บทที่ 2 คนหวงลูก 1.1
กรุงโรม ประเทศอิตาลี
เสียงครางกระเส่าของมาริโกะ สาวญี่ปุ่นหุ่นเร้าใจส่งเสียงครางกระเส่าต่อเนื่อง เช่นเดียวกันกับร่างหนาของหนุ่มหล่อนามว่าเอ็นริโก กัสโตเน่ รอซซี่ เทพบุตรรูปหล่อขวัญใจสาวๆ ครึ่งค่อนเมือง ที่ขยับเอวใส่ร่างบอบบางแบบไม่ออมแรง นำพาความถึงอกถึงใจมาให้เธอไม่น้อย
“ดะ...ดีมากค่ะริโก คุณแข็งแรงที่สุดเลยค่ะ”
มาริโกะชื่นชมเอ็นริโกไม่ขาดปาก ร้องครวญครางด้วยอารมณ์รัญจวนที่ไม่เคยได้รับจากชายใดมากเท่าหนุ่มเนื้อแน่นคนนี้ ไม่แปลกที่มาริโกะจะติดใจในรสสวาท ยอมเป็นทาสกามารมณ์ของเขา
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ก๊อกๆๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูที่ดังอย่างไม่เกรงใจเจ้าของห้องดังไม่หยุด ไม่เพียงแค่เสียงเคาะประตูเท่านั้น ยังเรียกชื่ออีกด้วย ทำให้คนที่กำลังบรรเลงเพลงสวาทกันอย่างเมามัน เป็นอันต้องสะดุด
“อะไรของพี่กูวะเนี่ย แม่งมาได้จังหวะดีเหลือเกิน” เอ็นริโกบ่นเสียงดัง ผละห่างจากร่างอรชรของมาริโกะอย่างจำใจ
“ต่อก่อนสิคะ” มาริโกะร้องขอเสียงพร่า
“ไม่มีอารมณ์แล้ว” เขาพูดขณะที่ใช้มือดึงเครื่องป้องกันออกจากความเป็นชายแล้วโยนทิ้งลงในถังขยะ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับ “พี่ชายฉันทั้งเคาะประตูทั้งแหกปากร้องเรียกอย่างนี้ ฉันไม่มีอารมณ์ทำต่อหรอก แล้วเธอก็แต่งตัวกลับที่พักไปเลย ฉันหมดอารมณ์แล้ว”
พูดจบ เอ็นริโกก็เดินออกไปจากห้องนอน ก้าวตรงไปยังประตูห้องพักด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก
“นายทำอะไรอยู่ ฉันเคาะประตูจนมือจะหัก เรียกแกจนคอฉันจะพังอยู่แล้วทำไมเพิ่งมาเปิด”
แอนเจโล ต่อว่าน้องชายตัวดีที่ทำให้เขาต้องยืนคอยนาน คนถูกถามยักไหล่ ก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปในห้อง ตามด้วยร่างสูงใหญ่ของพี่ชายและบอดีการ์ดอีกสองคน
“ทำอย่างว่าอยู่” เขาบอกหน้าตายถึงสาเหตุของการมาเปิดประตูล่าช้า “พี่มีเรื่องด่วนอะไรถึงได้มาเคาะประตูเรียกผมซะดังลั่น ไม่กลัวคนอื่นเขาจะรำคาญเอาหรือไง”
“กลัวก็ไม่ใช่แอนเจโลน่ะสิ อีกอย่างนึงห้องชุดของแกอยู่ชั้นบนสุดของที่นี่ และมีอยู่ห้องเดียวด้วย แล้วจะกลัวอย่างที่แกพูดทำไม” แอนเจโลเถียง ทรุดกายนั่งบนโซฟาคนละตัวกับน้องชาย ด้วยความที่เขามีอายุมากกว่าน้องชายหนึ่งรอบ เอ็นริโกจึงค่อนข้างเกรงใจพี่ชายไม่น้อย
“พี่ต้องมีอะไรสำคัญแน่ๆ ถึงได้ถ่อมาหาผมที่นี่ พูดมาเลยพี่ ผมไม่อยากรอ”
ปกติแอนเจโลจะไม่มาอาณาจักรส่วนตัวของเขา แต่ถ้าหากมานั่นหมายความว่าจะมาพร้อมกับเรื่องชวนปวดหัว
“ฉันจะวานให้แกไปพาเร็นโซกลับมาโรม คุณแม่บ่นถึงเร็นโซทุกวันจนฉันปวดหัว นายเป็นอาและเป็นลูกของคุณแม่ก็ต้องทำหน้าที่นี้ ไปพรุ่งนี้ได้ยิ่งดี”
แอนเจโลบอกจุดประสงค์การมาให้น้องชายตัวดี และนั่นก็ทำให้คนที่ถูกยัดเยียดให้ทำภารกิจสำคัญถึงกับตกใจ ก่อนจะปฏิเสธทันควันแบบไม่ต้องคิด
“ไม่เอาหรอก ผมไม่ไป พี่เป็นพ่อพี่ก็ไปตามลูกเองสิ มาโยนให้ผมได้ไง”
เรื่องอื่นที่พี่ชายร้องขอ เอ็นริโกไม่เคยปฏิเสธ แต่งานนี้เขาขอบายเพราะไม่สนิทใจนักกับบิดาอดีตพี่สะใภ้ของเขา แต่ชายหนุ่มก็พอจะเข้าใจการกระทำของพลเอกฤทธิไกร นายทหารนอกราชการที่มักจะขัดขวางไม่ให้ วนาธร ลอเร็นโซ รอซซี่เจอหน้าบิดาหรือแม้กระทั่งญาติ นั่นก็จะโทษชายสูงวัยไม่ได้ที่ทำเช่นนั้น เพราะพี่ชายเขานั่นเองที่ทำให้กรุณา หรือคาริน่าต้องเสียใจที่ถูกสามีทรยศหักหลังมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่น และหญิงคนนั้นก็คือเพื่อนสนิทของเธอ ฉะนั้นการเดินทางไปเมืองไทยครั้งนี้เอ็นริโกต้องใช้พลังเยอะอีกเป็นแน่แท้
“ไม่ได้ แกต้องไป” แอนเจโลยืนกรานความตั้งใจ “แกก็รู้ว่าถ้าฉันไปหาเร็นโซ ฉันไม่มีวันได้เจอลูกแน่นอน ตาของเร็นโซเกลียดฉันอย่างกับขี้ ถ้าฉันแหยมหน้าไปเจอมีหวังฉันโดนปืนไล่ยิงเอาแน่ๆ แกไปนั่นแหละดีแล้ว เอาน่าริโก ไปให้ฉันหน่อย ถือเสียว่าทำเพื่อคุณแม่”
แอนเจโลพยายามพูดดีๆ และขอร้องอยู่ในที หวังว่าน้องชายคงจะใจอ่อน เพราะถ้าหากเอ็นริโกไม่รับปากทำงานนี้ให้ เขาก็ไม่รู้ว่าจะหาหนทางใดให้ลูกชายเพียงคนเดียวมาปรากฏกายที่โรม น้องชายสุดที่รักจึงเป็นทางเดียวของเขา
“ถึงผมรับปากพี่ว่าจะทำงานนี้ให้ แล้วพี่คิดเหรอว่า ตาของเร็นโซจะปล่อยให้เร็นโซมาโรม ที่ผ่านมา แค่ออกมาพบผมข้างนอก ผมต้องคิดหัวแทบแตกว่าจะทำยังไง อดีตพ่อตาพี่จมูกไวสุดๆ ผมแค่เหยียบเมืองไทยได้ไม่กี่ก้าวเขาก็รู้แล้ว พาหลานหนีไปอยู่ที่อื่นแถมยังตัดสัญญาณมือถือและเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ทุกช่องทางที่ผมจะติดต่อหลานได้ กว่าผมจะตามสืบได้ว่าไปอยู่ที่ไหนใช้เวลาตั้งหลายวัน งานนี้มันไม่หมูนะพี่”
จากประสบการณ์ที่ผ่านมาสามครั้ง ทำให้เอ็นริโกคิดว่า งานนี้ท่าจะยากเพราะแค่ไปเจอหน้าหลานชายยังหืดขึ้นคอ นับประสาอะไรจะพามาที่อิตาลี
“แต่ฉันมั่นใจว่าแกต้องทำได้ แกช่วยฉันหน่อยนะ ฉันมองไม่เห็นใครจริงๆ”
แอนเจโลเป็นมาเฟียใหญ่ของอิตาลี เขาจัดการหลายสิ่งได้อย่างเด็ดขาดและชัดเจน แต่จะมีเพียงเรื่องเดียวที่เขาทำอะไรไม่ได้เลย แม้จะมีอำนาจ อิทธิพลมากแค่ไหนก็ตาม เรื่องนั้นคือ ตามลูกตามเมียกลับสู่อ้อมกอด เพราะยิ่งเขาทำ มันก็ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้
“ผมว่า พี่ติดต่อเร็นโซเหมือนเดิมดีกว่า ให้คุณแม่คุยกับหลานอย่างที่เคยทำ ไม่เห็นต้องพามาที่นี่เลย ผมว่ามันง่ายกว่ามากๆ ด้วย แล้วอดีตพ่อตาพี่ก็ขัดขวางไม่ได้” เอ็นริโกเสนอวิธี
“ลำพังฉันไม่เท่าไหร่หรอกนะ ฉันทนได้เพราะเรื่องนี้ฉันผิดเอง แต่ฉันสงสารคุณแม่ คุณแม่คุยกับเร็นโซผ่านทางมือถือและอินเตอร์เน็ตก็จริง แต่มันก็เพียงแค่พูดคุย ได้แค่เห็นหน้า ไม่ได้กอดได้หอม คุณแม่เปรยกับฉันว่า อยากจะกอดจะหอมหลานก่อนตาย ฉันได้ยินแล้วรู้สึกไม่ดีเลย แกก็รู้นี่ว่า ตลอดระยะเวลาที่คาริน่าพาเร็นโซกลับบ้าน รอยยิ้มคุณแม่ก็น้อยลง ฉันอยากให้คุณแม่ยิ้มและหัวเราะบ้าง อยากให้ท่านมีความสุขก่อนจะจากโลกนี้ไป ฉันทำให้คุณแม่สมหวังไม่ได้ แต่แกทำได้นะ แกทำเพื่อฉันเพื่อคุณแม่ได้ไหม”
ได้ฟังประโยคคำพูดยืดยาวของแอนเจโลแล้วเอ็นริโกใจอ่อนขึ้นมาทันที เพราะคำพูดนั้นล้วนแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น ร่วมสิบห้าปีแล้วที่การติดต่อระหว่างครอบครัวของเขากับลอเร็นโซ จะติดต่อกันผ่านมือถือและอินเตอร์เน็ต หลังๆยังมองหน้ากันผ่านเทคโนโลยีทันสมัยที่นิยมใช้กันทั่วโลกอย่างเช่น เว็บแคม เฟซไทม์มันก็เพียงเห็นหน้าแต่ไม่ได้สัมผัสร่างกาย ไม่ได้กอด ไม่ได้หอมให้คลายความคิดถึงที่มีอยู่อย่างมากมาย
“ก็ได้ ผมไปให้ก็ได้” เอ็นริโกยอมในที่สุด ที่เขายอมด้วยเหตุผลเดียวคือ เห็นแก่มารดา “แต่ผมไม่รับรองนะว่าจะทำสำเร็จหรือเปล่า”
“ฉันเชื่อว่าแกต้องทำได้ คนอย่างเอ็นริโกมีอะไรที่ทำไม่ได้บ้าง” แอนเจโลยิ้มกว้าง ดีใจที่น้องชายรับปาก
“ก็จะมีงานนี้แหละ งานยากซะด้วย ทำไมผมต้องเกิดมาเป็นน้องของพี่ด้วยนะ ผมไม่ได้เป็นคนทำผิดแต่ต้องตามล้างตามเช็ดเรื่องที่พี่ทำไว้” เอ็นริโกบ่นอุบ สีหน้าเซ็งสุดชีวิต
“เอาน่า ไหนๆ แกก็เกิดมาเป็นน้องของฉันแล้วมันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้หรอก แล้วแกจะไปวันไหนล่ะ”
“อีกสักสองสามวัน ผมต้องเคลียร์อะไรหลายๆ อย่างก่อนแล้วค่อยไปเพราะไม่รู้ว่าจะไปนานแค่ไหน ไม่รู้จะเจอฤทธิ์เดชอดีตพ่อตาพี่ยังไงบ้าง” เจ้าของห้องชุดยังบ่นไม่เลิก
“ทนๆ หน่อยก็แล้วกัน ถือว่าทำเพื่อคุณแม่” แอนเจโลปลอบใจ “ขอบใจนะไอ้น้องชาย ฉันไปก่อนละ”
คนเป็นพี่ตบบ่าน้องชายแล้วยิ้ม ก่อนจะเดินออกไปจากห้องสุดหรูทันทีที่เสร็จธุระ ทิ้งให้เอ็นริโกกลัดกลุ้มอยู่กับคำขอร้องของพี่ชายอยู่ตรงนั้น