บท
ตั้งค่า

๒ เหตุการณ์ชวนใกล้ชิด (๒)

“คนเราอยู่ได้ด้วยความฝันไม่รู้หรือไง เธอเนี่ยน้า ต้องมีความรักบ้างรู้ไหม เหมือนฉันที่มีความรักตลอดเวลา” เธอยิ้มหวานให้เพื่อนที่ไม่เคยผ่านการมีแฟนมาก่อนเพราะมองเป็นเรื่องยุ่งยาก สบายใจที่จะอยู่คนเดียว ขณะที่ลืมไปว่าตนเองก็มีแฟนแค่คนเดียวและคบไม่นานมีเหตุให้ต้องเลิกรากันไป

“จ้ะ แม่คนอินเลิฟ” นิรดาไม่ได้สนใจในคำพูดนั้น นอกจากมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองที่อยู่ในไลน์แชท ถึงไม่มีข้อความหรือสติ๊กเกอร์ตอบกลับ เพียงแค่เห็นว่าตนอยู่ในห้องสนทนากับพงพนาก็มีความสุขแล้ว

การจีบผู้ชายมันจะไปยากอะไร เดี๋ยวเธอจะทำให้ดูเอง!

กลับจากที่ทำงานก็แวะซื้อขนมใกล้คอนโดมิเนียม สั่งค่อนข้างเยอะเพราะจะนำไปฝากป้าแม่บ้านที่สนิทสนมกัน เธอฝากป้าเก็บของที่ตนสั่งทางออนไลน์แล้วก็คอยดูแลความสะอาดห้องโดยให้ค่าจ้างเป็นการตอบแทน

เมื่อย้ายออกมาอยู่คนเดียวรู้สึกเลยว่าจิตใจแจ่มใสมากกว่าอยู่บ้าน ไม่ต้องคอยฟังคำถากถางของผู้เป็นบิดา ทำอะไรก็ไม่มีใครคอยดุด่า หรือทนฟังคำเปรียบเทียบที่สร้างเพียงบาดแผลในใจ ไม่เห็นผลดีตรงไหนเลย

นิรดายังชื่นชมตัวเองที่คงความสดใสเอาไว้ได้ ไม่เกลียดหรืออิจฉาพี่สาวของตนเพียงเพราะหาเงินเยอะเท่านรินทิพย์ไม่ได้

“ของฝากค่ะป้าดาว ขนมเจ้าดังเลยนะคะ รับรองว่าอร่อยเพียงแตะลิ้น นุ่มเหมือนละลายในปาก นิวรับประกันกินแล้วลืมไม่ลง” เดินเข้ามาในตัวอาคารสูงก็เจอป้าแม่บ้านที่กำลังจะกลับ หล่อนจึงปรี่เข้าไปหาพลางยื่นถุงสีใสให้อีกฝ่าย

มันอาจไม่ใช่ขนมราคาแพงหรือเป็นที่นิยมเท่าไหร่ แต่หญิงสาวกลับรู้สึกว่าอร่อยเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีคนต่อคิวยาวอีกต่างหาก จึงไม่พลาดจะซื้อมาฝาก

“โฆษณาขนาดนี้ป้ากินไม่ลงเลยค่ะ กลัวหมดแล้วไม่ได้กินอีก” รับของมาถือไว้พลางฉีกยิ้มกว้าง

ป้าดาวรับจ้างทำความสะอาดให้คนในตึก ทำงานเต็มวันและเลิกเวลาเดิมทุกครั้ง เธอยอมรับว่าตัวเองติดความสะดวกสบายจึงได้จ้างแม่บ้านทั้งที่ห้องก็ไม่ใหญ่ แต่เพราะอยากให้สะอาดทุกซอกทุกมุม จึงคิดว่าเสียเงินเล็กน้อยเพื่อจ้างก็ไม่เสียหายอะไร

“เดี๋ยวครั้งหน้าจะซื้อมาให้อีกค่ะ เจ้านี้เขาดังจริงค่ะ” ยกนิ้วโป้งพลางยิ้มกว้างเพื่อยืนยันคำพูดของตัวเอง

“ขอบคุณนะคะ” ล่ำลากันสักพักเธอจึงได้เดินมายังลิฟต์เพื่อจะขึ้นไปยังชั้นที่พักอาศัยของตัวเอง กดแล้วรอสักพัก พลางมองตัวเลขแล้วเร่งในใจให้มาถึงชั้นหนึ่งโดยเร็ว ตอนนี้รู้สึกเหนื่อยอยากนอนพักบนเตียงแล้ว

แต่ก่อนนอนต้องทำอาหารเย็นกินก่อน หล่อนเลือกซื้อไก่ทอดเกาหลีกลับมากินด้วย ไม่ลืมคิดจะเปิดดูซีรีส์เพื่อความบันเทิง ชีวิตของนิรดาก็มีเพียงเท่านี้

ไปทำงาน กลับคอนโดดูความบันเทิง วนเช่นเดิมแต่หล่อนไม่รู้สึกเบื่อสักนิด...

“โอ๊ะ คุณป่า!” ระหว่างรอก็รู้สึกว่ามีคนมายืนข้างกาย จึงได้ขยับห่างเล็กน้อยโดยไม่ลืมมองหน้าเขา แล้วก็ต้องตกใจจนเผยอปากค้าง เรียกเสียงดังทำเอาร่างหนาสะดุ้ง ส่วนตนก็รีบยกมือปิดปากเมื่อแสดงอาการตกใจจนเกินไป

“สวัสดีครับ...คุณนิวมาทำอะไรที่นี่เหรอ” เขาค้อมศีรษะแต่ไม่ได้ตกใจจนโอเวอร์เหมือนเธอ ทำเพียงแค่ถามเหมือนสงสัย

“คอนโดนิวเองค่ะ นิวย้ายมาอยู่สักพักแล้ว...นี่คุณป่ามาทำอะไรที่นี่คะ หรือว่าพักอยู่คอนโดนี้เหมือนกัน” บอกด้วยวาจาฉะฉานไม่คิดว่าพรหมลิขิตจะทำงานหนัก เจอทั้งที่ร้านแล้วยังมาเจออยู่คอนโดมิเนียมอีก

อย่าบอกนะว่าเขาเป็นเพื่อนร่วมคอนโดของเธอ...มันจะเป็นบุพเพสันนิวาสเกินไปหรือเปล่า

“เปล่าครับ ผมมาหาเพื่อน” พอได้ยินอย่างนั้นก็ห่อเหี่ยวเล็กน้อย คิดว่าจะได้เจอกันบ่อยกว่านี้เสียอีก แต่มาหาเพื่อนก็ไม่เป็นไร บางทีเขาอาจจะมาบ่อยก็ได้

“อ้อ...นี่ขนมค่ะ นิวซื้อมาจากร้านประจำที่ตัวเองชอบ รสชาติดีเลยนะคะ ให้คุณป่าลองเอาไปกินกับเพื่อนกล่องหนึ่งค่ะ นิวซื้อมาหลายกล่องกะจะตุนไว้ ดีเลยแจกจ่ายจะได้ไม่ต้องกินเยอะ ทุกวันนี้น้ำหนักขึ้นจนลดไม่ทันแล้ว” ยื่นขนมชนิดเดียวกันที่ให้ป้าดาวไปตรงหน้าชายหนุ่ม เขามองของข้างในแล้วยิ้มเล็กน้อยก่อนจะรับน้ำใจจากนิรดา

ขนมครกอย่างนั้นเหรอ...ราวกับเธอรู้ว่ามันเป็นขนมโปรดของเขา

“ขอบคุณนะครับ ผมไม่มีของตอบแทนเลย”

“ไม่ต้องตอบแทนมากหรอกค่ะ แค่ตอบข้อความไลน์ก็พอแล้ว” หล่อนส่ายหน้าแล้วไม่ลืมจะหยอดคนตัวสูง พอดีกับจังหวะที่ประตูลิฟต์เปิดพวกเขาจึงได้เข้ามาข้างใน กดชั้นที่ต้องการโดยหล่อนเห็นเขาถือคีย์การ์ดไว้ในมือ

สงสัยเป็นของเพื่อนที่อยู่คอนโดนี้ น่าเสียดายที่พงพนาไม่ได้อยู่คอนโดเดียวกัน ไม่อย่างนั้นหล่อนคงมีข้ออ้างไปหาเขาแล้ว

“ตอบแน่นอนครับ...ผมจะตอบอย่างรวดเร็วทุกครั้งที่คุณทักมา ขอบคุณสำหรับขนมนะครับ” ขึ้นมาไม่กี่ชั้นเขาก็ต้องออกจากกล่องโดยสาร แต่ไม่วายที่ชายหนุ่มจะหันมาพูดประโยคไม่กี่คำ ซึ่งมันมีผลมหาศาลกับจิตใจของเธอ

“ชอบ เขาชอบเราแน่ๆ แบบนี้มีใจล้านเปอร์เซ็นต์!” ลับร่างสูงนิรดาก็พูดกับตัวเองด้วยแววตาเพ้อฝัน มั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องคิดอะไรกับตนเองบ้างล่ะ

ถึงมันจะเป็นเพียงการคิดเข้าข้างตัวเองก็ตาม...

ช่วงพักเที่ยงนาถฤดีมักจะออกไปสั่งข้างที่ร้านอาหารตามสั่ง ได้พักจากงานและออกกำลังกายด้วยการเดินให้หายเมื่อยหลังจากนั่งทำงานบนเก้าอี้ทั้งวัน

พอเปิดประตูออกมาก็พบเพื่อนสนิทที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่มุมโซฟาสำหรับลูกค้า เหลือบมองรอบร้านที่ไม่มีใครเข้ามา จนเหมือนว่าร้านจิวเวลรี่แห่งนี้ขายไม่ได้ แต่ความจริงกำไรเดือนนี้ขึ้นจากเดือนที่แล้วเกือบสามเท่า

จากการบอกปากต่อปากและโฆษณาทางแอพลิเคชั่น พวกเขาต้องออกแบบและทำแหวนทั้งวันทั้งคืน เพิ่งจะได้พักไม่กี่วันก่อน แต่ก็มีความสุขกับการทำงานมาก

“ยิ้มหวานอะไรขนาดนั้น แค่ดูโทรศัพท์เอง...มีอะไรดีๆ หรือเปล่า” วางมือบนไหล่เล็ก พลางมองว่านิรดากำลังทำอะไร เหตุใดใบหน้าจึงประดับด้วยรอยยิ้มตลอดเวลา

“ฉันกำลังคุยกับพี่ป่า ตอนนี้พัฒนาแล้วนะ ฉันสามารถเรียกเขาว่าพี่ได้ไม่ต้องใช้คำว่าคุณ แกดูสิ ดูถึงความก้าวหน้าของฉันกับเขา เฮ้อ อีกไม่นานแหวนเพชรต้องมาแล้วไหม นิ้วนางข้างซ้ายแน่ๆ” ตั้งแต่แลกไลน์ส่วนตัวกับเขาผ่านมากว่าสัปดาห์แล้วที่ได้คุยกัน

พงพนาตอบเร็วทั้งต่อบทสนทนาไม่ว่างเว้น จะหายไปบ้างช่วงทำงานซึ่งหล่อนก็ไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไร เพราะตนก็มีงานต้องทำเช่นเดียวกัน พวกเขาจึงตกลงว่าจะคุยช่วงที่ว่าง

วางโทรศัพท์ลงบนตักของตนเอง พลางยกมือขึ้นเพื่อดูว่ามือข้างซ้ายจะว่างเกินไปหรือเปล่า...

“อย่าเพิ่งฝันไปไกล ถ้าตกลงมามันจะเจ็บ” เตือนด้วยความหวังดี ครั้งนี้ถึงนิรดาจะพูดเหมือนดูไม่จริงจัง แต่ดูจากแววตาคงเพ้อฝันไปไกลแล้ว จนคนเป็นเพื่อนเริ่มกังวล

หากรักไม่ดีดั่งหวัง จิตใจของนิรดาจะเป็นอย่างไร เธอไม่ชอบยามคนสดใสต้องหม่นหมองจากความรัก ตอนนี้ก็หวังเพียงพงพนาจะคิดตรงกัน

“ฉันฝันแบบมีสติ” โต้กลับไม่ยอมแพ้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel