ตอนที่ 3 [คุณชายใจร้ายเกินไปแล้ว]
เล่ห์รักพยัคฆ์โลหิต
ตอนที่ 3
[คุณชายใจร้ายเกินไปแล้ว]
สายตาคมปลาบของคุณชายหนุ่มไล่มองเรือนร่างของสาวน้อยที่ลงมายืนแช่อยู่ในน้ำ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นคว้าเอวบางมานั่งลงบนตัก ทำให้ซ่งเสวี่ยอิงสั่นเทิ้มไปทั้งเรือนร่างเล็ก เมื่อบั้นท้ายกลมกลึงไร้อาภรณ์สัมผัสกับหน้าขาของคุณชาย
แต่แค่นั้นลู่หลิงซียังมิค่อยพอใจนัก เจ้าของร่างสูงจึงจับเอวคอดกิ่วของนางยกจนบั้นท้ายขาวนวลลอยขึ้นจากตัก ส่วนเขาเปลี่ยนเป็นนั่งชันเข่าสองข้างขึ้น และอ้าออกกว้างเสียหน่อย ก่อนปล่อยให้นางนั่งลงกับพื้นอ่างอาบน้ำโดยมีเขานั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง
เมื่อท่วงท่าออกมาเป็นเช่นนี้ บั้นท้ายเสวี่ยอิงจึงสัมผัสกับส่วนที่บ่งบอกถึงความเป็นบุรุษเพศที่ยังคงสภาพปกติ ที่เข้าเบียดชิดอยู่กับเรือนกายด้านหลังนาง
เพราะคุณชายหลิงซีมีส่วนสูงเกือบสี่ศอก ในขณะที่นางตัวเล็กและมีส่วนสูงเกือบมิถึงสามศอก ทำให้ยามนั่งลงในน้ำ ผิวน้ำจึงอยู่เกือบถึงไหปลาร้านาง ถ้าเสวี่ยอิงเตี้ยกว่านี้ น้ำคงท่วมหัวนางไปแล้วกระมัง
"กลัวข้ารึ?" น้ำเสียงเย็นเยือกกระซิบถาม ขณะที่มือใหญ่ใช้ผ้าที่นางวางพาดไว้ริมอ่างมาขัดถูลงบนร่างนุ่ม จนเสวี่ยอิงนิ่วหน้า เพราะแสบที่ถูกผิวผ้าครูดถูอย่างหนักมือเช่นนั้น
"อ๊ะ...คุณชาย! ทำเช่นนี้ทำไมเจ้าคะ" มือบางยกปัดป้องผิวของตน และอดทนกับสิ่งที่เขากระทำต่อนาง ทว่าเสียงที่ครางหวานออกมานั้นกลับทำให้ลู่หลิงซีขบกรามแน่น หยุดมือมองผิวนางที่ขึ้นรอยแดงเพราะน้ำมือเขา
ชายหนุ่มก้มใบหน้าคมคร้ามลง ก่อนซุกไซ้จมูกโด่งกับซอกคอขาวของสาวน้อย สูดดมกลิ่นกายหอมกรุ่นเข้าปอดลึก ทำเอาร่างนางสะท้านเยือก กำมือจนแน่น เสียงหายใจหอบของนางทำให้อีกฝ่ายยกยิ้มมุมปากร้าย
"ข้าขัดตัวเจ้าถึงเพียงนี้ เหตุใดยังมีกลิ่นหอมอยู่"
น้ำเสียงเรียบเอ่ยถาม ลมหายใจอุ่นที่กรุ่นอยู่หลังใบหูเล็ก ทำให้สาวน้อยกัดริมฝีปากล่างแน่นจนได้รสเค็มปร่าของคาวเลือด เรื่องที่คุณชายถามมานั้น นางจะรู้ได้อย่างไร นางมิเคยใช้เครื่องหอมเลยสักครั้ง
"คะ...คุณชาย" สาวน้อยส่งเสียงเบา ขยับตัวหลบคนที่เอาแต่จูบพรมไปทั่วหลังคอเรื่อยไล่มาถึงติ่งหูเล็กของนาง
"ซ่งเสวี่ยอิง" เขาเอ่ยเรียก ใช้วงแขนรั้งให้ตัวนางขยับหันหน้ามาหา สายตาคมหลุบลงต่ำมองลูกอิงเถาสีสดเล็ก ๆ ที่ประดับอยู่บนซาลาเปาขาวอวบลูกโตใต้ผิวน้ำ จนเจ้าของร่างเล็กหน้าร้อนผะผ่าวเมื่อถูกคุณชายจ้องมองเช่นนั้น แต่อย่างไรก็คงมิอาจห้ามปรามได้
"บ่าวไม่รู้เจ้าค่ะ" เสวี่ยอิงส่งเสียงตอบ เบือนหน้าหลบมิยอมสบตาคม
"แต่ข้าอยากรู้" นัยน์ตาร้ายกาจราวราชสีห์เฝ้ามองสีหน้าและปฏิกิริยาอาการของนางนิ่ง
"อยากรู้ อยากรู้เรื่องอะไรหรือเจ้าคะ" เจ้าของนัยน์ตาหวานซึ้งเงยดวงหน้างามขึ้นมาสบสายตาคนพูดด้วยความสงสัย
"กลิ่นหอมของ…ซ่งเสวี่ยอิง" เขาเอ่ยบอก จงใจเว้นวรรคเรียกและเห็นว่าร่างนางสั่นไหวน้อย ๆ นัยน์ตากลมที่มองสบกันไหวระริก ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันจนแน่นราวนางกำลังข่มกลั้นความรู้สึกบางอย่างอยู่
'อ่อนไหวกับเสียงข้ายามเอ่ยเรียกชื่อเจ้ารึ แปลกเสียจริง' บุรุษหนุ่มครุ่นคิด
"ไม่มีอะไรเจ้าค่ะ บ่าวไม่เคยใช้เครื่องหอม" นางรีบตอบ คุณชายจะได้มิต้องอยากได้ใคร่รู้นัก
"ข้ามิเชื่อ" เขาค้านสั้น ๆ ไล้ปลายนิ้วเรียวยาวประดุจเล่มเทียนไปตามหัวไหล่และเรียวแขนเล็ก ๆ ของนาง ทำเอาขนอ่อนบนร่างนางแข่งกันชูชัน
"บ่าวไม่ได้โป้ปดเจ้าค่ะ" สาวน้อยละล่ำละลักตอบ ปรายหางตามองนิ้วของเขาที่เอาแต่หยอกเย้าบนผิวกายนางมิวาง
"ซ่งเสวี่ยอิง" เขาเอ่ยเรียก น้ำเสียงลุ่มลึกที่เข้ามากระทบโสต สามารถทำให้สาวน้อยมิอาจปฏิเสธได้ว่าร่างกายของนางอ่อนไหวกับเสียงเรียกแสนไพเราะของเขาจริง ๆ
ทุกครั้งที่ได้ยินร่างนางจะสะท้านเยือก และหัวใจเต้นถี่จนยากจะห้ามปราม สาวน้อยยกมือขึ้นปิดหูตนเองทั้งสองข้าง ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างมิอยากเชื่อ
"เลิกเรียกด้วยเสียงเช่นนั้น…อื้อ!" น้ำเสียงสั่นเอ่ยบอก ก่อนที่ริมฝีปากอิ่มจะถูกเรียวปากร้อนฉ่าของเขาประกบจุมพิตลงมา ทว่ามันมิใช่แค่การจูบธรรมดาอย่างที่นางคาดคิด แต่น่าจะเรียกว่าถูกคุณชายกำลังดูดปากนางแรง ๆ เสียจนได้ยินเสียงยามกลีบปากถูกเขาดูดดึงมากกว่า
"อื้อ ๆ" เสวี่ยอิงดิ้นขลุกขลักอย่างทรมาน หอบหายใจราวคนกำลังจะจมน้ำ เพราะอีกฝ่ายเอาแต่ช่วงชิงลมหายใจของนางไป จนสาวน้อยหายใจมิทัน
มือคู่น้อยเร่งผลักไสแผ่นอกแกร่งเปล่าเปลือยให้ถอยห่าง ขมวดเรียวคิ้วมุ่นข่มกลั้นความเจ็บปวดที่ริมฝีปาก เมื่อคุณชายใช้คมฟันกัดดึงกลีบปากอิ่มให้เปิดออก ก่อนสอดแทรกปลายลิ้นเข้ามากวาดต้อนลิ้นนุ่ม ดูดดึงเรียวลิ้นเข้าลึกจนสาวน้อยน้ำตารินไหลลงหางตา รีบหอบอากาศเข้ามายามเขาผละริมฝีปากออกเพียงเล็กน้อย ก่อนคุณชายจะบดเบียดริมฝีปากลงมาอีกครั้ง และอีกครั้ง จนซ่งเสวี่ยอิงหัวหมุนและส่ายหน้าหนีเขา
“...”
"แฮ่ก ๆ คุณชาย!" เสวี่ยอิงส่ายหน้าส่งเสียงหอบกระเส่า เมื่อข้อมือทั้งสองข้างถูกรวบไว้ด้วยมือใหญ่เพียงข้างเดียว ไขว้กดไว้ด้านหลัง วงแขนแกร่งอีกข้างตวัดรั้งเอวกิ่วขึ้นมาให้นางเปลี่ยนเป็นนั่งคุกเข่าหันตัวเข้าหาเขา ทำให้เนินอกของนางสูงขึ้นมาอยู่ในระดับใบหน้าชายหนุ่ม
ใบหน้าคมคร้ามแสนมีเสน่ห์ของลู่หลิงซีก้มลงซุกไซ้ สูดดมกลิ่นกายหอมรัญจวนราวถูกกลิ่นกรุ่นมอมเมา รุกเร้านางโดยมิคิดพูดจาให้มากความ
"เจ็บ…บ่าวเจ็บเจ้าค่ะ!" นางส่งเสียง เมื่อเนินอกถูกริมฝีปากร้อนดูดเข้าแรง ๆ
"อยากอยู่กับข้า ก็ตามใจข้า" เสียงเย็นกระซิบ ตวัดลิ้นเข้าไล้เลียยอดอกงามราวหยอกเย้า ก่อนเลื่อนไล้ปลายลิ้นละเลงลงที่ยอดปทุมถันเต่งตึงยั่วตา จนสาวน้อยเกร็งเครียดไปทั้งร่างงาม
"คุณชายปรานีด้วยเจ้าค่ะ" เสวี่ยอิงร้องขอ นางยังมิได้เตรียมใจมาเพื่อสิ่งนี้ หากเขาจะกระทำก็ขอให้ปรานีนางด้วยเถิด
ลู่หลิงซีเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้างามที่นัยน์ตาหวานรื้นไปด้วยม่านน้ำตาใส เห็นเช่นนั้นก็ยิ่งอยากทำให้นางร้องไห้ออกมายิ่งนัก
"ซ่งเสวี่ยอิง" เสียงเรียกทำร่างบางสะท้านเยือกอีกครั้ง กัดริมฝีปากแน่นจนห้อเลือด ทำให้ชายหนุ่มกดนิ้วหัวแม่มือลงบนริมฝีปากนาง มิให้นางกัดปากสวย ๆ จนเลือดซึมอีก
สายตาคมลุ่มลึกของเขา น้ำเสียงของเขา รสสัมผัสของเขาทำสาวน้อยร้อนรนไปหมดทั้งกายใจ แปลกใหม่จนยากเกินหาความหมายของอาการ
"บ่าว...อยู่ได้หรือเจ้าคะ" สาวน้อยเอ่ยถามราวคาดหวังเล็กน้อย นัยน์ตากลมเดียงสามองใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายอย่างรอคำตอบ
"เจ้ามีดีพอที่จะมิถูกข้าไล่หรือไม่" ลู่หลิงซีเอ่ยถามน้ำเสียงราบเรียบ มองสาวใช้คนใหม่ที่ดูตื่นกลัวไปเสียทุกอย่าง ทว่าร่างกายของนางกลับตอบสนองต่อน้ำเสียงเรียกของเขา
มิใช่เพียงหนึ่งคำ แต่เป็นทุกครั้งที่เขาเรียกชื่อนาง ตัวนางจะสั่นเทิ้มทันที เป็นเช่นนี้ช่างน่าสนใจยิ่งนัก
ลู่หลิงซีคลายมือจากข้อมือนาง เอนกายพิงขอบอ่าง มองทอดเรือนร่างขาวเนียนยวนตาตรงหน้า ที่รีบยกมือขึ้นปิดบังส่วนหวงแหนแสนเนียนนวลของตนไว้ โดยลืมไปว่านางหาได้มีสิ่งใดช่วยปกปิดส่วนอื่นไม่
แม้ใบหน้าที่งดงามประดุจเทพบุตรจะฉาบไว้เพียงความเรียบเฉย ทว่าเสวี่ยอิงกลับรู้สึกถึงสายตาร้อนแรงที่มองมา จึงได้แต่หลุบตาลงต่ำและอดทนมิให้ร่างสั่นไหวให้เขาเห็น