เล่ห์รักร้อนจอมมาเฟีย

69.0K · จบแล้ว
ไอริส
47
บท
58.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เพราะคำขอร้องสุดท้ายของมารดาที่กำลังจะสิ้นใจด้วยโรคร้าย ‘ไอริณ’ จึงต้องออกตามหาบิดาไกลถึงรัสเซียเพียงลำพัง จนเข้าไปพัวพันกับจอมมาเฟียร้ายอย่าง ‘นิโคไล เทราคอฟ’ โดยบังเอิญ เมื่อนิโคไลรู้ว่าไอริณคือลูกสาวของศัตรูตัวฉกาจ ความแค้นที่สุมลึกอยู่ในอกจึงได้โอกาสปลดปล่อยกับร่างบางที่หลงเข้ามาอยู่ในเงื้อมมือ และไม่รู้สึกเห็นใจแม้แต่น้อยที่เห็นร่างนวลบิดเร่าด้วยความรัญจวนใต้ร่างเขา มีแต่จะยิ่งเพิ่มความทรมานซ่านเสียวให้ทบเท่าทวีคูณยิ่งขึ้น

แก้แค้นโรแมนติก

บทที่ 1

บทที่ 1

ร่างบางในชุดทำงานกลางเก่ากลางใหม่ ก้าวลงจากรถเมล์ แล้วเดินอย่างเร่งรีบเข้าไปในบริเวณของโรงพยาบาลท่ามกลางอากาศอันแสนร้อนอบอ้าวในยามเที่ยงวัน

ทว่า...แสงแดดที่แผดเผา อากาศร้อนระอุที่แทบทำให้ผู้คนเป็นลมเป็นแล้งได้ ไม่ได้ทำให้ ‘ไอริณ’ ลดฝีเท้าในการก้าวเดินเข้าไปในโรงพยาบาลแห่งนี้

ในใจของไอริณร้อนรุ่มซะยิ่งกว่าไอแดด ใบหน้างามอมทุกข์ ดวงตาสีนิลเต็มไปด้วยความหมองเศร้า ขณะนึกถึงคำพูดของพยาบาลที่ได้โทรศัพท์ไปหาเธอเป็นการเร่งด่วน

‘คุณไอริณคะ คุณแม่ของคุณอาการทรุดหนัก คุณหมอให้ตามตัวคุณเป็นการด่วนค่ะ’

“แม่...รอไอริณก่อนนะคะ ไอริณมาแล้วค่ะ...”

ไอริณเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ กลืนก้อนสะอื้นจนปวดร้าวไปทั่วลำคอ หยาดน้ำตาอุ่นเอ่อคลอเบ้า รีบเร่งก้าวเท้ายาวๆ เกือบเป็นวิ่งเข้าไปในบริเวณโรงพยาบาล แล้วตรงดิ่งไปยังลิฟต์ มือเล็กสั่นเทาอย่างระงับไว้ไม่อยู่ ขณะค่อยๆ เอื้อมไปกดหมายเลขชั้นที่มารดานอนรักษาตัวอยู่

จากชั้นล่างไปสู่ชั้นหกของอาคารแห่งนี้ เข็มนาทีเดินทางไม่ถึงสองนาที แต่ไอริณกลับรู้สึกว่าเนิ่นนานชั่วกัปชั่วกัลป์จนแทบทนรอไม่ไหว และทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออกกว้าง ร่างบางก็พุ่งออกจากลิฟต์อย่างรีบเร่งจนแทบชนกับผู้คนที่ยืนรออยู่ด้านหน้าลิฟต์

เจ้าของใบหน้าอมทุกข์ถลาเข้าไปในห้องผู้ป่วยหนัก ตรงไปยังเตียงของมารดา มือเล็กที่สั่นเทาเอื้อมไปจับมือเล็กขาวซีดของมารดามากุมไว้ ขณะเอ่ยเรียกท่านด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

“คุณแม่คะ...ไอริณมาแล้วค่ะ...”

บุษกร ผู้เป็นมารดาเปิดเปลือกตาได้อย่างยากเย็น ค่อยๆ หันมามองใบหน้าของลูกสาว ริมฝีปากที่ซีดเซียว เผยอขึ้นเอ่ยเรียกลูกสาวเสียงเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน

“ระ...ริณ...ริณ...มา...แล้วหรือ...ลูก...”

“ค่ะ...ค่ะคุณแม่...”

ไอริณรับคำเสียงสั่นเครือ พยายามไม่ให้หยาดน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้าหลั่งรินออกมา พร้อมกันนั้นก็พยายามฝืนยิ้มให้กับมารดาด้วย

“วันนี้ไอริณลาวันครึ่งวัน หนูจะมาอยู่กับคุณแม่นะคะ”

“ริณ...แม่มีเรื่อง...จะขอร้องริณ...”

ไอริณต้องกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่หยาดน้ำตาที่เอ่อคลอให้ไหลย้อนกลับเข้าไปข้างใน เมื่อเห็นมารดาหายใจหอบ มีอาการเหน็ดเหนื่อยกว่าจะเอ่ยพูดจบ

“คุณแม่นอนพักก่อนนะคะ...อย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้เลยค่ะ”

ผู้เป็นมารดาส่ายหน้าปฏิเสธช้าๆ ค่อยๆ ยกมือเล็กแห้งเหี่ยวเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก มาจับยึดต้นแขนของลูกสาวไว้ “ริณ...ให้แม่พูด...”

“ค่ะ..ค่ะ...”

ไอริณกลืนก้อนสะอื้นลงคอ รับคำตามคำขอร้องของมารดา ก่อนจะเอ่ยถามมารดาด้วยน้ำเสียงที่พยายามปรับให้เป็นปกติที่สุด

“คุณแม่จะให้ไอริณทำอะไรคะ...”

“ไป...ไปตามหาพ่อ...”

ไอริณถึงกับนิ่งงันไปหลายนาทีกับคำขอร้องของมารดา พอตั้งสติได้ ก็เอ่ยถามในประโยคเดียวกันที่มารดาได้พูดออกมาในก่อนหน้านี้

“ไปตามหาคุณพ่อยังงั้นหรือคะ”

“ใช่...แม่อยากให้...ริณ...ไปตามหาพ่อ...”

“ทำไมไอริณต้องไปตามหาคนที่ทิ้งพวกเราไปด้วยคะ”

เมื่อพูดถึงบิดา น้ำเสียงก็เริ่มแข็งห้วน ริมฝีปากกัดเม้มเข้าหากัน เพื่อระงับความโกรธที่มีต่อบิดา ซึ่งตนเองไม่เคยเห็นหน้าตั้งแต่เกิด

“ริณ...ฟังแม่นะลูก...แม่...”

“ริณไม่อยากฟังเรื่องของเขาอีก คุณแม่พักผ่อนนะคะ”

ไอริณเอ่ยห้ามก่อนมารดาจะทันพูดจบ ขณะเดียวกันก็ประคองให้มารดานอนลงบนเตียงเหมือนเดิม ทว่า...มารดาหาได้ยอมไม่!

“แม่...แม่โกหกริณเรื่องพ่อ...”

แม้มารดาจะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเท่าที่มีแรงอยู่ แต่กระนั้นไอริณก็ได้ยินอย่างชัดเจน และนั่นทำให้หญิงสาวนิ่งงันไปหลายนาที

“โกหกเรื่องคุณพ่อ?”

ไอริณถามซ้ำ ใจหนึ่งก็อยากให้มารดาได้พักผ่อน เพราะเห็นได้ว่าท่านอ่อนแรงลงไปมาก แต่อีกใจหนึ่งก็อยากรู้เรื่องของบิดาเช่นเดียวกัน

“ใช่แล้วลูก...แม่โกหกเรื่องพ่อทั้งหมด...”

บุษกรพยายามเอ่ยพูด แม้รู้สึกได้ว่ากำลังหมดแรงไปทุกขณะ แต่กระนั้นก็บอกกับตัวเองว่าต้องบอกความจริงกับลูกให้ได้ และที่สำคัญนางต้องการขอร้องให้ลูกสาวทำบางสิ่งบางอย่างให้ เพื่อให้ตนเองนอนตายตาหลับ ไม่ต้องมีกังวลอีกต่อไป

“คุณแม่กำลังจะบอกไอริณว่า คุณพ่อไม่ได้ทิ้งพวกเราไปหรือคะ” เอ่ยถามไปแล้ว ไอริณก็กลั้นหายใจรอคอยคำตอบจากมารดา

บุษกรพยักหน้าช้าๆ รับคำ ก่อนจะเอ่ยย้ำว่า “ใช่แล้วริณ...พ่อไม่ได้ทิ้งพวกเราไป...แต่...แต่...แม่ต่างหาก...ที่เป็นฝ่ายหนีพ่อมา...”