๒ เหตุการณ์ชวนใกล้ชิด (๑)
๒
เหตุการณ์ชวนใกล้ชิด
วันที่ต้องมอบแหวนซึ่งอุตส่าห์นั่งออกแบบทั้งวัน ความคิดของเธอพลุ่งพล่านมากเพียงแค่จินตนาการถึงใบหน้าคมยามยิ้มแย้ม บ่งบอกว่าชอบแหวนที่เธอออกแบบมากแค่ไหนถึงเขาจะไม่ได้ใช้ก็ตาม
มาถึงร้านเร็วกว่าปกติ เริ่มทำความสะอาดและฉีดน้ำหอมให้ฟุ้ง มีรอยยิ้มประดับดวงหน้าหวานตลอดเวลา เล่นเอาเพื่อนสนิทที่มาทีหลังถึงกับนึกกลัวว่านิรดาสติไม่สมประกอบหรือเปล่า แต่พอรู้ว่าใครจะมาก็ไม่แปลกใจ
พงพนาเป็นศิลปินคนโปรดของเพื่อนตนนี่นา...แต่เหมือนตอนนี้จะได้เลื่อนขั้นเป็นแฟนในฝันเสียแล้ว
“ขอบคุณคุณป่ามากนะคะที่มาอุดหนุนร้านเรา อาจล่าช้ากว่ากำหนดเล็กน้อยแต่นิวแถมสร้อยรูปคลื่นให้ในกล่องด้วย หวังว่าน้องสาวของคุณป่าจะชอบนะคะ” ยื่นกล่องสีเข้มไปตรงหน้าเขาเพื่อให้ตรวจความเรียบร้อยของงาน
ร่างสูงเปิดดูตัวเรือนก็ค่อนข้างพอใจ ไหนจะสร้อยเส้นสวยที่แถมมาอีก มุมปากหยักยกยิ้มมีความสุข พยักหน้าพลางเก็บกล่องแหวนใส่ลงไปในถุงสีเข้มใบเล็กของทางร้าน จากนั้นค่อยหยิบกล่องแหวนที่ใส่ไว้ในเสื้อสูท เลื่อนไปตรงหน้าหล่อน
“ขอบคุณครับ...ถ้าผมจะล้างแหวนด้วยได้ไหม พอดีแหวนของแม่เก่าแล้ว..” คนฟังอมยิ้มทันทีเมื่อเพ้อฝันไปว่าเขากำลังหาข้ออ้างเพื่อติดต่อกับหล่อน ซึ่งอีกใจก็แย้งอย่างมีสติว่าชายหนุ่มก็แค่อยากล้างแหวนให้แม่เท่านั้น
ไม่มีความเสน่หาเจือปน...
“ได้ค่ะ จะล้างแหวนหรืออยากขึ้นตัวเรือนใหม่ได้หมดเลย” โซนรับแขกทำให้เธอได้มองเขาเต็มตัว ร่างหนาที่นั่งอยู่โซฟาเล็กในชุดสูทเหมือนผู้บริหารบริษัท ไม่ต่างจากที่ตนเห็นในละครสักนิด แววตาหวานปิดประกายชื่นชมเอาไว้ไม่มิดจนพงพนาเริ่มทำตัวไม่ถูก
“ผมว่าขึ้นตัวเรือนใหม่ดีกว่า แต่เพชรเป็นอันเดิม”
“คุณป่ามีแบบที่อยากได้ไหมคะ เดี๋ยวนิวจะออกแบบให้ทันทีเลยช่วงนี้ไม่มีงานเข้ามาพอดี” รีบถามทันทีเพื่อเอาใจชายหนุ่ม เขาจึงพยักหน้าเพราะเลือกแบบเอาไว้แล้ว
ค่อนข้างไว้ใจงานของร้านเบสตี้พอสมควรหลังได้เห็นว่าหล่อนแหวนของน้องสาวสวยตรงตามใจ อีกทั้งราคาก็ไม่ได้แพง มีคุณภาพ...จึงไม่แปลกที่อยากใช้บริการอีก
“มีครับ..เดี๋ยวผมส่งทางไลน์ได้ไหม” พวกเขาคุยกันไม่บ่อยนัก ส่วนมากเป็นการอัพเดทงานมากกว่าไม่ค่อยพูดเรื่องอื่น ถึงอยากคุยกับอีกฝ่ายใจจะขาดแต่สถานะลูกค้ามันค้ำคอ จึงไม่อาจเริ่มความสัมพันธ์ได้
“ค่ะ”
“ฝากด้วยนะครับ” ค้อมศีรษะให้เธอพร้อมลุกยืน กลัดกระดุมเสื้อแล้วกำลังจะออกจากร้าน แต่คนตัวเล็กก็ตัดสินใจในวินาทีนั้นว่าหากปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ไม่ได้พูดความต้องการของตน อาจมานั่งเสียใจทีหลัง
เธอจึงรวบความกล้าทั้งหมดที่มี เดินแกมวิ่งไปดักหน้าเขาเอาไว้ สร้างความงุนงงให้คนตัวสูงแต่ก็จ้องมองแววตากลมวาว ฉายถึงความแรงกล้าแห่งอารมณ์
“คุณป่าคะ! ถ้า ถ้านิวจะขอแอดไลน์...ส่วนตัวได้ไหมคะ” ประโยคนั้นสำหรับเธอแล้วไม่ต่างจากขอจีบเลยสักนิด นิรดายอมรับว่าตื่นเต้นเพราะไม่เคยจีบผู้ชายมาก่อน ส่วนมากก็มีคนเข้าหาซึ่งหล่อนปฏิเสธเพราะไม่คิดจะมีแฟน
ตอนนี้หล่อนมีความสุขกับการดูศิลปินผ่านหน้าจอสี่เหลี่ยมมากกว่า แต่กับพงพนาต่างออกไป เขาเหมือนคนในฝันที่มีอยู่ในชีวิตจริง มีความสุขทุกครั้งที่ได้เจอจนไม่อยากปล่อยให้ความรู้สึกหลุดลอย
กำมือถือเอาไว้แน่นขณะจ้องดวงตาคมที่ยากจะคาดเดาความรู้สึก เขาทำเพียงมองหล่อนเมื่อชั่งใจ จากนั้นจึงเผยรอยยิ้มพร้อมก้าวเข้าหาอย่างเชื่องช้า
“ได้ครับ” คำตอบรับสร้างความดีใจแก่นิรดาจนเธอไม่อาจปิดมันมิด จากนั้นค่อยแสกนคิวอาร์โค้ดเมื่อเขายื่นมันมาตรงหน้า เพิ่งรู้จักคำว่าดีใจจนเนื้อเต้นเป็นอย่างไร เธอวาดฝันแล้วว่าจะทักเขาแบบไหน ใช้คำอย่างไร พูดเรื่องอะไรบ้าง
อีกไม่นานหรอก ตำแหน่งแฟนพี่ป่าจะต้องเป็นของเธอ...จีบผู้ชายมันจะยากสักแค่ไหนเชียว
“ขอบคุณค่ะ! เอ่อ จะได้คุยงานสะดวกมากกว่าเดิมค่ะ ไลน์ของออฟฟิศมันตอบนอกเวลางานไม่ค่อยได้ จากนี้ถ้าคุณป่ามีเรื่องอะไรไลน์มาได้ตลอดนะคะ นิวตอบทันทีเลยค่ะ วิต่อวิ” ข้ออ้างที่พอจะคิดออกก็มีเพียงเท่านี้ หล่อนไม่รู้ว่าเขาจะเชื่อไหม แต่ร่างสูงก็พยักหน้าแล้วขำเสียงเบา
“ครับ” ตอบรับสั้นๆ แล้วเดินออกจากร้าน ไม่ได้หันมามองว่าร่างบางกำลังกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ จ้องมองโทรศัพท์เหมือนว่าตนเองกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความฝัน อยากตบหน้าตัวเองก็กลัวเจ็บจึงรีบวิ่งไปยังประตูซึ่งเป็นห้องทำงานของนาถฤดี
กำลังขะมักเขม้นในการขึ้นตัวเรือนแหวน นั่งทำงานในห้องสี่เหลี่ยมพร้อมเปิดเพลงอังกฤษที่ตนชื่นชอบ ฮัมเสียงเบาแล้วตั้งใจกับงานที่ได้รับมอบหมาย ชอบงานที่ไม่ต้องพบปะผู้คน ทำเสร็จในแต่ละวันไม่คั่งค้าง
เธอจึงขอบคุณนิรดาที่ชวนตนมาเปิดร้านนี้ด้วยกัน
“แก!” แต่บางทีเพื่อนสนิทก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อย่างตอนนี้ที่เข้ามาไม่ให้สุ่มให้เสียงแล้วตะโกนดังจนแทบทำของหลุดมือ เหลียวไปมองคนมาใหม่พลางถอนหายใจหนัก
“โอ๊ย ตกใจหมดเลย จะเรียกเสียงดังทำไมฉันก็นั่งอยู่แค่นี้”
“ฮือ ฉันแอดไลน์ส่วนตัวกับพี่ป่าแล้ว ฉันขอตรงๆ เขายอมให้ฉันแอดด้วยแหละ แกว่าเขามีใจให้ฉันหรือเปล่า” รีบยื่นโทรศัพท์ที่เข้าสู่แชทระหว่างตนกับพงพนาให้เพื่อนได้ดู แม้เธอจะส่งเพียงแค่สติ๊กเกอร์ทักทายไปหาเขาก็ตาม
“ฉันไม่รู้จะเรียกสติแกยังไงแล้ว เขาตอบรับตามมารยาท แกออกหน้าขอขนาดนั้นถ้าไม่ให้ก็ดูเหมือนคนใจร้ายเกินไป ไม่แน่เขาอาจจะบล็อกแกหลังจบงานก็ได้ใครจะไปรู้” แกล้งพูดหยอกให้คนหน้าบานเปลี่ยนเป็นหน้าบึ้ง ซึ่งมันได้ผลเป็นอย่างมากเพราะนิรดามองเพื่อนตาเขียวปั๊ดกับคำกล่าวหานั้น
“ปากแกนี่นะ เข้าข้างฉันหน่อยไม่ได้หรือไง”
“ฉันว่าเขาชอบแก คนไม่ชอบเขาไม่ยอมให้แอดไลน์หรอก” นาถฤดีเปลี่ยนคำพลางดึงร่างบางเข้ามาโอบไหล่ พูดยกยอไม่ให้ต้องทะเลาะกัน
“ฉันก็ว่าแบบนั้นแหละ!”
“หรือฉันจะต้องรีบออกแบบแหวนแต่งงานของตัวเอง หาร้านเช่าชุดเจ้าสาวแล้วก็ออแกไนซ์งานแต่ง จัดที่ไหนดีล่ะ...ทะเล ภูเขาหรือสวนร่มรื่น เฮ้อ คิดไม่ออกเลยอ่ะ” ดวงตาเพ้อไปไกลยามคิดว่าตนกำลังจะได้เข้าประตูวิวาห์กับพงพนา ไม่อยากเชื่อว่าความจริงอยู่เพียงแค่เอื้อม สองมือประสานที่กลางอก เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยพลางยิ้มหวาน
นาถฤดีส่ายศีรษะด้วยความระอา ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะช่างจินตนาการขนาดนี้ ยังไม่เริ่มนับหนึ่งก็ฝันถึงเลขสิบซะแล้ว
“นินิวเพื่อนรัก แกแค่แอดไลน์เขา..ขอย้ำอีกครั้งว่าแค่แอดไลน์ อย่าเพิ่งเพ้อไปเรื่องอื่นจ้า”