บท
ตั้งค่า

11 ไม่เหงา

ร้านอาหารที่หมอเอกอาทิตย์พาอัญชิสามารับประทานอาหารเย็นในวันนี้เป็นร้านที่ติดกับชายหาดและเนื่องจากเป็นวันหยุดยาวคนมาทานอาหารค่อนข้างมากอัญชิสาเดินค่อนข้างจะลำบากแต่เธอก็พยายามเดินมาจนถึงโต๊ะ

“ขอโทษนะอัญผมไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้ มันทำให้อัญเดินลำบาก” เอกอาทิตย์รู้สึกผิดมากที่พาเธอมาทานอาหารร้านนี้

“คนเยอะก็แสดงว่าอาหารร้านนี้อร่อย หมออย่าคิดมากเลยค่ะ อัญเดินลำบากก็จริงแต่มันก็คุ้มนะคะร้านนี้บรรยากาศดีมากๆ ค่ะ”

“อัญอยากกินอะไรครับเดี๋ยวผมสั่งให้”

“น่ากินทุกเมนูเลยค่ะ แต่ถ้าสั่งมาหมดนี้คงไม่ไหวแน่ๆ อัญขอเป็นกุ้งเผาแบบที่แกะแล้วกับหมึกไข่นึ่งมะนาวก็แล้วกันค่ะ หมอซันล่ะคะกินอะไรดี” หญิงสาวถามคนที่นั่งจ้องเมนูอย่างใช้ความคิด

“ผมขอเป็นปูนึ่งกับกั้งทอดกระเทียมแล้วก็ต้มยำกุ้งน้ำข้นก็แล้วกันครับ อัญว่าพอไหม”

“น่าจะเกินพอแล้วค่ะ”

ด้วยบรรยากาศริมทะเลและอาหารที่อร่อยของทางร้านทำให้ทั้งสองใช้เวลาทานอาหารค่อนข้างนานพอรู้สึกตัวอีกทีเกือบจะสองทุ่ม

เพราะคนที่ร้านยังเยอะและพลุกพล่านมากชายหนุ่มจึงเป็นห่วงว่าจะมีใครเดินมาชนอัญชิสา เขาเดินนำและคอยหันหลังไปดูตลอดทาง ทำให้คนที่เดินตามมานั้นรู้สึกอบอุ่นหัวใจและคิดว่าการมีคุณหมอหนุ่มคนนี้อยู่ข้างๆ มันทำให้เธอมีความสุขและไม่เสียใจเลยหากว่าจากนี้ตนเองจะจำเรื่องในอดีตไม่ได้เพราะในปัจจุบันเธอมีความสุขและไม่ได้โดดเดี่ยวเลยสักนิด

“เมื่อยไหมครับ วันนี้อัญเดินไกลมาก” เขาถามเมื่อขึ้นมานั่งยังตำแหน่งคนขับ

“นิดหน่อยค่ะ แต่หมอไม่ต้องห่วงหรอกค่ะอัญยังไหว”

ออกจากร้านอาหารแล้วคุณหมอหนุ่มก็พาเธอกลับมาบ้านพัก ทั้งสองแยกกันเข้าห้องนอนเพื่อจัดการธุระส่วนตัวก่อนจะออกมานั่งที่ห้องรับแขกอีกครั้ง

“อัญอยากออกไปนั่งรับลมทะเลข้างนอกไหม ตรงข้างสระว่ายน้ำมีเตียงอาบแดดอยู่นะครับ”

“ไม่ดีกว่าค่ะ” ใจจริงแล้วหญิงสาวก็อยากออกไปนั่งมองดาวข้างนอกแต่เพราะทางเดินมันค่อนข้างลำบากจึงต้องปฏิเสธเขาไปแบบนั้น

“แต่คืนนี้ดาวสวยมากเลยนะ ผมว่าน่าเสียดายมากถ้าอัญไม่ได้ออกไปมอง” เขาพยายามชักชวนเพราะไม่อยากให้หญิงสาวอุดอู้อยู่แต่ในบ้านพักแบบนี้ อีกอย่างชายหนุ่มคิดว่าลมเย็นๆ และเสียงคลื่นอาจจะทำให้หญิงสาวรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

“อัญก็อยากออกไปข้างนอกนะคะหมอซันแต่ทางเดินจากตรงนี้ไปข้างสระอัญว่ามันไม่ค่อยเรียบเท่าไหร่ อัญกลัวจะหกล้มค่ะ” ในที่สุดหญิงสาวก็ตัดสินใจบอกเขาไปตรงๆ เพราะถ้าหากเธอหกล้มขึ้นมาอีกครั้งก็อาจจะต้องใช้เวลาอีกนานในการพักฟื้น

“เรื่องแค่นี้เองไม่เป็นปัญหาหรอกคุณเชื่อใจผมไหมล่ะ” เขาถามแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์

“หมอซันหมายความว่ายังไงคะ”

“ผมอุ้มอัญไปก็ได้ใกล้นิดเดียวเอง”

“ไม่ดีกว่าค่ะ อัญเกรงใจ”

“โธ่อัญแค่นี้เองนะไม่ต้องเกรงใจหรอก เดี๋ยวผมพาไปนะ” เขาไม่รอฟังคำปฏิเสธเป็นครั้งที่สองชายหนุ่มเดินมาใกล้แล้วช้อนตัวเธอขึ้นจากโซฟาจากนั้นก็อุ้มเธอออกไปข้างนอกก่อนจะวางหญิงสาวลงบนเตียบอาบแดดข้างสระว่ายน้ำ

“ขอบคุณค่ะ อัญทำให้หมอลำบากอีกแล้ว ตัวอัญหนักไหมคะ” หญิงสาวกล่าวอยางเกรงใจ

“ไม่เลยคุณตัวเล็กนิดเดียวเองนะอัญให้ผมอุ้มแบบนี้ทุกวันก็ไหว”

“ใครจะให้หมออุ้มแบบนี้ทุกวันล่ะคะ”

“ผมพูดเผื่อไว้ถ้าคุณเบื่อที่จะใช้ไม้เท้า”

“อย่าทำตัวเองให้ลำบากเลยค่ะหมอ ตอนนี้อัญยังไหวค่ะ ถ้าไม่ไหวจริงอัญจะให้หมออุ้มนะคะ”

“ตกลงครับ ผมว่าจะไปหาอะไรดื่มหน่อยดื่มอัญอยากดื่มอะไรไหม”

“ขอแค่น้ำเปล่าก็พอค่ะ แต่ถ้าหมออยากจะดื่มอะไรหมอก็เอามาเลยะคะ”

“ผมกินเบียร์ได้ไหม”

“ได้สิคะ หมอไม่ต้องขออัญหรอกค่ะ”

“แล้วอัญล่ะเอาไหม”

“อัญไม่สบายอยู่นะคะหมอซัน อัญคงกินแบบนั้นไม่ได้”

“โทษทีครับ ผมลืมเรื่องนี้ไปเลย ถ้างั้นผมผมขอเข้าไปเอาก่อนนะครับ”

เขากลับเข้าไปในบ้านพักและออกมาพร้อมกับเบียร์ น้ำเปล่า และผลไม้ที่แวะซื้อมาจากรถเข็นตรงบริเวณชายหาดอีกหนึ่งจาน

“บรรยากาศที่นี่ดีจริงๆ นะคะหมอซัน ขอบคุณนะคะที่พาอัญมาเที่ยว อัญสบายใจขึ้นมากเลย”

“ผมดีใจนะที่อัญชอบที่นี่ ผมเองก็ชอบครับ นานแล้วที่ผมไม่ได้ออกมาเที่ยวแบบนี้”

“ปกติหมอซันทำแต่งานเหรอคะ แล้วก่อนหน้าที่จะย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลนี้หมอซันทำงานอยู่ที่ไหน”

“อเมริกาครับ”

“แล้วทำไมถึงกลับมาที่เมื่องไทยล่ะคะ หรือว่าครอบครัวอยากให้กลับ” อัญชิสาไม่เคยได้ยินเขาพูดถึงครอบรัวเลยสักครั้งพอได้โอกาสก็เลยถามออกไป

“ผมไม่มีครอบครัวหรอกครับ” หมอเอกอาทิตย์ตอบด้วยน้ำเสียงที่เบากว่าปกติ

“ขอโทษนะคะที่ถามแบบนี้ออกไป” น้ำเสียงที่ตอบทำให้คนฟังรู้สึกผิดที่ถามเขาถึงเรื่องที่ละเอียดอ่อน

“ไม่เป็นไรครับ”

“หมออยากเล่าให้อัญฟังไมคะ”

“คุณอยากฟังไหม”

“ค่ะ”

“พ่อแม่ผมเสียไปตั้งแต่ผมเด็กแล้วครับ ผมเติบโตมากับครอบครัวของคุณป้า พอจบมัธยมหกผมก็สอบชิงทุนเพื่อเรียนมหาวิทยาลัย จากนั้นก็แยกออกมาอยู่ตามลำพังจนถึงตอนนี้ครับ”

“หมออยู่คนเดียวมาตลอดเหรอคะ”

“ครับ ผมใช้ชีวิตคนเดียวมาตั้งแต่อายุสิบแปดแล้วครับ” เขาไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังมาก่อนแต่พออัญชิสาถามเขากลับเปิดปากเล่าออกมาเพราะรู้สึกว่าเธอเป็นคนที่เขาไว้ใจและอยากให้เธอรู้ถึงความเป็นไปของตนเอง

“แล้วได้กลับไปหาคุณลุงคุณป้าบ้างไหมคะ”

“ผมไม่ค่อยไปเยี่ยมท่านหรอกครับ แต่หลังเรียนจบก็ส่งเงินให้ท่านใช้เป็นประจำจนกระทั่งท่านเสียก็เลยหยุดส่ง ตอนนี้ก็เท่ากับผมไม่เหลือญาติที่ไหนเลย”

“แล้วคุณลุงกับคุณป้าไม่มีลูกเหรอคะ”

“มีครับ แต่ก็ไม่ได้ติดต่อกันพวกเขาไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่”

“ทำไมล่ะคะ”

“เพราะผมเป็นเด็กที่ขยันเรียนและเรียนเก่งกว่าพวกเขา คุณลุงกับคุณป้ามักจะเปรียบเทียบผลการเรียนของผมกับพวกเขานะครับ”

“เหงาไหมคะ”

“ครับ ผมรู้สึกทั้งเหงาและโดดเดี่ยวเลยเลือกที่จะทุ่มเทเวลาไปกับการทำงาน อีกอย่างผมก็อยากหาเงินเยอะๆ เพื่อสร้างอนาคตของตัวเอง”

“แต่ตอนนี้หมออาจจะทำงานได้น้อยลงเพราะอัญเป็นภาระ”

“ผมไม่เคยคิดเรื่องนั้นเลยนะครับ อัญก็ไม่ต้องคิดมากเราเป็นแฟนกันนะ ผมดูแลอัญในฐานะที่เราเป็นแฟนกันไม่ใช่เพราะอยากจะรับผิดชอบเรื่องอุบัติเหตุอย่างที่อัญเข้าใจ”

“ขอบคุณนะคะหมอซัน อัญไม่รู้จะขอบคุณคุณยังไงดี”

“แค่อัญอยู่กับผมก็ถือว่าเป็นคำขอบคุณที่ดีที่สุดแล้วครับ”

“หมอบอกว่าอยากทำงานสร้างอนาคตแล้วทำไมถึงเลือกจะกลับมาทำงานที่เมืองไทยล่ะคะ อัญว่าเงินเดือนน่าจะน้อยกว่าที่อเมริกา”

“เงินเดือนที่นี่น้อยกว่าและทำงานหนักกว่า แต่เชื่อเถอะไม่ว่าใครถ้าเก็บเงินได้มากพอแล้วก็อยากจะลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิด และผมโชคดีมากที่กลับมาเมืองไทยแล้วได้เจอกับอัญ จากที่คิดว่าจะกลับมาเหงาอยู่คนเดียวแต่พอมีอัญมาอยู่ด้วยผมก็หายเหงาครับ”

คำตอบของคุณหมอหนุ่มทำให้อัญชิสายิ้มกว้างเพราะการที่มาอยู่กับเขามันก็ทำให้เธอเหงาเหมือนกัน

ทั้งสองนั่งทานผลไม้และคุยกันจนกระทั่งเที่ยงคืนชายหนุ่มก็อุ้มเธอกลับมาส่งที่ห้องนอน

“ฝันดีนะครับอัญ”

“ฝันดีค่ะหมอซัน”

เมื่อหมอเอกอาทิตย์เดินออกจากห้องไปแล้วอัญชิสาก็หยิบสมุดบันทึกของเธอขึ้นมาเขียนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ลงไปในสมุด เพราะกลัวว่าถ้าหากจำเรื่องราวทุกอย่างได้และจะลืมความรู้สึกและช่วงเวลานี้ไป หญิงสาวจึงบันทึกทุกอย่างลงในไดอารี่เหมือนกับที่ทำเป็นประจำอยู่ทุกวันก่อนจะปิดไฟที่หัวเตียงและหลับตาลงพร้อมด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความสุข

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel