ตอนที่ 7 หวง
“บอกมาเถอะไม่บอกใครหรอก” ขุนศึกยังคงเซ้าซี้ไม่เลิก
“นี่ไม่มีงานมีการทำหรือไง โทรศัพท์มือถือไม่ใช่เอาไว้แค่ดูคลิปโป๊เอามาเล่นเกมส์บ้างก็ได้” แพรวารู้สึกหงุดหงิดกับความส่อดรู้ส่อดเห็นไม่จบสิ้นของเขา
“ใครว่าฉันไม่มีงานไม่มีการการทำ ฉันน่ะยุ่งจะตาย แค่มัวคุยกับเธอชั่วโมงเดียวค่าตัวฉันเป็นหลักล้านแล้วรู้ไหม”
“เหรอก็ดี พอถึงโรงแรมแล้วก็ปล่อยฉันลงตรงหน้า แล้วนายก็กลับไปทำงานได้แล้ว!”
ปัง!
ปัง!
ปัง! เสียงปืนดังมาจากทั่วทุกทิศ ขุนศึกรีบกดร่างคนน้องหมอบลงตรงพื้นวางเท้า
“ขับไปเรื่อย ๆ อย่าหยุด” เขาสั่งลูกน้องก่อนจะชักปืนที่แนบลำตัวออกมา ปรับระดับหน้าต่างลงเพื่อยิงสวนไป ส่วนบอดี้การ์ดที่นั่งคู่กับคนขับก็ยิงสวนคนร้ายเช่นกัน
“แพรวาตกใจมากไม่มีเสียงใด ๆ ออกจากปากเธอเลยสักแอ่ะ เธอนั่งหมอบลงที่พื้นอย่างว่าง่าย มือทั้งสองข้างปิดใบหูไว้เพราะเสียงของปืนนั้นดังกึกก้องไปหมด เสียงปืนดังติดต่อกันเป็นเวลา 5 นาทีจนรถออกมาจากซอยเปลี่ยวพวกคนร้ายก็แยกย้ายกันหนีไป
เขาวางปืนบนเบาะข้าง ๆ แล้วกลับมามองแพรวาที่ยังคงอยุ่ในอาการตกใจ
“แพร แพรวา! เสียงเรียกชื่อเธอน้ำเสียงอ่อนโยน
“พวกมันไปแล้ว ขึ้นมานั่งบนเบาะตามปกติเถอะ” เธอยังคงนั่งอยู่ที่เดิมไม่ขยับจนคนพี่ต้องดึงเธอขึ้นมานั่ง ร่างเล็กจึงยอม
“ตกใจมากไหม” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยถาม แววตานั้นห่วงใย หญิงสาวผงกศีรษะ
“ไม่ต้องกลัวหรอก รถทุกคันของเราติดกระจกกันกระสุน” เขาพูดความจริงเพื่อหวังให้เธอคลายความกังวล
“รถที่บ้านของแพรวาก็น่าจะด้วย เมื่อเดือนก่อนเฮียกันตร์ก็โดนซุ่มยิง”
“จริงเหรอ” เธอหันไปสบตาเขา
“จริงซิ! ธุรกิจของพวกเรามันไม่ค่อยขาวสะอาด ขัดแข้งขัดขาคนไปเรื่อยโดนซุ่มยิงเป็นเรื่องธรรมดา” อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาแต่เมื่อเธอได้ยินว่า พี่ชายสุดที่รักของเธอนั้นมีชีวิตเสี่ยงเพียงใด เพื่อหาเงินให้ครอบครัว เมื่อรู้อย่างนี้เธอยิ่งรู้สึกผิดที่เอาแต่แบมือขอเงิน โดยเฉพราะ นกันตร์ที่ชอบสปอยล์เธอยิ่งกว่าใคร
“ไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย” เธอเอ่ยเบา ๆ
“นั้นอาจจะเป็นเพราะเหตุนี้แม่ของเธอถึงส่งเธอหนีไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก”
“อืม”
“นายแล้วเราต้องไปโรงแรมอยู่ไหมครับ ลูกน้องดูมีสีหน้ากังวลเพราะดูท่าแล้วรถน่าจะเสียหายอยู่เยอะแล้วถ้าหากขืนขับไปในสภาพแบบนี้มีหวังตำรวจได้แห่กันมาทั้งโรงพัก ขุนศึกหันมองถนนจากนี้ไปไม่ไกลเป็นคอนโดของเขา
“นั้นไปส่งฉันที่คอนโด เดี๋ยวฉันเอาอีกคันขับไปส่งคุณแพรวาเอง”
“แต่นายครับ เพิ่งโดนซุ่มยิง ไปไหนตอนนี้ไม่ปลอดภัยนะครับ”
“ไม่ต้องห่วงทำตามที่ฉันสั่งก็พอ” แพรวายังคงอยู่ในสภาพตกใจ เธอไม่รู้ว่าจะด่าตัวเองหรือด่าเจ้าของรถที่อยู่ ๆ เธอขึ้นรถเขาปุ๊บโดนลอบยิงปั๊บ หรือเป็นเพราะความซวยของตัวเธอเอง แล้วถ้าหากเธอเกิดเป็นอะไรขึ้น แม่เธอจะอยู่อย่างไร ถึงแม้จะไม่ค่อยถูกกัน แต่เธอก็รู้มาตลอดว่าแม่ของเธอนั้นรักเธอมาก ยอมตามใจเธอทุกอย่างถึงแม้จะชอบบ่น แล้วยังมีพี่ชายที่แสนดีอีก 2 คนที่ไม่รู้ว่าเกิดมาอีกสิบชาติจะเจอพี่ชายแบบนี้ไหม
“แพรวา ว่าไงฉันถาม”
“คะ ค่ะ อะไร” เธอหลุดจากภวังค์
“ตกใจมากเลยเหรอ” ฝ่ามือหนาเอื้อมมาลูบผมเธอ
“อืม!”
“นั้นจะกลับบ้านก่อนหรือยังจะไปตามนัด” ขุนศึกก้าวเท้าลงจากรถด้วยท่าทีระวัง เรื่องจริงอย่างที่ลูกน้องเขาพูดว่า ตอนนี้สำหรับเขาไม่ปลอดภัยเพราะถ้าหากพวกมันได้ซุ่มทำร้ายเขาแล้วหมายถึงพวกมันต้องการจะปิดจ๊อบไม่อยากให้เสียเที่ยว
ขุนศึกเดินด้วยความระแวดระวังจนแพรวาสังเกตได้
“ไม่ไปก็ได้ค่ะ” เธอเริ่มกลัว
“ดี นั้นขึ้นไปพักห้องฉันก่อน …” แพรวามองเขาด้วยทใบหน้าไม่ไว้ใจ
“ยัง…ยังพูดไม่จบไหมอ่ะ คือก็เราต้องรอรถคันใหม่มา รถที่คอนโดมันมีแค่ 2 ที่นั่งแล้วฉันจะไปส่งเธอที่บ้านแล้วบอดี้การ์ดของฉันจะไปอย่างไร ตอนนี้ไม่ปลอดภัยต้องเอาบอดี้การ์ดมาเพิ่ม” เขารีบอธิบายเพราะกลัวเธอเข้าใจผิด
“นี่ ปกติฉันไม่เคยเอาใครมาที่คอนโดเลยนะ” ชายหนุ่มเดินนำหน้าเธอขึ้นไปยังลิฟต์ส่วนตัว
“อืม”
“เธอจะไม่ดีใจหน่อยเหรอ”
“ดีใจเรื่อง!” แพรวาทำสีหน้างง
“ก็เธอคือคนแรกไง”
“ก็แล้วไง” แพรวารู้สึกว่ายิ่งพูดกับขุนศึกยิ่งพูดก็ยิ่งไม่รู้เรื่อง ยิ่งทำให้รำคาญ
เมื่อถึงห้องหรู
…RRRRR…
“Hello … แพรตอนนี้แพรอยู่ไหนแล้ว”
“พี่กิตเหรอค่ะ แพรขอโทษนะคะ พอดีเกิดอุบัติระหว่างเดินทางไปนิดหน่อยค่ะ วันหลังแพรค่อยไปเจอพี่กิตได้ไหมคะ”
“แพรเป็นอะไรมากหรือเปล่า” เสียงจากปลายสายเต็มไปด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ค่ะ แพรไม่ได้เป็นอะไร”
“ได้ ๆ แล้วตอนนี้แพรอยู่ไหน ให้พี่ไปหาไหม” แพรวามองดูหน้าเจ้าของห้องที่ตอนนี้บูดยิ่งกว่าตูดผึ้ง
“ตอนนี้แพรอยู่ห้องเพื่อนค่ะ อีกสักพักรอรถก็จะกลับบ้านค่ะ”
“เหรอ นั้นพี่รอพบแพรวันหลังนะ!”
“ค่ะ!”
“เดี๋ยวก่อนนะ เมื่อกี้ไอ้นั้นมันบอกว่า มันรอพบเธอเหรอ” ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ทำท่าทางจะโวยวาย