CHAPTER 3
งานเลี้ยงดำเนินไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกินในความคิดของดาวิกา จนในเวลา 5 ทุ่ม บรรดาแขกเหรื่อต่างก็ทยอยกลับเพื่อให้เจ้าภาพงานได้พักผ่อน ทุกคนเหนื่อยกันมากกับงานวันนี้ หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนทันที
ดาวิกาเข้านอนเกือบเที่ยงคืนแต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่ครู่ใหญ่ๆ ก็ถึงรู้ตัวว่านอนไม่หลับ เนื่องจากตลอดเวลางานเลี้ยงเธอไม่ได้แตะอาหารเลยสักนิดเดียว อาการแสบท้องเลยกำเริบขึ้นมาประท้วง สาวเจ้าลุกขึ้นมานั่งด้วยอาการหิวแสบท้อง ซึ่งเธอก็มักจะเป็นบ่อยๆ ทุกครั้งที่ทำงานส่งอาจารย์ดึกๆ สาวเจ้าลุกออกไปหาของกินเล่นเบาๆ ที่ห้องครัวชั้นล่างทันที
ไฟทุกดวงดับหมดแล้ว ซึ่งเธอก็เคยชินกับการเดินลงมาหาอะไรกินเงียบๆ มืดๆ แบบนี้คนเดียวเป็นประจำอยู่แล้วโดยไม่ต้องเปิดไฟ สาวเจ้ามุ่งหน้าไปยังห้องครัวใหญ่ทันที แต่ก่อนที่จะได้เข้าไปภายในห้องครัว เธอกลับได้ยินเสียงแปลกๆ ที่ดังขึ้นเรื่อยๆ นั้นเสียก่อน เธอจึงชะลอฝืเท้า ค่อยๆ ก้าวเข้าไปใกล้ต้นเสียงให้มากขึ้นกว่าเดิม
"อื้อ... อ๊ะ... คุณภาม..."
เสียงครางเบาๆ ของใครบางคนในความมืดนั่นทำให้เธอขนลุกชันไปทั้งตัว ใครกันหนอกล้ามาทำอะไรพิเรนทร์ๆ กันดึกๆดื่นๆ ในเวลาเกือบตีหนึ่งแบบนี้ ในครัวมีเพียงแสงไฟจากหลอดไฟเล็กๆ ตรงมุมห้องเท่านั้น และนั่นพอจะทำให้เธอเห็นบางสิ่งบางอย่างที่เป็นต้นตอของเสียงได้อย่างชัดเจน
เห็นในสิ่งที่เธอไม่ควรเห็นเลยแม้แต่น้อย...
ภาพร่างสูงใหญ่ของผู้ชายที่ใครๆ ในบ้านต่างก็รักและชื่นชม ภาม เอกชัยภักดี เธอนิ่งอึ้งตะลึงงันพูดไม่ออกกับภาพที่เห็นตรงหน้า ชายหนุ่มกำลังฟอนเฟ้นซุกไซ้ใบหน้าเข้ากับเต้าอกอวบที่ปราศจากอาภรณ์ห่อหุ้มของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียอีกคนของพ่อเขา คุณลินดา... ภรรยาสาวคนที่สี่ของท่านเจ้าสัว
ภามยังคงมัวเมาอยู่กับรสพิศวาสตรงหน้า เขายังคงกดจูบไปทั่วทรวงอกนุ่มหยุ่นของผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงอีกคนหนึ่ง ซึ่งอายุอานามก็ห่างจากเขาไม่กี่ปีเท่านั้น เรียกได้ว่าอายุเทียบเคียงกับพี่สาวเขาก็ว่าได้ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจไปมากกว่าความวาบหวามใจตรงหน้านี้เลย
"อ๊า... แบบนั้นแหละค่ะ คุณภาม"
พลันสายตาของลินดาก็มองสบตาคนที่กำลังแอบดูอยู่พอดิบพอดี เธอมีอาการชะงักตกใจเล็กๆ ส่งผลให้ภามหันกลับมามองคนมาใหม่นั้นด้วย แม้ในความมืดที่มีแสงสว่างเพียงเล็กน้อย แต่เขาก็มองเห็นสีหน้าที่ตกใจของหญิงสาวได้อย่างชัดเจน เขาไม่ต้องบอกเธอก็รู้แน่อยู่แก่ใจว่าเขากำลังทำอะไรอยู่
"ดาวิกา..."
เขาครางชื่อเธอออกมาเสียงแผ่วเบา ให้ตายสิทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ในเวลานี้ แถมยังเห็นภาพเขาทำอะไรห่ามๆ ออกไปแล้วเสียด้วย
ดาวิกาไม่รอให้เขาอธิบายอะไรออกมา... เธอรีบหันหลังสาวเท้าวิ่งหมายจะกลับห้องทันที ภามผละออกจากร่างอวบอัดของแม่เลี้ยง รีบวิ่งตามคนตัวเล็กออกไปแทบจะทันควันเธอกำลังเข้าใจผิด ดาวิกา...
"เดี๋ยว รอก่อน... หยุดนะ ดาวิกา!
เขาร้องเรียกเธอเสียงเบา เพราะกลัวว่าจะมีใครตื่นขึ้นมาเห็นอีกนอกจากเธอ เขาไม่ยอมปล่อยให้เธอเห็นภาพเหล่านี้แล้วเก็บไปนอนคิดเองเออเองคนเดียวหรอก... อย่างไรเสีย เขาอยากอธิบาย
ดาวิกาไม่ฟังเสียง เธอรีบสาวเท้าก้าวให้พ้นผ่านธรณีประตูห้องของเธอพร้อมทั้งรีบปิดประตูห้อง แต่ช้าไปเพียงก้าวเดียว ภามใช้ท่อนแขนหนาดันประตูเอาไว้ก่อนจะออกแรงเพียงเล็กน้อยก็ดันประตูให้เปิดออก ก่อนจะแทรกตัวเข้าไปอยู่ในภายในห้องกับหญิงสาวได้อย่างง่ายดาย
"ออกไปนะ! คุณไม่มีสิทธิ์เข้ามาห้องของฉัน"
"ไม่มีสิทธิ์งั้นเหรอ... นี่มันบ้านฉัน ดาวิกา ที่ฉันอยากรู้คือเธอลงไปทำอะไรดึกๆดื่นๆป่านนี้ ทำตัวอย่างกับขโมย" เมื่อเห็นว่าเธอฝีปากกล้าเย่อหยิ่งผิดกับใบหน้าสวยหวานนั้น เขาจึงเปลี่ยนใจจากที่คิดว่าจะพูดดีๆด้วย เปลี่ยนเป็นถามกลับด้วยท่าทางที่ไม่ต่างจากเธอเท่าไรนัก
"ขโมยงั้นเหรอ... ใครกันแน่ที่เป็นขโมย ฉันเห็นขโมยบางคนขโมยกินของของพ่อตัวเองอยู่นะคะ"
คำพูดของหญิงสาวประหนึ่งน้ำมันราดลงบนกองเพลิงให้คุกรุ่นจนแทบจะแผดเผาเธอได้ ภามกัดฟันกรอด เธอกล้าดีอย่างไรมายืนด่าเขาแบบนี้ หากไม่รู้อะไรจริงเธอก็ไม่ควรจะพูดออกมา…