5
“จำเป็นต้องมาไหม??” เคเคยืนแหงนหน้ามองโรงแรมสูงถึงยี่สิบชั้นด้วยสายตาไม่สบอารมณ์มากนัก เมื่อเพื่อนๆ เรียกตัวเขากลับมาด่วนเพื่อที่จะได้ครบองค์ประชุม
โรงแรมที่ตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่ส่วนตัวหลายสิบไร่ ติดริมทะเลวิวทิวทัศน์สวยอย่างไม่ต้องพูดให้มากความ สถานที่พักผ่อนแห่งนี้เปิดบริการมาได้หลายเดือนแล้ว ลูกค้าที่เข้าพักส่วนมากมีแต่ลูกค้ากระเป๋าหนัก หรือชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่
“เอาน่าคิดซะว่าพาลูกพาเมียมาเที่ยวไง เห็นไอ้เตไหม มันยังไม่บ่นเลย” เพทายโบ้ยหน้าไปทางคู่สามีภรรยาที่กำลังสนใจเด็กชายตัวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของมะปราง มีภัณเตขนาบข้างไม่ห่างไปไหนแม้เพียงครึ่งก้าว
“อันนั้นเขาเรียกหลงลูกหลงเมีย” น้ำเหนือพูดขึ้นก่อนที่เขาจะเดินไปที่เคาน์เตอร์เพื่อเช็กอินเข้าพักตามปกติ
“แล้วไอ้ขุนละ มันหายหัวไปไหน ทุกวันนี้มันมาช้ารั้งท้ายเพื่อนตลอดเลย” เพทายบ่นออกมา สิ่งที่พูดเป็นจริงทุกประการ พักหลังๆ ขุนพลยุ่งจนไม่มีเวลามาสุมหัวกับเพื่อนอย่างเคย
“บ่นอะไร?” แล้วขุนพลก็ปรากฏตัวขึ้น พร้อมกับลูกน้องคนสนิท ที่ไม่เคยทิ้งห่างจากตัว
การปรากฏตัวของชายหนุ่มทั้งห้าคน สร้างความตื่นเต้นกับหญิงสาวที่เดินผ่านไปมาอย่างน่าเหลือเชื่อ แต่คุณชายทั้งห้ากลับวางมาดนิ่งมองเลยผ่านผู้หญิงเหล่านั้นเหมือนพวกเธอเป็นเพียงธาตุอากาศที่ไม่มีตัวตน
“กูขึ้นห้องก่อน” เคเคพูดขึ้นก่อนที่เขาจะหันหน้าพยุงภรรยาป้ายแดงพร้อมลูกขึ้นมาบนห้องพัก
“เอาไง??” เพทายหันมาถามเพื่อนอีกสามคน “งั้นกูขอขึ้นไปนอนสักหลายหงีบหน่อยแล้วกัน เมื่อคืนหนักไปหน่อย”
“วันไหนที่มึงเบา..” ขุนพลตอกกลับอย่างรู้ทัน มีวันไหนบ้างที่เพทายชายหนุ่มเจ้าสำราญจะไม่ดื่มและเที่ยวแล้วไม่ตบท้ายด้วยสาวสวยไม่ซ้ำคน
“เอ่อน่า..มีอะไรโทรเรียกแล้วกัน”
“พักผ่อนให้จริง ไม่ใช่หิวเด็กทำความสะอาดเข้าไปกินในห้องนะมึง” น้ำเหนือพูดปนขำ
“ที่นี่ฝ่ายทำความสะอาดเขามีแต่รุ่นป้าค่ะ เด็กสาวๆ เอาไว้ต้อนรับแขกหน้างานนะคะ” มะปรางพูดเสริมแล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย
ในช่วงค่ำของวัน มะปรางที่รับหน้าที่ขันอาสาเป็นแม่งานในการจัดเตรียมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ ไม่มีเพียงชายหนุ่มทั้งห้า แต่เป็นการรวมตัวกันของบุคคลสำคัญที่ได้ถูกว่าจ้างมาเพื่อถ่ายภาพโฆษณาเพื่อโปรโมตโรงแรม
เจ้าหน้าที่ที่ร่วมรับผิดชอบงานนี้มากกว่ายี่สิบชีวิต ทยอยกันนั่งลงบนโต๊ะไม้ยาวที่ตั้งเอาไว้ที่ริมหาดในช่วงค่ำที่ตะวันลาลับขอบฟ้าไปแล้ว เสียงเพลงคลอเบาๆ เข้ากับบรรยากาศริมทะเล เสียงพูดคุยเสียงหัวเราะ ดังขึ้นมาให้ได้ยินเป็นระยะ
“คุณเบลล่า สวัสดีค่ะ” มะปรางเอ่ยคำทักทายนางแบบสาวสวยที่ได้รับการคัดเลือกจากเธอ “นี่คุณเบลล่านางเอกประจำงานครั้งนี้นะคะ” เธอแนะนำตัวให้กับทีมงานทุกคนได้รู้จัก ถึงทีมงานจะรู้กันอยู่แล้วก็ตามที
“ใช่ไหมวะ” เพทายหันมากระซิบเคเค พร้อมมองไปทางเพื่อนสนิทอีกคนที่จ้องมองหญิงสาวไม่วางตา “ตอบกูทีว่าไม่จริง”
“จริง” ภัณเตพูดขึ้น “ปรางพี่ขอคุยด้วยหน่อย” เขาเดินไปหาภรรยาก่อนที่จะเดินหายออกไปคุยกันอยู่นาน
“มีอะไร” น้ำเหนือถามขึ้น เมื่อเพื่อนๆ ต่างซุบซิบกันไปมา
“แฟนเก่าไอ้ขุนมัน” (เพทาย)
“ห๊ะ!! คนนั้นเหรอ..” (น้ำเหนือ)
“อืม” (เพทาย)
“ตัวจริงสวยกว่าในรูปซะอีก แต่ดูแล้วเหมือนเขาจะจำมึงไม่ได้นะ” น้ำเหนือพูดขึ้น เมื่อเห็นเบลล่ามองเพียงผ่านมาทางที่เขาและกลุ่มเพื่อนนั่งอยู่
“มึงดูดีๆ เขาไม่สนใจตากหาก ก็เหมือนว่าเรื่องมันจบไปนานแล้ว ต่างคนต่างอยู่ดีที่สุด” เพทายหยิบแก้วเครื่องดื่มขึ้นมาจิบ สายตาก็คอยแต่จ้องมองเบลล่าและขุนพลสลับกันไปมา ดูเชิงว่าใครจะมีทีท่าแบบไหน แต่จนแล้วจนรอด ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนที่เขาและเพื่อนคนอื่นๆ คิดเอาไว้
“กูอยากคุยกับพวกมึงทุกคน ตอนนี้” ภัณเต เดินนำออกมาที่ชายหาด “กูขอโทษแทนมะปรางด้วยนะ พอดีปรางชอบคุณเบลล่ามาก เลยทาบทามมาถ่ายโฆษณาให้ ถ้ากูรู้ก่อนคงห้ามเอาไว้แล้ว”
“เปลี่ยนนางแบบ” ขุนพลเอ่ยขึ้น
“เปลี่ยนไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนเราต้องจ่ายค่าชดเชยบานเบอะ” ภัณเตแย้งหัวชนฝา ถ้าเม็ดเงินที่จ่ายออกไป ไร้ซึ่งประโยชน์เขาจะค้านออกมาทันที
“กูจ่ายเอง” ขุนพลแย้งกลับไป อารมณ์ในตอนนี้ไม่สู้ดีมากนัก เพราะเขาเองไม่เคยคิดว่าจะมาเจอเธออีกครั้งในชีวิตนี้
“มึงจะบ้าหรือไง ทำอะไรให้มีขอบเขตซะบ้าง ค่าตัวเบลล่าไม่ใช่ถูกๆ เก็บเงินไว้ตีหรี่ยังดีซะกว่า” เพทายแย้งขึ้น
“ใช่กูเห็นด้วยกับไอ้ทอยมัน มึงคิดว่าเงินที่จ้างเบลล่ามาได้จะมากมายแค่ไหน เธอเป็นถึงนางแบบแนวหน้าของโลกเลยนะ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน ถ้าเรื่องของมึงกับเบลล่าจบไปแล้ว ก็ไม่ควรจะเป็นแบบนี้” น้ำเหนือพูดเสริม
“เงินกู ไม่ใช่เงินพวกมึง มันจะสักเท่าไหร่กันเชียว”
“ยี่สิบล้าน ค่าผิดสัญญา” ภัณเตพูดขึ้น ไม่ใช่กุเรื่องขึ้นมาโกหกขุนพลแต่อย่างใด มันเป็นเรื่องจริงที่ในสัญญาระบุเอาไว้ ว่าถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยกเลิกสัญญากลางคัน ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินยี่สิบล้านบาท
“แค่เงินยี่สิบล้าน กูไม่แคร์ บอกเลิกสัญญาได้เลย พรุ่งนี้กูจะให้ปราณมันจัดการเรื่องนี่เอง” ขุนพลยังคงยืนยันคำเดิม แค่นึกถึงใบหน้าของเบลล่า เขาก็แทบอยากกระโดดเข้าไปหักคอให้ตายคามือเสียแต่ตอนนี้
“ไอ้ขุน เงินยี่สิบล้านนี้จ่ายให้นางแบบนะ ส่วนทางด้านสังกัดมึงก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก เชื่อกูใจเย็นๆ ถึงมึงจะรวยมากแค่ไหน เงินตั้งมากมายไม่สมควรมาเสียไปเพราะเรื่องแบบนี้” น้ำเหนือเอ่ยเตือนสติเพื่อนของตนเอง
“พวกมึงเป็นเพื่อนกูหรือเปล่าวะ พวกมึงรู้ไหม ถ้าถ่ายโฆษณานี้กูก็ต้องเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นอยู่ตลอด มันเลี่ยงไม่ได้เลย เพราะมันเป็นโฆษณาโรงแรมของตัวเอง”
“มึงพูดแบบนี้ก็หมายความว่า มึงไม่เคยเลิกรักเธอเลย” เคเคที่เงียบมานานพูดขึ้น ขุนพลชะงักไปเล็กน้อย รอยยิ้มยกขึ้นที่มุมปาก แล้วหัวเราะขำออกมาเสียงดัง
“กูไม่ได้รัก แต่กูเกลียด มึงเข้าใจไหม กูไม่อยากเห็นหน้ายัยนั้น”
“มึงหานางแบบไม่ทันหรอก ทีมงานทุกคนเตรียมพร้อมวางแผนงานมาอย่างดี จะให้มาล้มงานเพราะมึงคนเดียวไม่ได้” ภัณเตเอ่ยค้าน
“กูเห็นด้วยกับไอ้เต มึงควรแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวออกจากกัน” น้ำเหนือพูดเสริม
“ได้!! ถ้าเกิดอะไรขึ้น อย่ามาโทษกูทีหลังแล้วกัน”