บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 โรคประจำตัวท่านหญิง

หงหลินซินแทบจะไม่เชื่อหูของตัวเองแม้ว่าตอนที่เปลี่ยนชุดสาวใช้จะเตรียมชุดที่ค่อนข้างจะถอดง่ายเอาไว้ให้นางแต่นางมีเสื้อคลุมอีกหนึ่งชั้นจึงไม่ได้แปลกใจอะไรแต่ไม่คิดว่าพวกเขาจะให้นางถอดออก แม้ว่าจะมีกระโจมม่านขาวทึบกั้นอยู่ก็ตาม

“แต่ว่า..”

“ท่านหญิงไม่ต้องห่วงข้าขอเอาเกียรติของลูกผู้ชายรับประกันว่าจะไม่มีทางทำให้ท่านเสื่อมเสียเกียรติเป็นอันขาด และช่วงทำพิธีจะมีเพียงสาวใช้สองคนเท่านั้นที่อยู่ด้านในกับท่าน”

จินอวี้หานมองนางเพื่อให้นางมั่นใจซึ่งหงหลินซินแม้ว่าจะกลัวแต่ก็ต้องทำตามคำสั่ง อย่างน้อยด้านในก็ยังมีสาวใช้อีกสองคนที่อยู่กับนางอีกทั้งด้านนอกยังมีจินอวี้หานซึ่งนางรู้สึกไว้วางใจเขาได้ตั้งแต่ที่เขาพานางกลับขึ้นเขามายังอารามก่อนที่คนของวังหลวงจะเข้ามา

“ก็ได้ แต่ว่าราชครูจิน แค่ครั้งเดียวใช่หรือไม่”

“คือว่าเรื่องนี้…”

“ช่างเถอะ รีบทำจะได้รีบจบพิธีเร็ว ๆ”

หลินซินเดินเข้าไปในกระโจมพร้อมกับเสียงถอดชุด แม้ว่าจะมีกระโจมกั้นแต่จินอวี้หานกลับพบว่ามันยากเหลือเกินที่จะทำใจมิให้ได้ยินเสียงถอดชุดที่อยู่ด้านในได้ อีกทั้งคนข้างในที่ไม่ส่งเสียงทำให้จิตใจของราชครูหนุ่มพลันคิดและจินตนาการไปจนเกือบควบคุมตัวเองไม่ได้

“ข้าพร้อมแล้ว”

เสียงของนางปลุกเขาให้กลับมามีสติอีกครั้งก่อนจะรีบหันไปมองท่านโหรที่นั่งหันหลังให้เขาเพื่อเริ่มพิธี

“ท่านโหร เริ่มพิธีได้แล้ว”

ระหว่างที่โหรหลวงเริ่มสวดทำพิธี ถังน้ำถังแรกก็ถูกเทลงไปที่ศีรษะของนาง แม้ว่าน้ำนั้นจะอุ่นแต่เมื่อเวลาผ่านไปก็เริ่มทำให้ร่างบางของนางเริ่มหนาวสั่นกายสะท้านอีกครั้ง และน้ำถังที่สองที่ราดลงมาพร้อมกับโหรที่ทำพิธีจนเสร็จก็รีบเดินออกจากห้องไปทันทีเพื่อให้สาวใช้ด้านในสวมชุดให้นาง

“ท่านหญิง เป็นอะไรหรือไม่เจ้าคะ”

“ขะ ข้า… ข้า…”

“ท่านหญิง!!” / ราชครูจิน

“ไม่.. ไม่เป็นไรราชครูจินข้าแค่หมดแรง รีบเอาชุดมาให้ข้าเร็วเข้า”

สาวใช้รีบนำชุดมาสวมให้ท่านหญิงที่ยืนสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อออกมาจากถังน้ำศักดิ์สิทธิ์นางก็แทบจะไร้เรี่ยวแรงที่จะเดิน เมื่อกระโจมเปิดออกมา สีหน้าของนางที่ซีดเผือดก็ทำให้จินอวี้หานถึงกับตกใจ

“ท่านหญิง! ท่านยังเดินไหวอยู่หรือไม่”

“ข้า… ข้าหนาว…ข้า”

“พวกเจ้ารีบไปเตรียมเตาอุ่นและผ้าห่มให้ท่านหญิง รีบไป”

""เจ้าค่ะ""

จินอวี้หานรวบตัวนางขึ้นมาอุ้ม เขาสัมผัสได้ว่านางสั่นไปทั้งตัวเพราะจื่อรุ่ยพึ่งบอกเขาว่านางเป็นโรคกลัวความหนาวที่สุด หากถูกน้ำเย็นร่างกายจะทรุดลงทันที

“พวกเจ้ารีบไปสั่งให้เนี่ยถงต้มยาที่ท่านหญิงดื่มเป็นประจำมาแล้วเอาตามไปที่ห้องนอนของท่านหญิง”

“ขอรับ”

ทหารรักษาการณ์รีบวิ่งออกไปทันที อวี้หานอุ้มนางที่ปากสั่นจนขยับไม่ได้และพาเดินออกจากห้องโถงพิธีกลับไปยังตำหนักดอกเหมยซึ่งยังมีซานหวนชิงนั่งคุกเข่าอยู่ เมื่อนางเห็นว่าราชครูอุ้มท่านหญิงที่สวมเพียงชุดคลุมสีขาวและมีผ้าคลุมก็ทำให้นางรู้สึกริษยาขึ้นมา

“นอกจากจะปากเก่งแล้วยังยั่วผู้ชายเก่งเสียด้วย กล้ายั่วยวนท่านราชครูจินเชียวหรือ เจ้าก็แค่ท่านหญิงตัวซวยมีสิทธิ์อันใดให้ท่านราชครูต้องดูแลถึงเพียงนั้น”

“ซานหวนชิง ท่านราชครูสั่งให้เจ้าลุกขึ้นได้”

“หึ ก็แค่นั้นแหละ”

จื่อรุ่ยใช้ดาบกั้นเพราะเห็นว่านางจะเดินเข้าไปที่เรือนดอกเหมย

“ไม่มีคำสั่งท่านราชครูห้ามเจ้าเข้าออกหรือไปก้าวก่ายด้านใน”

“แต่ว่าข้าได้รับคำสั่ง...”

“ฝ่าบาทสั่งให้ท่านราชครูดูแลท่านหญิง เจ้าคงรู้นะว่าทำตัวเช่นไร อีกอย่างท่านราชครูสั่งให้เจ้าคัดลอกกฎมารยาทสตรีที่พึงกระทำมาสองร้อยจบ หากคัดไม่เสร็จอย่าได้ออกมา ที่พักของพวกเจ้าอยู่เรือนสาวใช้ด้านหลัง เชิญข้าหลวงซาน”

“อะไรนะ! เหตุใด..”

“ท่านราชครูฝากบอกเจ้าว่าครั้งนี้เห็นแก่หน้าฮองเฮา แต่ครั้งต่อไปจะไม่ปรานีเช่นนี้อีกหากเจ้ายังกล้าก้าวก่ายการทำงานของท่านราชครู คงรู้จุดจบดีนะ”

จื่อรุ่ยยื่นหนังสือให้ซานหวนชิงซึ่งเป็นหนังสือสอนมารยาทสตรีก่อนจะเดินจากไปเพื่อเฝ้าอยู่หน้าเรือนดอกเหมยตามคำสั่ง จินอวี้หานอุ้มท่านหญิงมาถึงเตียงก็รีบห่มผ้าให้นางหนาขึ้น

“ยาต้มมาหรือยัง จื่อรุ่ยเจ้ารีบไปดูสิ”

“ขอรับ”

เขาไม่คิดว่านางจะเป็นโรคกลัวความหนาวหนักขนาดนี้ แม้ว่าจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเพราะก่อนหน้านี้ไม่มีเรื่องนี้อยู่ในรายงานที่ส่งมาพร้อมกับนางเขาจึงไม่ทราบมาก่อน

“ท่านหญิง ท่านรู้สึกเช่นไรบ้าง”

“หนาว ท่านแม่อย่าทิ้งข้าไป ท่านแม่… ข้าหนาว”

เขาขยับผ้าห่มขึ้นมาห่มให้นางจนแน่นแต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ทำให้นางดีขึ้น

“กอด ท่านแม่กอดข้าหน่อย ท่านแม่ กอด…”

อวี้หานทำตัวไม่ถูกเมื่อด้านนอกยังไม่มีทีท่าว่าจะมีผู้ใดมาถึง ยาเองก็พึ่งจะต้มซึ่งน่าจะใช้เวลานานเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากทำในสิ่งที่สามารถช่วยนางได้

“ท่านหญิง ข้าคงต้องล่วงเกินท่านแล้ว”

เขาค่อย ๆ ทาบกายลงมาทาบและกอดนางเอาไว้ แม้จะมีผ้าห่มหนากั้นแต่แก้มเย็น ๆ ของนางก็อยู่ใกล้กับจมูกของเขาเพียงนิดเดียว กลิ่นกายสตรีที่หอมอ่อน ๆ ลอยมายิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกทั้งภาพที่เขาจินตนาการเมื่อครู่ก็พลันผุดขึ้นมาในตอนนี้ที่เขากำลังกอดนางเอาไว้

“บ้าเอ๊ย! พอเสียทีอย่าคิดอะไรบ้า ๆ นะ”

“จินอวี้หาน… ท่าน...เก่งยิ่งนัก”

เขารีบหันไปเพราะคิดว่านางได้สติแต่นางยังหลับตาอยู่ ท่านหญิงเพียงแค่ละเมอเรียกชื่อเขาเท่านั้น แต่ร่างกายนางเริ่มนิ่งลงแล้วหลังจากที่เขาทาบกายทับนางอีกครั้ง ริมฝีปากของนางกลับหันมาชนแก้มของเขาอย่างช่วยไม่ได้

“อื้อ…หนาว”

เสียงกระซิบนั้นทำให้บางอย่างในกายหนุ่มเช่นเขาตื่นจนต้องรีบลุกขึ้นมาก่อนจะเผลอตัวล่วงเกินนางเข้า ตอนนี้ท่านหญิงนอนนิ่งอยู่ภายใต้ผ้าห่ม ราชครูหนุ่มรีบถอยออกมาจากเตียงราวกับนางคือสิ่งที่อันตรายที่สุดที่เขาเคยพบ ก่อนเสียงเคาะประตูจะดังขึ้นจนเรียกสติเขากลับมากอีกครั้ง

“ท่านราชครู ยาต้มเสร็จแล้วเจ้าค่ะ”

จินอวี้หานรีบเดินมาเปิดประตูในทันทีพร้อมกับพยายามปรับสีหน้าให้นิ่งที่สุด เมื่อเปิดไปพบกับจื่อรุ่ยและเนี่ยถงที่ยืนถือถาดยาอยู่เขาก็รีบสั่งทันที

“ผมของท่านหญิงยังไม่แห้ง ฝากเจ้าเช็ดให้นางด้วยอีกอย่างนางยังไม่ฟื้นอย่าพึ่งปลุกนาง อีกสักพักข้าจะสั่งให้คนนำเตาอุ่นมาเพิ่มให้”

“เอ่อ ไม่ต้องก็ได้เจ้าค่ะ เพียงแค่ท่านหญิงดื่มยาถ้วยนี้อาการก็จะดีขึ้นไม่ต้องเพิ่มเตาแล้วก็ได้เจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นเจ้าก็ดูแลนางให้ดี หากว่าต้องการสิ่งใดเพิ่มก็รีบให้คนไปแจ้งกับข้าหรือไม่ก็จื่อรุ่ย”

“ขอบคุณท่านราชครู”

จินอวี้หานรู้สึกหายใจโล่งขึ้นเมื่อออกมาจากห้องของนางได้ เขาแทบจะจำไม่ได้เลยว่าจื่อรุ่ยพูดอะไรกับเขาบ้าง จำไม่ได้แม้แต่ว่าเดินกลับมาถึงเรือนพักของตนเองได้เช่นไร แม้แต่ทหารที่นำเรื่องของซานหวนชิงมาแจ้งเขาก็แค่พยักหน้าให้และโบกมือให้ทหารออกไปอย่างใจลอย

“คุณชาย”

“ว่าอย่างไร”

“คนของฮองเฮามาเพิ่มอีกสี่คนเห็นทีว่าเรื่องที่ท่านสั่งลงโทษซานหวนชิงจะถึงวังหลวงแล้ว”

“คิดไม่ถึงว่าซ่อนอยู่หลังม่านมาตั้งนาน แค่การมาของท่านหญิงหงเพียงคนเดียวกลับทำให้นางร้อนรุ่มได้ถึงเพียงนี้ ดูท่าว่าบุตรีท่านอ๋องคงจะไปสะกิดแผลเก่าของนางเข้าสินะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel