7 บอกความจริงมา
ผ่านไปไม่ถึงสองชั่วโมงข่าวเรื่องชญานิษฐ์เกิดอุบัติเหตุในโรงแรมก็ถูกกลบด้วยข่าวที่หญิงสาวงอนกับแฟนที่เป็นผู้บริหารเลยพูดกับเพื่อนไปแบบนั้นด้วยความน้อยใจ แต่ตอนนี้ทั้งสองก็ปรับความเข้าใจกันแล้ว
ข่าวเรื่องนี้ถูกยืนยันด้วยภาพถ่ายช่อดอกไม้ที่ธีธวัชนำไปมอบให้ชญานิษฐ์แม้จะไม่ได้เห็นหน้าของชายหนุ่มชัดเจนแต่นักสืบโซเชียลก็สืบจนรู้ว่าผู้ชายที่กำลังคบหาอยู่กับชญานิษฐ์นั้นคือธีธวัชรองประธานกรรมการบริษัท Mega Heaven Plus ทุกคนกำลังเชื่อไปในทิศทางเดียวกันและหนึ่งในนั้นก็รวมถึงคุณศรีประภามารดาของธีธวัชด้วย
ประตูห้องทำงานของธีธวัชเปิดออกพร้อมกับผู้หญิงที่แต่งกายดุจนางพญาเดินเข้ามา เธอตรงเข้ามาและนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับธีธวัชทันที ชายหนุ่มเจ้าของห้องเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้มอ่อนเมื่อเห็นว่าที่มาเยือนเขานั้นคือมารดาสุดที่รักของตนเอง
“แม่มีอะไรหรือเปล่าครับมาหาผมถึงที่นี่เลย”
“ก็ข่าวที่ออกไปไงล่ะ เมื่อเช้าก็ข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุในโรงแรมพอบ่ายก็ข่าวว่าลูกเป็นแฟนกับผู้หญิงที่เกิดอุบัติเหตุในโรงแรมเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่”
“แล้วแม่คิดว่ายังไงล่ะ”
“ตอนนี้แม่งงไปหมดแล้วตกลงเธอเกิดอุบัติเหตุจริงหรือเปล่าแม่ถามผู้จัดการโรงแรมเขาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้เกิดเรื่องนี้ขึ้นในโรงแรมแม่อยากรู้ความจริงจากปากของธี”
“ก่อนที่ผมจะบอกความจริงทั้งหมดกับแม่ ผมอยากจะถามแม่ก่อนว่าแม่ชื่อเรื่องนี้มากแค่ไหน”
“ธีหมายถึงเรื่องไหนล่ะ เรื่องอุบัติเหตุหรือเรื่องที่ลูกกับเธอเป็นแฟนกัน”
“ทั้งสองเรื่องครับ” ธีธวัชอยากรู้ว่าในมุมมองคนอื่นมองเรื่องที่เกิดขึ้นยังไงบ้างและมีความเชื่อมากน้อยแค่ไหน ถ้าหากเขาทำให้มารดาเชื่อได้คนอื่นก็น่าจะเชื่อไปด้วย
“เรื่องอุบัติเหตุแม่ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่เพราะถามจากพนักงานโรงแรมแล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลยสักคน ส่วนเรื่องผู้หญิงที่เป็นแฟนกับลูกแม่ยิ่งงงเข้าไปใหญ่ธีกับเธอไปแอบคบกันตอนไหน แล้วดูท่าทางจะคบกันมานานแล้วใช่ไหม แม่เห็นมีรูปลูกกับเธอไปเที่ยวด้วยกันถึงแม้จะถ่ายรูปไม่เห็นหน้าลูก ไม่มีรูปถ่ายคู่กันแต่สถานที่ที่ลูกกับเธอไปดูยังไงมันก็คือร้านเดียวกัน”
“แล้วแม่เชื่อไหมครับ”
“ถ้าดูตามหลักฐานแม่เชื่อนะ แล้วเรื่องจริงมันเป็นยังไงกันแน่ล่ะธี” คุณศรีประภามองหน้าลูกชายอย่างต้องการคำตอบเพราะเธอไม่เคยได้ยินลูกชายพูดถึงผู้หญิงคนนี้หรือระแคะระคายเรื่องนี้เลยแม้แต่น้อย
“มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอกครับแม่ ผมกับเนเน่เราเพิ่งเคยเจอกันวันนี้เองครับ”
“หมายความว่ายังไงธี แล้วเรื่องจริงมันคืออะไรลูกลองเล่าให้แม่ฟังสิ”
แล้วธีธวัชก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับมารดาของตนเองฟังอย่างไม่มีปิดบัง เพราะถ้าหากมารดาไปรู้ความจริงทีหลังก็คงจะโกรธเขามาก
“ธีทำแบบนั้นไปทำไม”
“ก็เพื่อกลบข่าวเรื่องอุบัติเหตุไงครับ แม่ดูสิพอมีข่าวเรื่องชู้สาวเข้ามาคนก็สนใจแต่เรื่องนี้ ไม่มีใครพูดถึงอุบัติเหตุที่เกิดในโรงแรมเราเลย แบบนี้ผมว่าโรงแรมของเราก็ไม่น่าจะเสียชื่อเสียง”
“แต่แม่ว่ามันน่าจะมีวิธีจัดการเรื่องนี้ได้ดีกว่านี้”
“เช่นอะไรครับ”
“ถ้าเป็นแม่ แม่ก็ให้เธอออกมาพูดกับทุกคนว่าเรื่องทั้งหมดมันไม่เป็นความจริง มันเป็นแค่การเข้าใจผิด”
“แม่คิดว่าคนจะเชื่อเหรอครับเพราะตอนนี้เธอยังอยู่ที่โรงพยาบาลนะครับ”
“แต่ธีก็ไม่น่าจะเอาตัวเองลงไปยุ่งเกี่ยวแบบนั้น”
“ไม่เป็นไรหรอกครับแม่”
“แต่ธีต้องเป็นแฟนเธอสามเดือนเลยนะ ไหนจะต้องจ่ายเงินให้เธออีก แม่ว่าเรื่องนี้มันดูแปลกๆ อันที่จริงเราน่าจะตั้งทนายและฟ้องให้เธอรับผิดชอบที่ทำให้โรงแรมเราเสียชื่อเสียงมากกว่านะ”
“ผมว่าไม่คุ้มกันหรอกครับแม่ ถ้าเราตั้งทนายฟ้องเธอ เราอาจจะชนะคดีแต่มันจะกลายเป็นว่าเรารังแกคนที่อ่อนแอกว่าแล้วทางโรงแรมของเราจะสู้กับกระแสสังคมไหวเหรอครับแม่ อีกอย่างเธอก็ได้รับบาดเจ็บขณะที่พักโรงแรมของเราจริง ถ้าเธอจะตั้งทนายสู้กลับบ้างผมว่าเรื่องมันจะไปกันใหญ่ครับแม่” ธีธวัชพยายามอธิบายถึงเหตุผลของตัวเองให้กับมารดาฟัง
“แต่เธอก็ทำให้โรงแรมของเราเสียชื่อเสียงจริงๆ แล้วแค่หลอดไฟแตกมันจะเป็นแผลสักเท่าไหร่กันเชียว”
“แม่ครับ เนเน่เธอได้รับบาดเจ็บจริงๆ นะครับไม่เชื่อแม่ก็โทรไปถามอาหมอที่โรงพยาบาลได้เลย แผลของเธอค่อนข้างลึกและอาจจะเป็นแผลเป็นได้”
“แต่เธอก็ผิดนะลูกที่ไม่ยอมบอกเราแต่แรกว่าเกิดอุบัติเหตุ”
“ตอนนั้นเธอยังไม่รู้หรอกครับว่าเธอมีแผล แต่นั่งรถกลับไปใกล้จะถึงคอนโดจึงรู้ว่าตัวเองมีแผลจากนั้นก็เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลและเรื่องที่เป็นข่าวในโซเชียลเธอก็ไม่ได้เป็นคนทำเพียงแต่มีเพื่อนบางคนในกลุ่มไลน์เอามาโพสต์”
“ธีเชื่อคนง่ายไปหรือเปล่าแม่ว่าบางทีเธออาจจะทำแบบนั้นเพื่อเจาะจงทำลายชื่อเสียงของโรงแรมเราก็ได้เธออาจจะเป็นคนของคู่แข่ง”
“ไม่หรอกครับผมให้หิรัญตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว”
“แต่แม่ก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี”
“อย่าคิดมากเลยครับแม่ ตอนนี้ทุกคนก็เลิกพูดถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในโรงแรมแล้วผมว่ามันเป็นผลดีกับเขาเรานะ เธอเป็นคนมีชื่อเสียงมีคนติดตามมากบางทีเราอาจจะใช้ประโยชน์ตรงนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์โรงแรมเปิดใหม่และโรงแรมในเครือเราก็ได้นะครับ”
“โรงแรมของเราก็มีชื่อเสียงอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องอาศัยเธอทำให้โรงแรมของเรามีคนรู้จักหรอกนะธี”
“แต่มันจะไม่ดีกว่าเหรอครับแม่ ถ้ามีคนรู้จักโรงแรมของเรามากขึ้น ผมชวนเธอมางานเปิดตัวโรงแรมเราด้วยนะครับ”
“อะไรนะนี่ถึงขั้นจะพากันมาเปิดตัวเลยเหรอลูก แม่คิดว่าจะแกล้งว่าเป็นแฟนกันเฉยๆ”
“แม่ครับถ้าทำแบบนั้นคุณก็ยิ่งสงสัยไปใหญ่และถ้าหากคนขุดคุ้ยขึ้นมาจริงๆ ผมก็ไม่รู้ว่าเรื่องอุบัติเหตุมันจะแดงขึ้นมาตอนไหน”
“แต่ลูกก็ให้เงินเธอไปแล้วนี่ เธอไม่น่าจะเอาเรื่องนี้มาพูด”
“เนเน่กับเพื่อนของเธอคงไม่เอามาพูดหรอกครับแม่”
“อะไรทำให้ทีถึงมั่นใจขนาดนั้นล่ะ”
“ถึงแม้ผมกับเธอเธอเพิ่งเคยเจอกันวันนี้เป็นครั้งแรกแต่เท่าที่ได้คุยก็รู้ว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้น” ธีธวัชมั่นใจว่าตนเองมองคนไม่ผิดและคิดว่าเรื่องที่ทำอยู่จะเป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย
“เพิ่งเจอกันวันเดียวธรก็เชื่ออย่างหมดใจแล้วเหรอลูก”
“ผมชื่อนะครับว่าเธอไม่ได้ตั้งใจทำให้โรงแรมเสียชื่อเสียงจริงๆ”
“ถ้าลูกเชื่ออย่างนั้นแม่ก็ไม่ว่า แต่ถ้าลูกจะคบกับเธออย่างจริงจังแม่คงต้องคิดเรื่องนี้อีกที”
“แม่อย่ากลัวไปเลยครับแม่ก็รู้ว่าผมไม่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหน พอครบกำหนดสามเดือนผมกับเธอก็แค่เลิกกัน”
“ธีแน่ใจนะว่าความสัมพันธ์ของลูกกับเธอมันจะแค่เป็นแฟนปลอมๆ และจะไม่มีอะไรเกินเลย”
“แม่ครับถ้าผมอยากจะนอนกับผู้หญิงสักคนผมไม่ลงทุนจ้างเธอนานถึงสามเดือนหรอกนะครับ แม่ก็รู้ว่าผมเบื่อง่าย”
“ก็ขอให้มันจริงอย่างที่พูดเถอะนะ ไม่ใช่ว่าคบกันสามเดือนแล้วหลงเสน่ห์เธอขึ้นมาล่ะ” คุณประภาศรีพูดกันท่าเพราะหลัวลูกชายจะหลงเสน่ห์และไม่ยอมจบทุกอย่างภายในสามเดือนอย่างที่ตกลงกับผู้หญิงคนนั้นไว้
“แล้วถ้าเกิดผมหลงเสน่ห์เธอขึ้นมาอย่างที่แม่พูดล่ะแม่จะทำยังไง” ชายหนุ่มถามหยั่งเชิงมารดา
“ไม่ได้นะธีลูกสะใภ้ของแม่ต้องเป็นคนในแวดวงธุรกิจที่จะส่งเสริมงานของกันและกันไม่ใช่เอาใครที่ไหนก็ไม่รู้เข้ามาในครอบครัว” คุณศรีประภายื่นคำขาดเพราะถ้าหากจะหาลูกสะใภ้สักคนให้ธีธวัชเธอคนนั้นจะต้องมีพื้นฐานครอบครัวที่ดีมีหน้ามีตาในสังคมและเกื้อกูลกันในด้านธุรกิจเพื่อต่อยอดให้กิจการของตนเองขยายใหญ่มากขึ้น