อัญเป็นพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอก มาทำงานที่นี่ได้ประมาณสองปีแล้ว”
“แล้วอัญพักอยู่ที่ไหนคะ อัญอยากกลับบ้าน”
“อัญพักอยู่ที่หอพักของโรงพยาบาลน่ะ ส่วนจะกลับบ้านได้เมื่อไหร่คงต้องให้อาจารย์หมออนุญาตก่อน”
“ค่ะพี่ณี แล้วผู้ชายสองคนนี้เป็นใครคะ”
“คนนี้คุณหมอธีรกานต์เป็นคุณหมอเจ้าของโรงพยาบาล ส่วนคนนี้หมอเอกอาทิตย์หรือหมอซันเป็นคนที่ขับรถชนอัญเมื่อคืนน่ะ”
“หมอเอกอาทิตย์ขับรถชนอัญเหรอคะ”
“ใช่ครับ คุณเรียกผมซันก็ได้ ผมขอโทษนะอัญผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เมื่อคืนผมรีบไปหน่อย” คุณหมอหนุ่มพูดด้วยความรู้สึกผิดกับอัญชิสามากๆ
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้าเพราะตอนนี้เธอกำลังสับสนเป็นอย่างมากไม่รู้ว่าเรื่องที่รับรู้อยู่มันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า
“อัญปวดหัวจังเลยค่ะ” เมื่อพยาบามคิดถึงเรื่องในอดีตหญิงสาวก็รู้สึกปวดศีรษะมากๆ
“พักเถอะนะ พี่ขอลงไปทำงานเย็นนี้เลิกงานแล้วพี่จะขึ้นมาเยี่ยมใหม่ถ้ามีอะไรก็ให้พยาบาลโทรตามพี่ได้”
ศิราณีบอกกับลูกน้องก่อนจะเดินออกจากห้องไปพร้อมกับหมอเอกอาทิตย์และหมอธีรกานต์