1 รับผิดชอบ
เสียงเบรกของรถยนต์ดังลั่นก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงกระแทกดังโครมแล้วความโกลาหลก็เกิดขึ้นบริเวณหน้าโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
คนขับรถรีบวิ่งลงมาดูคนเจ็บจากนั้นเขาก็ตะโกนให้คนที่อยู่ใกล้ๆ วิ่งไปตามพนักงานรับส่งผู้ป่วยที่หน้าโรงพยาบาล
ไม่นานนักพนักงานแปลก็เข็นรถมาพร้อมกับพยาบาลที่แผนกห้องฉุกเฉินเพื่อมารับผู้ป่วยที่นอนหมดสติอยู่ บริเวณข้างๆ กันมีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งล้มอยู่ ชายหนุ่มเจ้าของรถยนต์จับมันขึ้นมาจอดข้างทาง แล้วรีบหยิบกระเป๋าถือที่หล่นอยู่ก่อนจะวิ่งตามเข้าไปในโรงพยาบาล
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณหมอ” พยาบาลอีกคนรีบวิ่งออกมารับรถเข็นคนเจ็บ
“ผมขับรถชนผู้หญิงคนเมื่อกี้ ฝากด้วยนะครับ”
เขารีบบอกกับพยาบาลจากนั้นคุณหมอประจำห้องฉุกเฉินก็รีบเข้าไปดูคนเจ็บส่วนตัวเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องก็เลยนั่งรออยู่ด้านหน้าห้องฉุกเฉิน
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงคุณหมอภายในห้องฉุกเฉินก็ออกมาแจ้งข่าว
“ใครเป็นญาติคนไข้ครับ” คุณหมอประจำห้องฉุกเฉินถาม
“ผมยังไม่ได้ติดต่อญาติเธอเลย”
“หมอซันรู้จักเธอเหรอครับ”
“เปล่าครับแต่ผมเป็นคนขับรถชนเธอครับ”
“ใครก็ช่วยติดต่อญาติเธอด้วยนะ”
“เธอไม่มีญาติที่ไหนหรอกค่ะ” พยาบาลคนหนึ่งพูดขึ้น
“อ้าว...แล้วรู้ได้ไง” คุณหมอประจำห้องฉุกเฉินถาม
“ก็คนที่นอนอยู่นั่นคือน้องอัญที่อยู่แผนกผู้ป่วยนอกไงคะ”
“นั่นอัญเหรอผมไม่ทันได้สังเกตเลย” หมอเอกอาทิตย์มัวแต่ตกใจจนไม่ทันสังเกตว่าเธอคือเพื่อนร่วมงานของตนเอง
“ทีนี้จะเอายังไงกันดีล่ะหมอซัน”
“ผมรับเป็นเจ้าของไข้เองก็ได้ครับคุณหมอ คนไข้เป็นยังไงบ้างครับ”
“ศีรษะเธอน่าจะกระแทกอะไรสักอย่างผมว่าจะพาเธอไปทำซีทีสแกนเพื่อดูว่าไม่มีเลือดออกตรงไหนบ้าง ส่วนบริเวณข้อเท้าข้างซ้ายน่าจะมีกระดูกร้าวพรุ่งนี้จะตามหมอกระดูกมาดูอีกที ว่าแต่หมอเถอะบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
“ไม่หรอกครับไม่ได้ผมไม่ได้ชนแรงขนาดนั้น”
เมื่อจัดการเรื่องคนไข้เสร็จแล้วตำรวจสองคนก็เดินเข้ามาในห้องฉุกเฉินพอดี
“ไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของรถคันที่เกิดอุบัติเหตุครับผม”
“ผมเองครับ”
“เราคงต้องขอตรวจปริมาณแอลกอฮอล์และเชิญคุณไปให้ปากคำที่โรงพัก”
“ไม่มีปัญหาครับคุณตำรวจ”
“หมอไม่ได้เมาใช่ไหมคะ” พยาบาลคนหนึ่งมองหน้าหมอเอกอาทิตย์สลับกับหน้าตำรวจแล้วถามขึ้น
“ไม่หรอกครับพี่ ผมฝากจัดการเรื่องคนไข้ด้วยนะมีอะไรติดต่อผมได้เลยได้นะครับ” เขาบอกพี่พยาบาลที่คุ้นหน้ากันดี
“ค่ะคุณหมอ ถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงพี่จะรีบโทรติดต่อคุณหมอนะคะ”
หมอเอกอาทิตย์หมอหนุ่มประจำแผนกมะเร็งของโรงพยาบาลเดินตามนายตำรวจสองท่านออกมาขึ้นรถไปยังสถานีตำรวจที่อยู่ใกล้ที่สุด
เขาให้ปากคำและวัดปริมาณแอลกอฮอล์เสร็จแล้วก็กลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งซึ่งตอนนี้อัญชิสาพยาบาลแผนกผู้ป่วยนอกกำลังถูกพาไปที่ห้องพักฟื้นแล้ว
“อาการตอนนี้ไม่น่าเป็นห่วงครับ เราเอกซเรย์และซีทีสมองดูแล้วไม่มีเลือดออกตรงไหนเลย คาดว่าน่าจะแค่กระทบกระเทือน แต่ระหว่างนี้ต้องคอยสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด ผมตามหมอศัลยกรรมสมองแล้วเดี๋ยวท่านจะตามไปดูบนวอร์ดครับ”
“ขอบคุณนะครับคุณหมอ” เอกอาทิตย์กล่าวขอบคุณหมอประจำห้องฉุกเฉินจากนั้นเขาก็เดินตามรถเข็นผู้ป่วยไปยังห้องพัก
“คืนนี้ใครจะเป็นคนเฝ้าน้องพยาบาลคนนี้คะ” พยาบาลแผนกผู้ป่วยในหันมาถามทางคุณหมอหนุ่มที่เดิมตามมา
“เธอไม่มีญาติที่ไหนเลยใช่ไหมครับ” เขาถามพยาบาลแผนกฉุกเฉินที่ตามมาส่งคนไข้
“เท่าที่รู้อัญเพิ่งเสียยายไปเมื่อหลายเดือนก่อนค่ะ เธอพักอยู่หอพักที่โรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ก็คงมีแค่เพื่อนในแผนกเท่านั้นหมอซันจะให้พี่ตามให้ไหมคะ”
“ผมว่าจ้างพยาบาลพิเศษเฝ้าดีไหมครับ ค่าใช้จ่ายผมจัดการเอง”
“แต่พยาบาลพิเศษตอนนี้ไม่มีใครว่างเลยค่ะ”
“คืนนี้ผมเฝ้าก่อนก็ได้แต่พรุ่งนี้คุณช่วยหาพยาบาลให้ผมหน่อยก็แล้วกันนะ”
“ได้ค่ะคุณหมอพรุ่งนี้เวรเช้าจะรีบจัดการให้ ถ้าคุณหมอขาดเหลืออะไรก็เรียกพวกเราได้ตลอดเวลาเลยนะคะ”
“ขอบคุณครับ”
แม้จะทำงานที่โรงพยาบาลมานานแต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เอกอาทิตย์ต้องมาทำหน้าที่เป็นญาติผู้ป่วย เขายืนคนที่นอนหมดสติรู้สึกเป็นห่วง เมื่อสักครู่เขายอมรับว่าตัวเองเป็นคนผิดที่รีบขับรถออกจากโรงพยาบาลโดยไม่ทันสังเกตว่ามีรถจักรยานยนต์สวนเข้ามา ถึงแม้เขาจะไม่ชนเธออย่างจังแต่มันก็ทำให้หญิงสาวเสียหลักจนล้มหัวไปกระแทกกับพื้นและข้อเท้าของเธอยังมีกระดูกร้าวอีกด้วย เอกอาทิตย์ภาวนาว่าพรุ่งนี้คุณหมอกระดูกมาตรวจแล้วอาการของเธอจะไม่เป็นอะไรมาก แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบเองทั้งหมด เนื่องจากตัวเองเป็นต้นเหตุและประมาทมากเกินไปเพราะไม่คิดว่าจะมีคนเข้ามาในโรงพยาบาลเวลานี้