อุบัติเหตุ
หลังจากที่เยี่ยนฟางไปพบลูกค้าเสร็จแล้ว ขากลับมีฝนตกหนัก เธอจึงขับรถอย่างระมัดระวัง แต่ถึงจะระวังแค่ไหนสุดท้ายก็เกิดอุบัติเหตุได้อยู่ดี เมื่อมีรถยนต์ที่ขับสวนทางมานั้นเกิดเสียหลักพุ่งมาชนเข้ากับรถของเธอ ทำให้เธอสลบคาพวงมาลัย หัวเธอแตกและมีเลือดไหลเปื้อนเต็มใบหน้า
จื่อลั่วที่เป็นห่วงเพื่อนสาวก็เลยกดโทรหา เพราะฝนตกหนักแบบนี้ และเพื่อนรักก็ยังไม่กลับมาถึงบริษัท โทรไปสองครั้งแล้วก็ไม่รับสาย
“นี่ก็สองทุ่มแล้ว ทำไมเยี่ยนฟางยังมาไม่ถึงบริษัทอีก ฝนก็ตกหนัก โทรไปก็ไม่รับ” จื่อลั่วรู้สึกเป็นห่วงและกังวลใจ ขึงพูดคุยกับพนักงานคนอื่น ๆ
“คงเป็นเพราะฝนตกมั้งคะ เลยไม่สะดวกรับสาย คงจะค่อย ๆ ขับรถมานั่นแหละค่ะ อย่ากังวลไปเลย” พนักงานเอ่ยปลอบ
“ลองโทรไปอีกครั้งก่อนดีกว่า” จื่อลั่วกดโทรออกไปอีกครั้ง แต่คนรับสายกลับไม่ใช่เยี่ยนฟางเพื่อนรักของเธอ แต่เป็นเสียงของผู้ชาย “คุณเป็นใครคะ แล้วมารับโทรศัพท์ของเพื่อนฉันได้ยังไงคะ” เธอเริ่มใจคอไม่ดี ภาวนาอย่าให้เป็นดั่งใจคิด
“ผมเป็นหน่วยกู้ภัยครับ ตอนนี้เจ้าของมือถือเกิดอุบัติเหตุ มีอาการหนักมากเหมือนกันครับ ตอนนี้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาล…..แล้ว ยังไงก็ตามไปที่นั่นได้เลยนะครับ ส่วนทรัพย์สินภายในรถ พวกเราจะถ่ายรูปไว้และเก็บส่งคืนให้ทีหลัง”
“ค่ะ..ค่ะ..ขอบคุณมากค่ะ ฉันจะรีบตามไป” จื่อลั่วแทบเข่าทรุด
“มีอะไรหรือเปล่าคะ ผู้จัดการเป็นอะไรคะ”
“เยี่ยนฟางเกิดอุบัติเหตุ เดี๋ยวฉันจะรีบไปที่โรงพยาบาลก่อนนะ งานที่เหลือฝากจัดการให้ด้วย จะอยู่ทำโอทีถึงกี่โมงก็ได้นะ เดี๋ยวฉันต้องรีบไปโรงพยาบาลก่อน”
(ค่ะรองผู้จัดการ)
กลุ่มพนักงานห้าคนที่เหลือก็ต่างจ้องมองกันทันทีว่าจะเอายังไงต่อ จะอยู่ทำงานกันถึงกี่โมงดี เพราะทั้งแผนกตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ห้าคนเท่านั้น
‘เอาไงดี จะอยู่กันถึงกี่โมงดีล่ะ’
‘สักเที่ยงคืนดีมั้ย พวกเธอไหวหรือเปล่าล่ะ’
‘ฉันไหวนะ’
‘ฉันก็ไหว’
‘ก็หากทุกคนไหวก็เอาตามนั้นก็แล้วกัน ผู้จัดการกับรองผู้จัดการก็ไม่อยู่ หากพวกเราช่วยกันอยู่ทำโอทีต่อ งานก็จะได้เสร็จทันเวลา’
‘ใช่ ไม่รู้ว่าผู้จัดการจะเป็นอะไรมากหรือเปล่า รองผู้จัดการฝากความหวังไว้ที่พวกเราแล้ว พวกเรามาสู้งานกันต่อเถอะ ถึงจะไม่มีผู้จัดการ เราก็ต้องทำได้’
‘อื่ม พรุ่งนี้เช้าหากรองผู้จัดการไม่เข้าบริษัท เราก็ส่งตัวแทนไปคนหนึ่ง เอางานไปให้เขาดูที่โรงพยาบาล เผื่อว่าจะต้องแก้ไขตรงไหน’
‘ทำงานกันต่อเถอะ’
พนักงานที่เหลือต่างก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันต่อ แม้ในใจจะห่วงเจ้านายอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากทำงานให้ออกมาดีที่สุด
จื่อลั่วนั่งรอเพื่อนสาวอยู่หน้าห้องไอซียูตลอดเวลา ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าอาการของเพื่อนสาวเป็นยังไงบ้าง เธอทำอะไรไม่ถูก เธอจึงโทรติดต่อไปยังตระกูลหลินเพื่อบอกข่าวนี้ให้กับพ่อของเพื่อนสาวได้รู้ ไม่นานหลินหนิงจินก็มาถึงด้วยใบหน้าที่มีความกังวลและเป็นห่วงลูกสาว
“เยี่ยนฟางเป็นยังไงบ้าง”
“ท่านประธาน….ยังไม่รู้เหมือนกันค่ะ เยี่ยนฟางยังไม่ออกมาเลย”
“แล้วนี่ทำไมถึงเกิดอุบัติเหตุได้ล่ะ เธอรู้หรือเปล่า”
“เมื่อตอนเย็นเยี่ยนฟางออกไปพบลูกค้าค่ะ แล้วก็จะกลับเข้ามาบริษัทเพื่อทำงานต่อ แต่คงเพราะฝนตกหนักเลยทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ตอนที่หนูโทรไป เจ้าหน้าที่เป็นคนรับสาย หนูเลยรีบมาที่โรงพยาบาล”
“ญาติคุณหลินเยี่ยนฟางครับ” ตำรวจเรียก
“ผมหลินหนิงจิน เป็นพ่อของเธอครับ” ชายชราลุกขึ้นตอบ
“สวัสดีครับประธานหลิน” ตำรวจตอบอย่างเคารพ ใครบ้างจะไม่รู้จักตระกูลหลินที่มีชื่อเสียงโด่งดังอันดับสองรองลงมาจากตระกูลฟู่ “ทางตำรวจอยากจะสอบปากคำญาติเพิ่มเติมครับ ตอนนี้สะดวกหรือเปล่า ไม่งั้นก็เป็นวันหลังก็ได้นะครับ” บอกอย่างเกรงใจ
“ตอนนี้ผมยังไม่สะดวกที่จะให้ข้อมูลอะไร ยังไงรอลูกสาวผมฟื้นก่อนแล้วกันนะครับ”
“ได้ครับ ยังไงทางตำรวจจะติดมาอีกทีนะครับ”
“ขอบคุณครับ”
ตระกูลฟู่
ผิงอานนั่งรอเยี่ยนฟางอยู่ที่ห้องนั่งเล่นอย่างเป็นห่วง ฝนตกหนักอย่างนี้ไม่รู้ว่าลูกสะใภ้ปลอม ๆ ของเธอจะเป็นยังไงบ้าง ถึงแม้ว่าปกติลูกสะใภ้คนนี้จะกลับบ้านดึกบ่อย ๆ แต่นั่นฝนไม่ได้ตกอย่างวันนี้
“คุณแม่ยังไม่ขึ้นไปนอนเหรอครับ” ตงหยางเอ่ยถาม เมื่อเลิกงานกลับมาถึงบ้าน แล้วเจอผู้เป็นแม่นั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นอยู่ “แล้วเยี่ยนฟางกลับมาหรือยังครับ” ไม่วายยังนึกเป็นห่วงภรรยาปลอม ๆ ด้วย
“แม่ก็นั่งรออยู่นี่แหละ ฝนก็ตกหนักแบบนี้ แม่เป็นห่วงน้องจังเลยหากจะขับรถกลับมาคนเดียว”
“งั้นเดี๋ยวผมจะโทรหาเธอก่อนแล้วกัน หายังอยู่ที่บริษัท ผมจะออกรับเธอเอง”
“ดีเหมือนกัน ลองโทรไปถามน้องก่อนสิ”
ตงหยางกำลังจะกดโทรออก แต่มือถือก็มีสายโทรเข้าเสียก่อน
“ว่าไงครับที่รัก”
“ตงหยาง น้องเยี่ยนฟางเกิดอุบัติเหตุค่ะ ฉันได้รับแจ้งเหตุและไปรับผู้ประสบอุบัติเหตุมา จึงได้รู้ว่าเป็นน้องเยี่ยนฟาง ตอนนี้พึ่งถึงโรงพยาบาลนะครับ”
“ครับ ขอบคุณมากนะครับที่รัก ผมกำลังจะโทรไปหาเยี่ยนฟางอยู่พอดี คุณแม่ก็เป็นห่วงอยู่ เดี๋ยวผมจะรีบไปครับ” เขากดวางสายทันที ก่อนจะหันไปบอกมารดา “เยี่ยนฟางเกิดอุบัติเหตุครับ ผมต้องรีบไปที่โรงพยาบาล”
“แม่ไปด้วย”
“ครับ เรารีบไปกันเถอะ”
เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ตงหยางกับมารดาก็ไปที่หน้าห้องไอซียูทันที มีหลินหนิงจินกับจื่อลั่วนั่งรออยู่หน้าห้องนั้นด้วยความกังวล
“คุณลุงหลิน เยี่ยนฟางเป็นยังไงบ้างครับ ผมพึ่งได้รับข่าวก็เลยรีบมา”
“ใช่ค่ะ เยี่ยนฟางเป็นยังไงบ้างคะ ฉันกำลังคุยกับลูกว่าเยี่ยนฟางยังไม่กลับบ้าน ตงหยางเลยว่าจะไปรับที่บริษัท แต่ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาแจ้งเสียก่อน”
“ต้องรอให้หมอออกมาแจ้งก่อน เพราะฉันก็พึ่งจะมาถึงเหมือนกัน ตอนนี้ยังไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมอะไร”
“เมื่อกี้ผมสวนทางกับตำรวจ ยังไงผมขอไปถามหลายละเอียดเพิ่มเติมก่อนนะครับ”
“ฝากด้วยนะ” ชายชราตอบด้วยสีหน้าที่ยังกังวล เขาไม่มีกระจิดกระใจอยากจะทำอะไร เพียงแค่อยากรู้ว่าตอนนี้ลูกสาวของเธอเป็นยังไงบ้างก็เท่านั้น