บทที่ 4
หลังจากรับรางวัลเสร็จเรียบร้อย ฉันก็ได้แต่มองดอกไม้ที่มากจนไม่รู้จะเอาไปไว้ที่ไหน ฉันจึงตัดสินใจ เอาดอกไม้ไปวางตั้งโต๊ะประกาศแจกให้ทุกคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้หยิบไปคนละดอกสองดอก ดีกว่าให้มันไม่มีประโยชน์ มีคะนิ้งและเอิงเอยคอยช่วยแจก แล้วฉันก็ขอตัวมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ห้องน้ำก็คนต่อคิวเยอะ ฉันไม่อยากรอ บังเอิญนึกขึ้นได้ว่าแถวโรงจอดรถคณะ ไม่ค่อยมีคน
แล้วฉันต้องตกใจเมื่อกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ก็มีผู้ชายที่เจอกันหน้ามอ มาเจอซะงั้น ฉันรีบเอาเสื้อขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเองทันที ถึงแม้มันจะไม่ได้โป๊มากมาย ก็เถอะ แต่ยังไงเขาก็เป็นผู้ชาย ฉันคิดว่าตัวเองมองรอบบริเวณดีแล้วนะว่าไม่มีใคร มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แล้วเขาก็ออกคำสั่งกับฉัน
“ใส่เสื้อ” เขาพูดด้วยเสียงดุดัน ฉันกลัว!! ถึงใบหน้าของเขาจะหล่อเหลาหาตัวจับอยาก แต่ทำไมเขาถึงได้พูดเสียงดุกับผู้หญิงตัวเล็กแบบฉันได้ “เร็ว” ฉันนี้ไม่รู้จะทำอะไรก่อนหลังดี รีบสวมเสื้อแขนยาว “เสร็จหรือยัง”
“สะ..เสร็จแล้ว” ฉันพูดแค่นั้น เขาก็หันหลังกลับมาดึงฉันมาที่รถ เขาบอกให้เพื่อนลงมาจากรถก่อนผลักฉันเข้าไปในรถแทน
“ฉันให้เวลา 10 นาที ให้เสร็จ” ปึก!! แล้วเสียงปิดประตูรถก็ตามมา จะรอช้าทำไม ฉันรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเอง ถึงแม้มันจะลำบากหน่อย ก็ยังดีกว่าถอดเสื้อผ้าอยู่ข้างนอก ไม่นานฉันก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย
“ขอบคุณมากนะคะ” กันกล่าวคำขอบคุณ ถึงเขาจะทำเสียงดุดัน แต่ฉันรับรู้ได้ว่าเขาก็คงเป็นคนใจดีอยู่บ้าง
“อืม วันนี้ขอบคุณ” เขาพูดกับฉันแค่นั้นก็เปิดประตู เดินขึ้นรถไป เพื่อนของเขาหันมายิ้มให้ฉันเล็กน้อย แล้วเดินขึ้นรถตามไปเช่นเดียวกัน ไม่นานรถก็วิ่งออกจากตรงนี้ ฉันจึงเดินกลับเข้าไปในงาน พอมาถึงดอกไม้ก็ถูกแจกไปจนหมด เราสามคนจึงเอาชุดมาคืนอาจารย์ที่ปรึกษา แล้วเดินเที่ยวเล่นกันต่อ
“แฟนแกไม่มาหรอ” คะนิ้งถามเอิงเอยขึ้น แต่อีกคนยังไม่ทันจะได้ตอบ พี่บอลก็เดินเข้ามากอดคอเอิงเอยเอาไว้ พร้อมส่งยิ้มมาให้เราสองคน “ตายยากชะมัดพูดบุบมาปั๊บ เหมือนผีหายตัวได้” คะนิ้งบ่นออกมาเบาๆ แต่ฉันก็ได้ยิน
“น้องปราง” พี่พอลทักทายฉันขึ้น เขาเป็นเพื่อนของพี่บอล เรียนวิศวะไฟฟ้าด้วยกัน อยู่ปีสุดท้าย ฉันส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อยเป็นการไม่เสียมารยาท “วันนี้น้องปรางเสน่ห์แรงจังนะครับ มีผู้ชายหอบดอกไม้มาให้ตั้งหลายคน” เขาพูดพร้อมขำ แต่ฉันมองเห็นแววตาของเขามันน่ากลัว ไม่เหมือนคำพูด
“ขอบคุณมากนะคะสำหรับดอกไม้” ฉันเอ่ยคำขอบคุณเขาไป แล้วเดินออกมาพร้อมคว้าแขนคะนิ้งให้เดินตามมาเช่นกัน
“พี่เดินด้วยได้ไหมครับ” พี่พอลยังคงเดินตามมา เขาเดินเข้ามาเดินขนาบข้างของฉัน คืออึดอัดมาก คะนิ้งก็รู้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ฉันก็เลยปล่อยเลยตามเลยให้เขาเดินอยู่ด้านข้าง มีหลายครั้ง ที่เขาหลบผู้คนทำให้แขนของเราได้สัมผัสกัน มันมีความรู้สึก….ขนลุกแปลกๆ
พี่พอลเป็นหนึ่งในผู้ชายที่เขาหาฉันเพราะต้องการจีบ และเขาเป็นผู้ชายที่ตามจีบฉันได้นานที่สุด ตั้งแต่เข้าเรียนยันตอนนี้ก็ยังไม่เลิกจีบ ถ้าปกติฉันคงตกลงปลงใจไปแล้ว ถ้าไม่ติดที่เขามีสาวๆ ติดตามเป็นพวง ทุกคนรู้ว่าเขากำลังตามจีบฉัน ฉันเคยเจอผู้หญิงที่แอบชอบพี่พอลตามตบมาหลายครั้ง แต่ฉันก็เอาตัวรอดมาได้ทุกครั้ง ทางที่ดีฉันไม่อยากเข้าใกล้เขาเลย
“นิ้ง เรากลับกันดีไหม ฉันไม่สนุกแล้วอ่ะ เอยก็ไปเดินกะแฟนแล้ว” ฉันหันมากระซิบคะนิ้ง เธอพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของฉัน “พี่พอลค่ะ ปรางต้องกลับแล้วค่ะ ขอตัวนะคะ”
“เดี๋ยวครับ” พี่พอลคว้าแขนของฉันเอาไว้ เขาไม่เคยแตะเนื้อต้องตัวฉันเลยสักครั้ง “พี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นอะไรคะ เดี๋ยวนิ้งไปส่งปรางค่ะ ไม่รบกวนพี่พอลดีกว่าค่ะ” ฉันหันมามองคะนิ้ง แต่ตอนนี้ข้างๆ ฉันกลับว่างเปล่า เพื่อนฉันหายไปไหน ไม่นานคะนิ้งก็กลับมา
“ปรางฉันคงไปส่งแกไม่ได้แล้วอ่ะ มีธุระด่วน แกกลับเองได้ไหม”
“ได้สิ นี่ก็ยังไม่ดึกมากเดี๋ยวฉันเรียกแท็กซี่หน้ามอกลับเองได้”
“งั้นพี่ไปส่งเอง นิ้งไม่ต้องห่วง” พี่พอลที่ยืนอยู่ด้านหลัง รีบออกตัวอาสาพาฉันกลับห้อง ฉันยกนาฬิกาข้อมือดูเวลาตอนนี้ก็สามทุ่มกว่าแล้ว จะเอาไงดี แต่กลับเองมันสบายใจกว่าเป็นไหนๆ “นะครับ เดี๋ยวพี่ไปส่ง ผู้หญิงตัวคนเดียวกลับแท็กซี่มันอันตราย พี่ไว้ใจได้” เขาไม่ยอมให้ฉันได้ปฏิเสธดึงแขนของฉันให้เดินตามมาที่รถของเขา
แล้วฉันก็เป็นบ้าอะไรไม่รู้ ผีอะไรเข้าสิงก็ตอบไม่ได้เดินตามเขามาอย่างว่าง่าย ภายในรถเงียบสงบ ฉันแอบมองพี่พอลเล็กน้อย เขาหล่อมากเป็นครั้งแรกที่ฉันตั้งใจมองเขานานขนาดนี้
“มองพอหรือยังครับ มองต่อได้นะพี่ไม่คิดตังค์” เขาพูดพร้อมหัวเราะ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของเขาจะดังขึ้น เขาคุยโทรศัพท์กับเพื่อนไม่นานก็กดวางสาย ดูสีหน้าของเขาเป็นกังวลไม่น้อย “พี่ขอแวะทำธุระแป๊บนะครับ พอดีทางผ่าน ไม่นาน พี่ส่งน้องปรางกลับห้องอย่างปลอดภัยแน่นอนครับ”
“งั้นปรางลงตรงนี้ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวกลับเอง พี่ไปทำธุระของพี่เถอะค่ะ” ใช่แล้วฉันเกรงใจ กลับเองดีกว่า ให้เขาได้ทำธุระได้อย่างสบายใจ
“ไม่ครับ พี่เป็นห่วง พี่ทำธุระแป๊บเดียวนะครับ รอพี่ก่อน” เขาขับรถเข้ามายังสถานที่เริงรมย์แห่งหนึ่ง “ลงมาก่อนไปรอพี่ข้างในนะครับ” เขาหันมาปลดเข็มขัดนิรภัยออกให้ก่อนเดินอ้อมมาเปิดประตูรถทางฝั่งฉัน
เอาไงดี มาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันไม่ชอบสถานที่แบบนี้ เขามาทำธุระแล้วทำไมต้องให้ฉันเดินลงจากรถด้วยรออยู่ข้างในไม่ได้หรือไง ฉันตั้งคำถาม แต่มันก็ไร้ซึ่งคำตอบเพราะฉันไม่ได้พูดมันออกไป ฉันถูกดึงเข้ามาด้านใน ที่มีแสงสีเสียงดังจนแทบคุยกันไม่รู้เรื่อง ก่อนที่เขาจะพาเดินมายังห้องห้องหนึ่ง
“รอพี่อยู่ที่นี่ห้ามไปไหน พี่ขอเวลาไม่เกินสามสิบนาที พี่จะกลับมา เอาโทรศัพท์มาครับ มีอะไรก็โทรหาพี่” ฉันก็ยื่นโทรศัพท์ให้เขาไปอย่างงงๆ ก่อนที่พี่พอลจะออกไปก็ได้สั่งน้ำส้มกับขนมขบเคี้ยวมาให้ฉันกินเล่นรอเขากลับมา ตอนนี้ฉันหิวมากๆ ด้วย
ฉันนั่งเล่นโทรศัพท์ถูกไถหน้าจอไปมา นานแค่ไหนแล้วก็ไม่อาจรู้ ตอนนี้ฉันหิวข้าวมากๆ จำใจหยิบห่อขนมออกมาเปิดทาน เล่นมือถือไปด้วยกินขนมไปด้วย จนลืมเวลา เขาก็ไม่มาสักที ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก แต่ไม่ใช่พี่พอลที่เดินเข้ามา
“อิปราง มึงมากับพี่พอลได้ไง” แอนนาเดินเข้ามากระชากฉันให้ลุกขึ้น “แกมาอ่อยอะไรแฟนฉันห๊ะ หน้าซื้อๆ แบบแกนี้ร้ายนะ คิดจะแอบกินแฟนคนอื่นนะหรอ ไม่มีหวังซะหรอก”
ฉันรีบสะบัดมือออก แล้วยืนตั้งหลักให้กับตัวเอง มีเรื่องแน่ๆ ยัยแอนนาเป็นแฟนพี่พอลหรอ ทำไมฉันไม่เคยรู้ (ก็เธอไม่เคยสนใจโลกภายนอกไงมะปราง จะตกข่าวก็ไม่แปลก) แต่ไม่ทันที่เราจะได้ต่อสู้กัน พี่พอลก็เดินเข้ามา
“แอนนา มาอยู่นี่ได้ไง” เขามีสีหน้าตกใจไม่น้อย ก่อนเดินเข้ามายืนกันท่าอยู่ด้านหน้าของฉัน
“ถอยค่ะ แอนจะสั่งสอนมัน ที่บังอาจมายุ่งกับของของแอน”
“เลิกบ้าสักที เราไม่ได้เป็นอะไรกัน พอสักทีได้ไหม”
“พี่ว่าอะไรนะคะ ไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วที่นอนกับแอนทุกวันนี้หมายความว่าไงคะ” แอนนาพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“เราตกลงกันว่าไง..จำไม่ได้หรือไง” พี่พอลหันหน้ามาทางฉันก่อนที่เขาจะดึงฉันให้เดินตามออกมาจากห้อง แต่ฉันก็โดนแอนนาจับแขนอีกข้างเอาไว้ก่อน “ปล่อย!! อย่าให้ต้องหมดความอดทนนะแอน รู้สถานะตัวเองซะบ้าง”
“แอนไม่ปล่อย พี่เบื่อแอนก็จะทิ้งแอนแบบนี้ไม่ได้ แอนไม่ยอม ฮึก”
“บอกให้ปล่อยไง” พี่พอลตะคอกเสียงดัง ดึงฉันเข้าไปกอด เขาแกะแขนฉันออกจากมือของแอนนา สีหน้าของเขาตอนนี้บอกได้เลยว่าโกรธมาก
“คุยกับแอนก่อน ได้ไหม”
“ได้ ปล่อยแขนมะปรางก่อน แล้วตามฉันขึ้นไปด้านบน” พี่พอลพูดก่อนที่เขาจะหันมาทางฉัน “รอพี่ก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่มา”