บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 (4)

หญิงสาวอมยิ้มแก้มแทบปริเมื่อชายหนุ่มยอมตามใจตนเองโดยไม่แสดงความหงุดหงิดทางสีหน้าและแววตาออกมาให้เธอได้เห็นซึ่งจะทำให้เธอมีความสุขมากเป็นพิเศษ

“มาค่ะ แบ่งถุงมาให้ฟ้าช่วยถือบ้างดีกว่า ติณณ์ถือคนเดียวมาตั้งนานแล้ว” แบมือออกเพื่อจะแบ่งเบาถุงในมือชายหนุ่มที่เป็นของเธอทั้งหมดมาช่วยถือบ้าง

“ถ้าไม่ไหวแล้วผมจะบอกแล้วกัน ตอนนี้คุณหนูเดินสบายๆ ไปก่อนเถอะครับ ไม่ต้องห่วงว่าผมจะถือไม่ไหว ของแค่นี้ผมถือได้สบายมาก หนักกว่านี้ก็เคยถือเคยแบกมาแล้ว” เขาไม่ได้จะอวดอ้างแต่มันคือเรื่องจริง

“รู้ค่ะว่าเคยแบก หาม สารพัดสิ่งของหนักๆ มาแล้ว แต่ถ้าไม่ไหวต้องบอกเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ ฟ้าช่วยติณณ์ถือได้สบายมาก จริงๆ นะคะ” เธอไม่ได้รักสบายอยากเดินตัวปลิวชิวไปเรื่อยหรืออยากกินกำลังเขาอยู่ฝ่ายเดียว เพียงแค่ติณณ์เอ่ยปากเธอก็ยินดีช่วยด้วยความเต็มใจ เพราะของทุกอย่างในมือของชายหนุ่มมันเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น แล้วเหตุใดเธอจึงต้องการจะเห็นแก่ตัวเพื่อเอารัดเอาเปรียบสุภาพบุรุษร่างใหญ่ ความสูงประดุจเสาไฟสำหรับเธอแตะอยู่ที่หนึ่งร้อยแปดสิบเจ็ดเซนติเมตรด้วยเล่า แต่ก็นะ ลึกๆ แล้วก็แอบมีความหมั่นไส้ปะปนอยู่เหมือนกัน แต่ความปลื้มปริ่ม และอิ่มอกอิ่มใจมันมีมากกว่า

“ครับ”

“ตอนพูดง่ายๆ เนี่ย ติณณ์น่ารักที่สุดเลยรู้ไหมคะ ฟ้าชอบมาก” อิงฟ้ากล่าวชม พลางยิ้มหวาน ยกมือขึ้นหยิกแก้มสากระคายของคนน่าเอ็นดู เปล่งเสียงหัวเราะสดใสออกมา เมื่อเห็นคิ้วเข้มขมวดหน่อยๆ ทำหน้ายุ่งนิดๆ แล้วเปลี่ยนมาจูงข้อมือใหญ่ให้เดินเคียงคู่ไปด้วยกัน เธอไม่อยากเป็นผู้นำ แต่อยากให้เขาก้าวไปพร้อมกันกับเธอมากกว่า มันดีต่อใจกว่ากันเยอะ

ชายหนุ่มหลุบสายตาลงมองมือน้อยที่กำข้อมือเขาเอาไว้ แนบแน่นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย มุมปากยกยิ้มเล็กน้อย ยอมเดินตามแรงจูงของคนตัวเล็กไปโดยไม่ได้พูดหรือขัดอะไรให้บรรยากาศมันขุ่นมัว ถูกพาเข้าร้านไหนเขาก็อดทนรออย่างใจเย็น และเมื่อถึงวินาทีที่เริ่มตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้คุณหนูอิงฟ้าจะอ้อนให้ช่วยเลือกว่าตัวไหนเหมาะ สีไหนสวยกว่ากัน และไม่จบเพียงแค่นั้น บางครั้งที่เขาชี้นิ้วเลือกให้หลังจากพิจารณาดีแล้ว คนที่มาขอความช่วยเหลือเรื่องการตัดสินใจกลับไม่เอา เลือกตัวที่ตรงข้ามแทน เหมือนในตอนนี้ที่เขาต้องทำหน้าที่แสกนให้อีกครั้ง

“ติณณ์ว่าชุดนี้เป็นยังไงบ้างคะ สวยไหม แล้วสีไหนที่เหมาะกับฟ้ามากกว่ากัน ระหว่างสีครีม มัสตาร์ด โอลด์โรส และสีน้ำตาล” อิงฟ้าเอียงคอชูทั้งสองชุดที่อยู่ในมือ และบุ้ยหน้าไปทางที่พนักงานสาวรูปร่างท้วมช่วยเธอถืออีกสองชุด เพื่อให้ชายหนุ่มช่วยพิจารณาอีกแรง เพราะเธอไม่สามารถตัดสินใจเลือกได้ด้วยตัวเอง ประเภทว่ารักพี่แต่ก็เสียดายน้อง ถ้าจะเอาทุกสีทุกตัวก็ได้ แต่ยังไม่อยากตัดสินใจอย่างนั้น อยากฟังความคิดเห็นของติณณ์ก่อน ขาสวยขยับเท้าก้าวเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าโซฟาที่ชายหนุ่มนั่งรออยู่เงียบๆ กลายเป็นว่าตอนนี้เธอยืนแทรกกลางอยู่ระหว่างท่อนขาแข็งแรงทั้งสองข้าง

“ผมว่ามันโป๊เกินไป ตัวที่สวย และเรียบร้อยกว่านี้มีนะครับลองไปเลือกดูใหม่สิครับ” กายหนาขยับตัวเล็กน้อยเมื่อเรียวขาขาวแนบชิดกับท่อนขาตนเอง พลางมองชุดสวยสลับกับเรือนร่างกลมกลึงที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย แต่ทว่าภายในใจมันกำลังหงุดหงิด อย่าว่าแต่ชุดที่ให้เขาช่วยเลือกเลย ณ ตอนนี้อิงฟ้าก็แต่งตัวไม่มิดชิด ทั้งบนทั้งล่างเลย เปิดเผยเนื้อตัวมันเข้าไป ไม่รู้จะโชว์ใครนักหนา รูปร่าง หน้าตาก็เป็นจุดสนใจมากพอแล้ว บวกการแต่งกายเข้าไปด้วยยิ่งเรียกสายตาทุกเพศทุกวัย ระหว่างทางที่เดินแทบไม่มีใครเลยที่ไม่เหลียวมอง โดยเฉพาะผู้ชาย เกิดมาสวยไม่ใช่เรื่องผิด แต่การแต่งกายที่โชว์มากไปในที่สาธารณะ เขาว่ามันไม่โอเค การที่เราต้องตกเป็นเป้าสายตาของใครก็ไม่รู้ มันดีที่ไหน

“โธ่ อย่ามองว่ามันโป๊สิคะ แค่คอมันแหลมลึก ช่วงขาแหวกสูงไปหน่อยเท่านั้นเอง และมันเป็นแฟชั่นค่ะติณณ์ขา ที่สำคัญคือฟ้าชอบมันมากด้วย ดูสิคะ ดีไซน์สวยจะตาย” เธอไม่รู้หรอกว่าความสวยที่เธอเห็นเขาจะเห็นถึงมันไหม แต่ก็ดีใจที่เขาให้ความสำคัญเรื่องโป๊หรือไม่โป๊ตลอดเมื่อเธอให้เขาได้มีส่วนร่วม และนั่นแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ได้เฉยชากับทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเธอโดยตรง แต่เธอก็ยังคงเป็นเธอ อยากได้แล้วก็ตัดใจที่จะปล่อยมันไปไม่ได้ “เอาเป็นว่าฉันเอาครบทุกสีเลยแล้วกัน เพราะตัดสินใจที่จะเลือกเพียงชุดเดียวไม่ได้ คิดเงินได้เลยค่ะ ฉันเอาแค่นี้แหละ” หันไปบอกพนักงานที่คอยดูแล และส่งชุดที่ถืออยู่ให้พนักงานเพื่อทำการคิดเงิน ก่อนจะทรุดกายลงนั่งข้างร่างสูงที่ดูเหมือนจะไม่พอใจเธอสักเท่าไหร่ จากที่ว่าจะไม่เอาทุกสีแล้วนะ แต่เป็นเพราะติณณ์นั่นแหละ นอกจากจะไม่ช่วยแล้วยังเป็นแรงผลักดันการตัดสินใจของเธอ

“ถ้าจะตัดสินใจอย่างนี้จะถามความคิดเห็นทำไม”

“หือ ติณณ์กำลังงอนฟ้าเหรอคะ ที่ฟ้าไม่ยอมเลือกชุดใหม่ที่เรียบร้อยกว่านี้น่ะ” อิงฟ้าเบียดกระแซะร่างกายกำยำ เกาะแขนแกร่ง แล้วเปลี่ยนเป็นสอดแขนกอดเอาไว้แน่น พลางถูแก้มกับแขนแกร่งเป็นลูกแมวน้อยคลอเคลียเจ้าของ เขางอนไหมไม่แน่ใจหรอก เธอตีขลุม เดาเอาเอง เพราะเขาพูดให้คิดนี่นา ถึงหน้าจะนิ่งไปหน่อยก็ตาม แต่ก็ยังดีต่อใจเธออยู่ดี

“เปล่า” เสียงทุ้มห้าวตอบสั้นๆ ปรายตามองคนช่างประจบ

“เปล่าก็เปล่า” อิงฟ้ายิ้มใส่นัยน์ตาคนที่แสดงท่าทางปั้นปึ่งอย่างชอบใจ และยกมือขึ้นบีบคางบึกบึน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ปัดป้องแต่อย่างใด หยอกล้อเขาเล่นกระทั่งพนักงานนำถุงเสื้อผ้ามาให้พร้อมใบเสร็จ จ่ายเงินเรียบร้อยถึงได้พาติณณ์ออกจากร้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel