5 มันง่ายเกินไปหรือเปล่า
“คุณธีคะหวานมีเรื่องจะรบกวนคุณธีอีกอย่างหนึ่ง”
“อะไรครับ”
“คุณธีช่วยสมัคร Instagram หน่อยได้ไหม”
“ทำไมล่ะ แค่ Facebook มันไม่พอเหรอ”
“ก็ส่วนใหญ่คนจะตามสืบจากไอจีนะ”
“แต่ถ้าผมเพิ่งสมัครวันนี้คนก็รู้อยู่ดีว่าผมสมัครหลังจากเกิดเรื่องแล้ว”
“นั่นสิหวานลืมคิดเรื่องนี้ไปเลยถ้ายังงั้นเราเอายังไงดีล่ะ”
“เอาบัญชีเก่าของเนเน่ไปใช้ไหม”
“คุณมีบัญชีหลายบัญชีเหรอครับเนเน่”
“มีสามบัญชีค่ะบัญชีที่เปิดสาธารณะ กับบัญชีเป็นส่วนตัว แต่บัญชีที่จะให้คุณคือบัญชีที่เนเน่เปิดมานานแล้วและตามแค่ตัวเอง”
“แบบนี้ก็ดีเลยสิถ้าคนตามสืบก็จะรู้ว่าคุณที่ติดตามเนเน่มานาน แล้วรูปในไอจีเป็นรูปอะไร” ณัฏฐพิมพ์ถามเพราะตัวเองก็ลืมไปแล้วว่าชญานิษฐ์ยังมีบัญชีไอจีอีกบัญชีหนึ่งที่ไม่เคยได้ใช้งานเลย
“เป็นรูปหอไอเฟลพอจะใช้ได้ไหม เดี๋ยวแป๊บหนึ่งนะ” หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ของตนเองและล็อกเอาท์ออกจากบัญชี Instagram เดิมจากนั้นก็เปลี่ยนเป็นบัญชี Instagram ที่ไม่เคยได้เปิดใช้มานานและโชคดีมากที่เธอมักจะตั้งรหัสผ่านทุกๆ อย่างไว้คล้ายๆ กันมันเลยทำให้เปิดเข้าไปใช้บัญชีนั้นได้
“นี่ไงเนเน่ไม่ได้โพสต์อะไรเลยส่วนใหญ่ก็ตามไปกดถูกใจสนใจรูปของตัวเองตั้งแต่เริ่มทำงานแรกๆ หลังจากมีคนติดตามเยอะมีคนมาคอมเมนต์เยอะเนเน่ก็เลยไม่ค่อยได้ใช้ไอจีนั้นต่อ”
“คุณจะยกบัญชีนี้ให้ผมจริงเหรอ มันจะไม่เป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวของคุณเกินไปหรือเปล่า” ธีธวัชหันมาถาม
“ไม่หรอกค่ะลงแอพในโทรศัพท์ของคุณสิเดี๋ยวเนเน่กรอกรหัสให้”
“เดี๋ยวผมจัดการให้เองครับ ส่งโทรศัพท์มาครับ” หิรัญแบมือขอโทรศัพท์จากเจ้าหน้านายจากนั้นก็รีบโหลดแอพพลิเคชัน Instagram ก่อนจะยื่นส่งโทรศัพท์ให้ชญานิษฐ์เป็นคนกรอกรหัสให้
“เรียบร้อยแล้วค่ะจากนี้คุณก็แค่เข้าไปดูและกดไลค์เวลาเนเน่โพสต์รูปก็แค่นั้นเอง”
“ส่วนรูปเลือกรูปที่ไปเที่ยวคาเฟ่เดี๋ยวผมพาเขาไปเองครับ”
“คุณรู้เหรอว่าไปที่ไหนมาบ้าง” ณัฏฐพิมพ์ถามหิรัญที่ดูเหมือนมั่นใจมากว่าตัวเองรู้
“รู้สิครับก็ผมเป็นแฟนตัวยงของคุณนี่” หิรัญพูดด้วยความภาคภูมิใจ
“ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้นะ เราจะแกล้งเป็นแฟนกันประมาณสามเดือนเดี๋ยวผมจะจัดงานโอนเงินให้นะ คุณให้เลขที่บัญชีผมมาก็แล้วกัน”
“เรื่องมันจะง่ายแบบนี้จริงๆ ใช่ไหมคะ คนอื่นจะไม่จับได้ใช่ไหมคะ” ชญานิษฐ์มองหน้าธีธวัชด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ
“ครับ”
“เนเน่ว่ามันง่ายเกินไปหรือเปล่า คุณมั่นใจเหรอว่ามันจะเป็นผลดีกับคุณ” เพราะถ้ารับเงินมามากขนาดนั้นชญานิษฐ์ก็อยากจะมั่นใจทุกอย่างจะสำเร็จอย่างที่วางแผนไว้
เนื่องจากเขาเป็นถึงรองประธานบริษัทใหญ่ที่มีโรงแรมไปทั่วการที่เธอจะแสดงตัวเป็นแฟนของเขามันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องอะไรที่ง่ายๆ เลย
“มันก็น่าจะไม่มีอะไรแล้วนะครับ แต่บางทีคุณอาจจะต้องรับมือกับคุณพ่อคุณแม่ของผมบ้าง”
“อะไรนะคะ เนเน่จะต้องรู้จักกับพ่อแม่คุณด้วยเหรอคะ”
“ใช่สิครับ ถ้าข่าวออกไปว่าคุณเป็นแฟนผมก็อาจจะต้องมีภาพที่คุณไปทานข้าวกับครอบครัวของผมบ้าง แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ เดี๋ยวผมจะคุยเรื่องนี้กับท่านเองคุณก็แค่ทำหน้าที่แฟนก็พอ”
“เนเน่ขอทราบขอบเขตงานของยังไงได้ไหมว่าจะต้องทำอะไรบ้าง” ในเมื่อตกลงจะเป็นแฟนของเขาแล้วชญานิษฐ์ก็อยากจะรู้ขอบเขตของงานว่ามันมากขนาดไหน
“งานมันก็เหมือนคู่รักทั่วไปล่ะ ครับเราอาจจะต้องเจอกันบ้างไปทานข้าวกันบ้าง แล้วงานเปิดตัวโรงแรมของผมที่จะเกิดขึ้นก็คงต้องรบกวนให้คุณเนเน่และเพื่อนของคุณไปด้วย”
“งานเปิดตัวโรงแรมเหรอคะ มันใหญ่เกินไปหรือเปล่า เนเน่คิดว่าไม่น่าจะเหมาะ”
“เหมาะสิถึงตอนนั้นทุกคนก็จะรู้ว่าคุณเป็นแฟนผมแล้วถ้าคุณไม่ไปงานเป็นตัวโรงแรมคนก็ต้องสงสัย ผมฝากคุณหวานจัดการเรื่องเสื้อผ้าที่จะใส่ไปงานด้วยนะครับ ของคุณทั้งสองคนเลยผมจะจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเอง คุณจ่ายอะไรไปบ้างหรือต้องการอะไรเพิ่มก็ติดต่อผ่านหิรัญได้เลย”
“ค่ะ แต่หวานว่าระหว่างนี้คุณกับเนเน่น่าจะต้องไปทานข้าวและไปเที่ยวด้วยกันบ้าง แต่ก็คงไม่บ่อยเท่าไหร่เพราะนักธุรกิจอย่างคุณก็คงไม่ค่อยมีเวลามาก”
“ไม่มีปัญหาครับ”
“อาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดของเนเน่ค่ะ ฉันอยากให้คุณเป็นคนไปรับเนเน่ที่กองถ่าย เพราะวันนั้นเนเน่มีงานถ่ายโฆษณาร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์อื่นๆ ค่ะ รับเสร็จคุณก็พาเธอไปฉลองกันสองคน”
“แค่สองคนใช่ไหมครับ”
“ใช่ค่ะ ปกติแล้ววันเกิดทุกๆ ปีของเนเน่จะนัดแฟนคลับไปทำบุญ แต่ปีนี้ติดถ่ายงานก็เลยเลื่อนงานทำบุญไปอีกวันหนึ่งเพราะฉะนั้นตอนเย็นก็มีโอกาสจะได้อยู่กับคุณ วันนั้นหวานจะจ้างคนแอบถ่ายรูปของคุณสองคนและส่งให้นักข่าวค่ะ คุณธีว่าดีไหม”
“ดีครับ ผมว่าถ้าเราทำให้คนอื่นรู้มากขึ้นเร็วขึ้นก็จะเป็นผลดีกับผมและคุณ ถ้าเป็นไปได้ช่วยส่งตารางงานให้ผมได้ไหมว่าช่วงไหนคุณไปทำงานที่ไหน”
“ตารางงานของเนเน่ไม่ค่อยแน่นอนหรอกค่ะ มันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา”
“แต่ผมก็อยากรู้คร่าวๆ”
“ถ้างั้นหวานจะส่งให้คุณล่วงหน้าสามวันดีไหมคะ คุณจะได้รู้ว่าเนเน่ไปทำอะไรอยู่ที่ไหนบ้างเผื่อจะหาโอกาสไปเจอกันโดยบังเอิญ”
“แล้วคุณอยากได้ตารางการทำงานของผมไหมล่ะ”
“คุณก็น่าจะทำงานอยู่ที่โรงแรมที่คุณเป็นเจ้าของไม่ใช่เหรอคะ”
“ไม่หรอกปกติผมเข้าไปตรวจงานที่โรงแรมนานๆ ครั้ง ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ออฟฟิศของผม แต่ก็ไม่ไกลจากโรงแรมเท่าไหร่ เดี๋ยวผมส่งแผนที่ให้คุณสองคนก็แล้วกันนะครับ เผื่อคุณจะแวะไปหาผมบ้าง”
“เนเน่จะแวะไปหาคุณทำไมคะ”
“คนเป็นแฟนกันก็ต้องไปมาหาสู่กันบ้างสิ”
“หวานเห็นด้วยกับคุณธีนะ เอาไว้วันไหนว่างเราก็ซื้อขนมเข้าไปให้คุณธีที่บริษัทดีไหม ข่าวเรื่องนี้จะได้กระจายเป็นวงกว้าง”
“แต่คงยังไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเนเน่ยังไปไหนไม่ได้ หมอบอกว่าต้องล้างแผลอีกหลายวันเลย ไม่รู้ว่าจะเป็นแผลเป็นหรือเปล่า” เมื่อพูดถึงแผลที่ข้อเท้าชญานิษฐ์ก็มีสีหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลเลยอาหมอเป็นหมอศัลกรรมที่เก่งมากๆ แต่ก่อนท่านทำงานอยู่ที่อเมริกา ผมรับประกันได้เลยว่าข้อเท้าของคุณจะไม่เป็นแผลเป็นอย่างแน่นอน”
“ถ้าคุณกล้ารับประกันเนเน่ก็สบายใจมากขึ้นค่ะ”
“ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ”
“คุณจะมาเยี่ยมเราอีกไหม” ณัฏฐพิมพ์เป็นคนถามขึ้น
“ผมยังไม่แน่ใจเลยช่วงนี้ผมงานยุ่งมาก”
“แต่ผมว่าถ้าคุณอยากให้คนเชื่อว่าคุณเป็นแฟนกับคุณเนเน่จริงๆ คุณก็ควรมาเยี่ยมเธอบ่อยๆ นะครับ” หิรัญบอกเจ้านาย
“ฉันลืมคิดเรื่องนี้ไปเลย ระหว่างที่คุณรักษาตัวอยู่ที่นี่ผมจะมาเยี่ยมคุณทุกวันหลังเลิกงาน”
เพราะอยากให้ข่าวที่ตนเองเป็นแฟนกับอินฟลูเอนเซอร์กระจายไปอย่างรวดเร็วธีธวัชเลยสัญญาว่าจะมาเยี่ยมหญิงสาวทุกวัน
หลังจากตกลงรายละเอียดรวมถึงแลกเบอร์โทรศัพท์และช่องช่องทางการติดต่อแล้วทั้งสี่คนก็ถ่ายรูปรวมกัน ทั้งรูปที่ตั้งใจถ่ายและรูปที่เหมือนจะแอบถ่ายอยู่หลายรูปจากนั้นธีธวัชและหิรัญก็ขอตัวกลับ