บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

เรือนร่างอวบอิ่มน่าคลึงเคล้นไปทุกสัดส่วนยืนบิดเอวคอดเอียงตัวซ้ายนิด ขวาหน่อยอยู่หน้ากระจกบานใหญ่เพื่อสำรวจตรวจตราความเรียบร้อยของการแต่งกายตนเอง รวมถึงความเป๊ะปังของเครื่องสำอางที่เคลือบทับผิวบนใบหน้าที่บรรจงแต่งแต้มสีสันพอประมาณด้วยความประณีต สวยงาม เสื้อสายเดี่ยวตัวสวยเนื้อผ้าบางเบาโปร่งสบายสีขาวแบบพอดีตัวที่สวมใส่อยู่นั้นคว้านคอต่ำแลเห็นร่องอกขาวนวลเนียนของสองเต้าทรวงอวบใหญ่ที่พุ่งดันออกมาเป็นรูปทรงสวยงามรำไร โดยมีผมยาวสลวยแผ่สยาย สีน้ำตาลอ่อนดัดลอนคลายตรงปลายคลอเคลีย แต่ก็อาจบดบังความขาวอวบของพุ่มทรวงเต่งตึงเอาไว้ได้มิดชิด ส่วนครึ่งล่างใส่เป็นกระโปรงทรงสอบเอวสูงสีดำที่ความยาวอยู่ประมาณหัวเข่าผ่าข้างขึ้นมาเกือบคืบเพื่อให้การก้าวเดินสะดวกสบาย ยิ่งสวมรองเท้าส้นเต้ารีดสีครีมด้วยแล้ว ยิ่งช่วยขับเน้นให้เรียวขาขาวผ่องเป็นยองใยคู่นี้ดูเรียวยาวมากกว่าปกติ และองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดจึงทำให้หญิงสาวเซ็กซี่ชวนมองอย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องพยายามปั้นแต่งแต่อย่างใด

“เป๊าะ”

เสียงเดาะปากและรอยยิ้มบางเบาแต่งแต้มบนริมฝีปากอวบอิ่มเมื่อเจ้าตัวพึงพอใจกับตัวเอง ที่ทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ลิปสติกที่ทาทับลงไปเมื่อสักครู่กระจายตัวได้ถ้วนทั่ว และทุกการกระทำของเธอนั้นได้รับความสนใจจากบรรดาผู้หญิงด้วยกันที่แวะเวียนมาเข้าห้องน้ำ แต่เธอก็หาได้สนใจสายตาของคนรอบข้างที่คอยเหลือบชำเลืองมองเลยแม้แต่น้อย สีหน้าเรียบเฉยไม่มีอาการเหนียมอายให้ใครเห็นหรือแสดงอาการคอยระแวดระวังกลัวว่าใครจะจับผิดคิดนินทาเลยสักนิด เธอไม่ได้ทำสิ่งใดแปลกประหลาด แตกต่างไปจากคนอื่นๆ เลย แล้วจะใส่ใจทำไมกัน ในเมื่อครึ่งหนึ่งของผู้หญิงที่เดินมาเข้าห้องน้ำ นอกจากจะมาปลดปล่อยทุกข์อย่างปวดหนัก ปวดเบาแล้ว อีกสิ่งหนึ่งก็คือเพื่อหวังจะเช็คดูใบหน้าของตัวเองในกระจกบานใหญ่ว่าเป๊ะปังทุกองศาแล้วหรือยัง

ด้วยรูปร่าง หน้าตาของเธอที่ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเรียกสายตาของใครต่อใครได้ดี โดยเฉพาะบรรดาผู้ชาย และสาวหล่อ ที่ผ่านมามีผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาขายขนมจีบไม่ว่างเว้น นับตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่นสมัยมัธยมปลายโน่นแล้ว แต่ที่เยอะสุดก็ตอนเข้ามหาวิทยาลัยนี่แหละ ทั้งรุ่นราวคราวเดียวกัน รุ่นพี่ในคณะ ต่างคณะ จนกระทั่งคนอายุมากกว่าหลายปี ไม่ว่าจะนักธุรกิจ วิศวะ กระทั่งคุณหมอก็เคยมาจีบ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนถูกเธอปฏิเสธแบบเด็ดขาด ไม่เคยกลับมานั่งคิดเสียดายเลยสักคน แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะหล่อ รวย โปรไฟล์ดีเลิศมากมายแค่ไหนก็ตาม เพื่อนบางคนถึงกับเอ่ยปากบอกว่าหล่อนบ้ารึเปล่าที่ปล่อยให้คนเหล่านั้นหลุดมือไป เสียดาย น่าจะเลือกสักคน เธออยู่ในจุดที่เลือกได้ ถามว่าเธอผิดเหรอที่ไม่สน ซึ่งคำตอบคือไม่เลย ในเมื่อหัวใจมันเต้นเป็นจังหวะปกติ ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทำไมจะต้องแกล้งให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับพวกเขาด้วยล่ะ และใช่ว่าที่เข้ามาจะจริงใจหมดเสียเมื่อไหร่ หนักเข้าถึงขั้นมีคนพูดว่าเธออาจจะเป็นเลสเบี้ยน แบบนิยมชมชอบเพศเดียวกัน แล้วยังไงล่ะ ชอบแล้วผิดตรงไหน คนจะรักกัน เพศไหนไม่เกี่ยวหรอก บ้างก็ว่าหยิ่งอย่างนั้นอย่างนี้ ก็แล้วแต่ คือใครจะว่ายังไงเธอไม่สนใจ ตราบใดที่ไม่ก้าวก่าย ไม่ละลาบละล้วงกันจนเกินขอบเขต ถ้ามัวแต่ตามแก้ข่าว เรื่องเล็กน้อยว่าไม่จริงนะ มันคือเรื่องเข้าใจผิด พร้อมอธิบายเหตุผลประกอบบลาๆ ว่าเธอยังคงชอบผู้ชายอยู่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่มีหัวใจเอนเอียงไปชอบผู้หญิงด้วยกันเองสักหน่อย ที่ไม่ตกลงปลงใจกับใครเป็นเพราะนั่นนี่ เหนื่อยตายพอดีถ้าต้องใส่ใจทุกเรื่องราว และเธอไม่ใช่คนในแวดวงบันเทิงอย่างพวกดารา นักร้องที่ต้องแคร์สื่อ อะไรที่ปล่อยวางได้ก็ควรจะปล่อยไป แต่ถ้าเรื่องไหนที่คิดว่าวางไม่ได้เธอก็จะไม่ยอมวางมันง่ายๆ แล้วเธอก็จะกลายเป็นอีกคนหากมันบานปลายลุกลามไปไกล นิสัยของนางสาวอิงฟ้า โรจน์สุวรรณ ก็เป็นแบบนี้แหละ อ่อนได้ ยอมได้ และร้ายได้เหมือนกัน

ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในตอนบ่ายแบบนี้ผู้คนพลุกพล่านไม่ต่างจากทุกวัน นับตั้งแต่เปิดจนถึงเวลาปิด ทั้งที่ตอนนี้ยังเป็นช่วงเวลาของการทำงานของคนทั่วไป แต่ไม่ใช่สำหรับที่นี่ สถานที่ซึ่งรวบรวมลูกค้าหลากหลายเชื้อชาติเอาไว้ด้วยกัน เป็นแหล่งละลายทรัพย์ชั้นดีที่ยั่วยวนจิตใจของบรรดาขาช็อป กระเป๋าสตางค์ในมืออาจสั่นสะเทือนได้ง่ายหากใจไม่แข็งพอ

บุรุษหนุ่มหน้าตาคมเข้ม บ่งบอกความเป็นชายไทยแท้ขนาดรูปร่างสูงใหญ่มากกว่ามาตรฐาน หุ่นกำยำ บึกบึน ผิวสีแทนคร้ามแดด แต่งกายสบายๆ ด้วยเสื้อยืดสีขาวล้วนไม่มีลวดลาย สะอาดสะอ้านพอดีตัว กับกางเกงยีนส์สีเข้มทรงกระบอก และรองเท้าหนังสีน้ำตาลคู่ใหญ่ เครื่องประดับเพียงชิ้นเดียวที่ติดกายคือนาฬิกาข้อมือ ชายหนุ่มยืนทำหน้าเคร่งขรึม ทว่าไม่ได้นิ่งเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไรดั่งเช่นรูปปั้น คิ้วหนาย่นเข้าหากันตลอด คล้ายเจ้าตัวมีนิสัยชอบหงุดหงิดอยู่ตลอดเวลา ในมือถือถุงกระดาษจากหลายแบรนด์ดังที่มีสัญลักษณ์ระดับโลกพะรุงพะรังเต็มสองไม้สองมือ หากเขาคิดจะวางมันลงก่อนก็ย่อมทำได้ แต่เขาไม่คิดที่จะทำ

“สิบห้านาทีเข้าไปแล้ว คนที่เดินเข้าไปทีหลังยังออกมาก่อนอีก มัวทำอะไรอยู่ ตั้งนานสองนาน” เสียงทุ้มห้าวกล่าวพึมพำกับตนเองอย่างไม่สบายใจ หลังจากยกข้อมือขึ้นมาดูเวลาบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนหรู ทรงสปอร์ตที่ได้รับเป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปลายปีที่แล้ว มันถูกส่งตรงมาจากที่นี่ เมืองหลวงของประเทศ พร้อมการ์ดที่แนบมากับกล่องซึ่งมีใจความส่วนหนึ่งว่าเขาจะต้องใช้มันให้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องสูญเสียไป ถ้าวันไหนไม่ใส่ก็ให้พึงระลึกเอาไว้เลยว่าเขาคือคนที่ไม่เห็นคุณค่าของเงิน ทิ้งขว้างของมีค่าอย่างน่าเสียดายโดยใช่เหตุ มันเป็นการขู่ที่เกินจริง เขาน่ะเหรอที่จะไม่เห็นคุณค่าของเงินหรือสิ่งของมีค่า และถึงจะรู้ตัวเองดีว่าตนเองเป็นคนยังไง การกล่าวหาที่ดักทางไว้เขาจะไม่ใส่ใจก็ได้แต่เขากลับไม่ทำอย่างนั้น ในทุกวันมันจะต้องอยู่ติดข้อมือนับตั้งแต่รุ่งเช้าของอีกวันหลังจากได้รับมันมา

สะบัดความคิดออก สายตาคมกริบก็คอยจ้องมองช่องทางเดินที่ทอดยาวเพื่อเดินเข้าไปสู่ห้องน้ำที่อยู่ลึก หลบมุมเข้าไปอีกพอสมควรครั้งแล้วครั้งเล่า และทุกครั้งที่หันหน้ากลับมาตรงๆ จะหลับตา ระบายลมหายใจอุ่นๆ ออกมายาว อีกทั้งการแสดงออกทางสีหน้าที่ไม่เก็บอาการแต่อย่างใด ทำให้ใครผ่านไปผ่านมาอดที่จะชำเลืองมองซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ได้ แต่เจ้าตัวหาได้สนใจไม่ ยังคงทำหน้านิ่วคิ้วขมวดดังเดิม วางถุงที่อยู่ในมือข้างหนึ่งกับพื้น ล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบสมาร์ทโฟนเตรียมจะกดโทรออก แต่ยังไม่ทันจะทำสำเร็จเจ้าของเรือนร่างกลมกลึง กลิ่นหอมจรุงใจก็มายืนอยู่ตรงหน้า มีรอยยิ้มติดแต้มบนเรียวปากงดงามดวงตาคู่สวยเป็นประกายสดใส สะกดให้หยุดนิ่งทุกการกระทำได้ง่ายๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel