6 ปล่อยขาว
“หวานว่าเรื่องที่ตกลงเป็นแฟนกับคุณธีธวัชมันจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม” แม้จะตอบตกลงไปแล้วแต่ชญานิษฐ์ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าทุกอย่างมันจะง่ายเหมือนที่วางแผนกันไว้
“ไม่หรอกน่า เราต่างคนต่างก็ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่ายมีเขามาเป็นแฟนก็เหมือนกับมีเกราะป้องกันอย่างดีเลยนะ ผู้ชายที่ตามเนเน่อยู่ตอนนี้ก็อาจจะถอดใจและเลิกยุ่งเลยก็ได้นะ”
“เนเน่ก็หวังจะให้มันเป็นอย่างนั้นนะ”
“หวานก็อยากจะให้เขาเลิกยุ่งและเลิกตามเนเน่สักที” ณัฏฐพิมพ์ไม่อยากเห็นเพื่อนเครียดเรื่องนี้จึงรู้สึกดีใจที่คุณธีธวัชเสนอให้ชญานิษฐ์ไปเป็นแฟนของเขาแม้จะเป็นแค่สามเดือนก็ตาม
“คืนนั้นคงเป็นอุบัติเหตุจริงๆ ใช่ไหมหวาน” ชญานิษฐ์ยังกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก
“หวานคิดว่าคงเป็นอุบัติเหตุจริงๆ เพราะถ้าเขาเป็นคนทำเรื่องนั้นพอเห็นข่าวเขาจะต้องมาคอมเมนต์แปลกๆ อีกแน่”
“ถ้าเป็นอุบติเหตุก็แล้วไป”
คืนนั้นหลังจากหลอดไฟระเบิดเธอทั้งสองคนก็รีบเก็บของและเช็กเอาท์เพราะกลัวว่าคนที่ทำเรื่องนี้จะเป็นแฟนคลับที่มักจะส่งของขวัญแปลกๆ มาให้กับชญานิษฐ์
เมื่อออกจากโรงแรมก็รีบขับรถกลับไปคอนโดแต่ระหว่างทางชญานิษฐ์ก็รู้สึกเจ็บข้อเท้าพอก้มลงมองถึงรู้ว่าตัวเองมีแผลบริเวณข้อเท้าจากนั้นก็รีบขับรถมาโรงพยาบาล คุณหมอเห็นว่าแผลค่อนข้างลึกและแผลมันเกิดบริเวณข้อเท้าหมอไม่อยากให้เธอต้องลงน้ำหนักที่เท้ามากจึงรับไว้ในโรงพยาบาล
“แล้วเราจะได้ออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่อยู่ที่นี่เนน่รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยเลย”
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่าคุณธีธวัชเขาเป็นหุ้นส่วนกับโรงพยาบาลนี้หวานว่ามันปลอดภัยที่สุดแล้ว”
“แต่เจ็บข้อเท้าแค่นี้มันไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลหลายวันนอนเลย”
“หลายวันนั่นแหละเนเน่ก็ถือโอกาสพักไปเลยระหว่างนี้หวานจะค่อยๆ ปล่อยข่าว เรื่องที่เนเน่กับคุณธีธวัชเป็นแฟนกันและอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ใช่เรื่องจริงเพียงแต่เนเน่เป็นคนทำแก้วลงพื้นและเศษแก้วมันกระเด็นมาโดนข้อเท้า แบบนี้โรงแรมของเขาก็ไม่เสียชื่อเสียง”
“หวานคิดว่ามันจะได้ผลใช่ไหม”
“ได้ผลสิ เพราะข่าวแรกที่ออกไปว่าหลอดไฟบริเวณหัวเตียงระเบิดเราไม่ได้ลงรูปไม่มีใครรู้หรอกมันว่ามันเป็นเรื่องจริงเรื่องหรือไม่จริง หวานพลาดเองแหละที่ไปเล่าเรื่องนี้ในไลน์กลุ่ม” ณัฏฐพิมพ์ยอมรับว่าตัวเองพลาดมากที่ไปเล่าเรื่องนี้ในกลุ่มไลน์
“แล้วถ้าคนในกลุ่มไลน์ถามล่ะ”
“หวานก็จะบอกไปว่าตอนนั้นเน่เน่กับคุณธีธวัชกำลังงอนกันก็เลยบอกคนอื่นไปแบบนี้”
“ดีนะที่ทางโรงแรมเขาไม่เอาเรื่องและเรียกร้องค่าเสียหายที่เราทำให้โรงแรมของเขาเสียชื่อเสียง เพราะตอนนั้นเราไม่ได้แจ้งเขาจริงๆ ว่าเราเกิดอุบัติเหตุ ถ้าหากเราแจ้งเขาไปเรื่องมันก็อาจจะไม่เป็นแบบนี้ก็ได้ ตอนนั้นเนเน่ตกใจมากและไม่อยากจะอยู่ตรงนั้นเลย”
“หวานเข้าใจหวานเองก็ตกใจเหมือนกันแหละ”
“แล้วเราจะเอายังไงกันต่อล่ะ”
“หวานติดต่อไปร้านที่เราบอกจะไปรีวิวหรือยัง”
“ติดต่อไปแล้วเขาบอกว่าไม่เป็นไรว่างเมื่อไหร่เราค่อยไปรีวิว”
“แต่อาทิตย์นี้เราจะไม่มีคลิปลงเลยนะ ถ้าไม่มีอะไรลงคยติดตามจะต้องหายไปแน่เลย” ชญานิษฐ์รู้สึกเป็นกังวลเพราะถ้าหากไม่มีคลิปไม่มีความเคลื่อนไหวลงในสื่อโซเชียลเงินค่าโฆษณาและผู้ติดตามก็อาจจะลดน้อยลง
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่าอย่าลืมนะว่าเราได้ค่าจ้างจากคุณธีธวัชตั้งหนึ่งล้าน แต่เงินจำนวนนี้หวานจะไม่แบ่งกับเนเน่หรอกนะ”
“ได้ยังไงล่ะปกติเงินทุกอย่างเราก็ต้องหารครึ่งกันอยู่แล้ว เนเน่ไม่อยากเอาเปรียบนะ”
“ที่ผ่านมาเนเน่ทำงานหนักมากกว่าหวานเยอะ หวานเลยคิดว่าต่อไปนี้เงินที่เราหามาได้จะไม่แบ่งครึ่งแล้ว หวานจะเอาแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์”
“ไม่นะหวานถ้าไม่มีหวานก็ไม่มีเนเน่ ทุกอย่างต้องหารครึ่ง”
“แต่ถ้าหารครึ่งมันก็เท่ากับว่าหวานได้เงินมาห้าแสนโดยไม่ทำอะไรเลยนะหวานรับไม่ได้หรอก แล้วคนที่เจ็บตัวและต้องไปเป็นแฟนคุณธีธวัชก็คือเนเน่นะ”
“แต่ถ้าหวานไม่รับเงินจำนวนนี้เลย เนเน่ก็รู้สึกว่าตัวเองเอาเปรียบหวานมากๆ และคงไม่สบายใจถ้าหวานไม่รับเนเน่จะโทรไปบอกคุณธีธวัชว่าจะยกเลิก”
“อย่าทำแบบนั้นนะ เงินมากขนาดนั้นเนเน่จะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง”
“ก็หวานไม่ยอมรับส่วนแบ่ง”
“ถ้ายังงั้นรับแค่แสนเดียวนะ ได้ไหมอีกเก้าแสนเนเน่จะได้เอาไปโปะคอนโด”
“มันแค่สิบเปอร์เซ็นต์เองนะ”
“แต่มันก็เท่ากับเงินที่เราได้เกือบสองเดือนเลยนะ”
“แต่เนเน่อยากให้หวานรับไปครึ่งหนึ่งจริงๆ ”
“แต่หวานรับไม่ได้หรอก”
“ถ้าอย่างนั้นเงินเดือนที่เขาบอกว่าจะให้หลังจากสามเดือนนี้ละถึงตอนนั้นเราต้องแบ่งครึ่งนะ”
“หวานว่าถึงตอนนั้นเราค่อยมาพูดกัน”
“แต่ตอนนี้รายได้ของเราก็ลดลงด้วยนะ จะเอาไปแค่แสนเดียวจริงเหรอ” ชญานิษฐ์ยังไม่ยอมแพ้ที่จะแบ่งเงินให้เพื่อนเท่าตัวเอง
“อย่าห่วงไปเลย บางทีการที่เนน่เป็นแฟนกับผู้บริหารระดับสูงในเครือโรงแรมใหญ่อาจจะมีสินค้ามาให้เนเน่รีวิวเยอะขึ้นก็ได้”
“ก็ขอให้จริงนะ”
“การนอนอยู่โรงพยาบาลเราไม่ได้ออกไปรีวิวตามคาเฟ่ก็จริงแต่การรีวิวสินค้าบางอย่างมันก็ทำได้นี่ เนเน่พร้อมสำหรับจะทำงานแล้วใช่ไหมล่ะ”
“ถ้ามีงานเข้ามาก็พร้อมรับเสมอแหละ”
“โอเคถ้ายังงั้นเดี๋ยวจะลองปล่อยข่าวเรื่องที่เนน่เป็นแฟนกับคุณธีธวัชก่อนจากนั้นก็จะรอดูว่ามีใครติดต่อให้บ้าง”
ณัฏฐพิมพ์เริ่มโพสต์รูปผู้ชายเอากระเช้าของขวัญและช่อดอกไม้มาเยี่ยมแต่ไม่ได้เปิดเผยใบหน้าเพราะคิดว่าเดี๋ยวคนก็ต้องพยายามสืบกันเองว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร
ส่วนทางด้านธีธวัชเองก็ไปตามคาเฟ่ที่เธอบอกไว้เขาส่งรูปในมุมที่ใกล้เคียงกับชญานิษฐ์ถ่ายมาให้หลายรูป ณัฏฐพิมพ์ซึ่งมีไอดีใน Instagram และสื่อโซเชียลต่างๆ หลายไอดีก็เริ่มโพสต์ภาพปริศนาของชญานิษฐ์กับชายหนุ่มรูปร่างสูงไปไม่นานก็เริ่มคอมเมนต์เข้ามาอย่างมากมายหลายๆ คนก็เข้ามาถามว่าผู้ชายที่โชคดีคนนั้นคือใคร
หญิงสาวสองคนยังไม่ตอบอะไรในตอนนี้เธอจะปล่อยให้ทุกคนสงสัยไปแบบนั้นก่อนและคิดว่าจะเฉลยเรื่องเหล่านี้ในเวลาเที่ยงคืนของคืนนี้
“เนเน่ดูคอมเมนต์พวกนี้สิ ส่วนใหญ่จะไปในทางบวกนะทุกคนอยากรู้ว่าผู้ชายที่เนเน่คบอยู่นั้นเป็นใคร”
“หวานลองดูคอมเมนต์นี้ก่อนสิ” ชญานิษฐ์ส่งมือถือของตนเองให้กับเพื่อนรักดู
‘คุณจะเป็นของใครไม่ได้ทั้งนั้นเนเน่ คุณจะต้องเป็นของผมคนเดียว ผมจะทำให้คนทั้งโลกรู้ว่าคุณคือผู้หญิงของผม’
“บล็อกไปเลยดีมั้ยหวาน”
“หวานว่าเราจะต้องสืบให้ได้วว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร บางทีเรื่องนี้เราอาจจะต้องให้คุณธีธวัชช่วย”
“มันจะไม่รบกวนเขาเกินไปเหรอ”
“ไม่หรอก ถ้าเขาอยากทุกคนเชื่อว่าเนเน่กับเขาเป็นแฟนกันจริงๆ เขาก็ต้องจัดการเรื่องนี้และลากคนที่โพสต์ถึงแฟนเขาออกมาจากมุมมืด” ณัฏฐพิมพ์กล่าวอย่างมั่นใจ