บท
ตั้งค่า

๑ เธอเรียกมันว่าพรหมลิขิต (๓)

“พี่น่า! คิดถึงจังเลยค่ะ ไม่เจอกันหลายวันทำไมพี่สาวของนิวสวยขึ้นกว่าเดิมอีกล่ะ...สงสัยความรักจะทำให้คนดูดี อย่างนี้นิวคงต้องมีความรักบ้างแล้วล่ะ” ช่างประจบเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเพื่อเบี่ยงเบาความสนใจ เล่นเอาคนในเหตุการณ์ต่างยิ้มเอ็นดูไปตามกัน

หล่อนเป็นลูกสาวคนเล็กที่คนเป็นพี่ตามใจเป็นอย่างมาก เหมือนต้องการชดเชยในช่วงวัยเด็กที่ต้องส่งนิรดาไปอยู่กับยายที่ต่างจังหวัดเพราะไม่มีเงินเลี้ยงดู กระทั่งเธอเริ่มเข้าวงการแต่เด็ก ครอบครัวมีเงินจึงไปรับน้องสาวมาอยู่ด้วยกัน

ถึงตอนแรกจะยังมีความห่างเหิน แต่เมื่อนานวันเข้าพี่น้องก็สนิทสนมกัน...

แม้นรินทิพย์จะให้เงินเยอะเพียงใด แต่หล่อนก็เลือกเก็บออมไม่ค่อยใช้เงินนั้น พยายามหางานพิเศษทำเพื่อบิดาจะได้ไม่ต้องเปรียบเทียบตนกับคนเป็นพี่ เธอเองก็ไม่ใช่คนแบมือรอขอเงินอย่างเดียวสักหน่อย

“พูดไปเรื่อยเลยนะ กำลังจะเปลี่ยนเรื่องเบี่ยงเบนความผิดของตัวเองล่ะสิ”

“เปล่านะคะ นิวพูดด้วยความจริงใจที่มีต่อพี่น่าล้วนๆ เลย วันนี้พี่น่ามีอะไรมาให้น้องคนนี้หรือเปล่าคะ” สองสาวพากันนั่งลงยังห้องรับรองแขกที่อยู่ติดประตูหน้าบ้าน อาศัยความออดอ้อนเพื่อเข้าช่วยให้ตัวเองพ้นจากความผิดที่แอบนินทาคนพี่ลับหลัง

“พี่ไม่มีหรอก”

“แต่พี่มี...ขนมจากญี่ปุ่น พี่กับน่าเพิ่งกลับเมื่อวันก่อนก็เลยเอาของฝากมาให้เต็มไปหมด” ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารีบเอ่ย

คเชนทร์ เลิศลาภยศคือพี่เขยของเธอ คบกับพี่สาวมาหลายปีจนเป็นเหมือนคู่รักตัวอย่าง พอแต่งงานทุกคนก็ร่วมยินดี ไม่เคยมีข่าวคราวการทะเลาะสักครั้ง นับวันยิ่งหวานจนหล่อนเองยังนึกอิจฉาในความเพอร์เฟคของทั้งสอง

อยากมีแฟนหล่อเหลา แสนดีและร่ำรวยแบบนี้บ้าง...

“ขอบคุณค่ะพี่เชน...สมกับเป็นพี่เขยเบอร์หนึ่ง” หล่อนรับถุงขนมมาถือเอาไว้ มองดูข้างในมีแต่ของชอบตนเองทั้งนั้น คาดว่าคนที่ซื้อมาฝากคงเป็นพี่สาวนั่นแหละ ไม่อย่างนั้นคเชนทร์จะรู้ใจเธอได้อย่างไร

“พูดแบบนี้มีพี่เขยเบอร์สองหรือไง” รู้จักจนสนิทสนมจึงกล้าพูดจาหยอกล้อ ทำเอานิรดาต้องส่ายหน้ารัวเพื่อให้หลุดพ้นจากความผิดกระทงที่สอง

“เปล่านะคะ นิวไม่ได้หมายความแบบนั้นสักหน่อย พี่เชนหาเรื่องนิวเหมือนพี่น่าเลย สมแล้วที่เป็นสามีภรรยา...” ยกยอปอปั้นคู่สวรรค์สร้าง เล่นเอานรินทิพย์ต้องส่ายหน้าระอาในความลื่นไปเรื่อยของน้องสาวตัวแสบ

“พูดไปเรื่อยเลยเด็กคนนี้...แม่คะ แล้วพ่อล่ะ” หล่อนมองรอบบ้านไม่เห็นบิดาจึงเอ่ยถาม ปกติท่านต้องออกมาต้อนรับหรือพูดคุยเป็นคุ้งเป็นแควแล้ว

“ออกไปหาเพื่อน แต่แม่บอกเขาเรื่องที่นาน่าจะกลับบ้านเขาก็บอกว่าจะรีบกลับมาหาลูกสาวคนโปรดทันที นี่ก็ใกล้จะถึงบ้านแล้วล่ะ” คำว่าลูกสาวคนโปรดทำให้นิรดาหน้าเจื่อน ยังไม่ทันจะได้พูดเพื่อให้บรรยากาศกลับมาสนุกดังเดิมก็ได้ยินเสียงรถ ไม่นานบิดาก็เข้ามาข้างในพร้อมรอยยิ้มและถุงขนมที่หล่อนรู้ทันทีว่ามันไม่ใช่ของตน

“ลูกสาวของพ่อ วันนี้พ่อซื้อสายไหมของโปรดลูกมาให้ด้วยนะ” ท่านจำได้ดีว่าเมื่อยังเด็กนรินทิพย์ชอบกินขนมหวานชนิดนี้มากเพียงใด จนเข้าวงการแล้วต้องควบคุมอาหารจึงไม่ได้กินอีก

“พ่อกลับมาแล้วเหรอคะ นึกว่าต้องรอนานกว่านี้ซะอีก”

“น่ากลับบ้านทั้งทีพ่อจะพลาดได้ไงล่ะ มาๆๆ มานั่งคุยกันดีกว่า เชนก็นั่งลงด้วยสิ พ่อมีเรื่องอยากคุยเยอะแยะเลย” คนเป็นบิดาเข้ามาแทรกกลางระหว่างพี่น้อง เล่นเอานิรดาหลบแทบไม่ทันจนต้องลุกยืนค่อยเดินไปหามารดา

พ่อไม่เห็นเธอในสายตาเลยด้วยซ้ำ...

“นิวไปช่วยแม่จัดอาหารใส่จานดีกว่า จะได้เตรียมจัดโต๊ะกินข้าวเที่ยง พี่เขาคงหิวแย่” คนเป็นแม่รีบหันมาชวนลูกสาวเมื่อเห็นนัยน์ตาหวานหม่นแสง

“ค่ะ”

สองแม่ลูกเข้าครัวจึงเหลือเพียงสามคนที่พูดคุยกันอยู่หน้าจอโทรทัศน์ คุณนพรัตน์ ป่านวิถีชื่นชมบุตรสาวคนโตเป็นอย่างมาก ตนไม่ใช่คนร่ำรวยอะไรเป็นเพียงพนักงานออฟฟิศกินเงินเดือน ค่าใช้จ่ายมากมายทำให้ต้องไปกู้ยืมจากคนรู้จัก ชักหน้าไม่ถึงหลังจนเครียดเกือบฆ่าตัวตาย

แต่เพราะบุตรสาวที่เริ่มเข้าวงการตั้งแต่ยังเด็กหาเงินมาจุนเจือ ลืมตาอ้าปากได้ สามารถเชิดหน้าชูตาในสังคม ไม่แปลกที่ท่านจะรักนรินทิพย์มากจนลืมลูกคนเล็ก

“น่าเอาของฝากจากญี่ปุ่นมาให้พ่อด้วยนะคะ ลองดูว่าพ่อจะชอบหรือเปล่า” ยื่นถุงสีเข้มให้บุพการี พร้อมกับยิ้มปลาบปลื้มคิดว่าท่านจะต้องชอบของที่ตนซื้อมาอย่างแน่นอน

“ของที่ลูกซื้อให้พ่อชอบหมดนั่นแหละ” คุยกันสักพักก็เปลี่ยนที่ไปยังโต๊ะอาหาร กินข้าวเที่ยงอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยมีลูกคนโตครอบครองบทสนทนา คุยฟุ้งเรื่องการไปญี่ปุ่นเพื่อเที่ยวกับสามี ทั้งยังเอ่ยชวนคนในครอบครัวครั้งหน้าอยากให้ไปด้วยกัน

แต่นิรดากลับคิดในใจว่าต้องรีบหาทางปฏิเสธ หล่อนไม่อยากไปเป็นส่วนเกิน แค่นั่งกินข้าวร่วมโต๊ะก็เหมือนเป็นอากาศมากพอแล้ว ทั้งบิดามารดาต่างให้ความสนใจแค่พี่สาวที่หาเงินเป็นกอบเป็นกำมาให้ ไม่ใช่ลูกที่พึ่งพาไม่ได้อย่างเธอ

“น่ากลับก่อนนะคะ ไว้จะมาหาพ่อกับแม่บ่อยๆ” เดินออกมาหน้าบ้านกันทั้งครอบครัว มือของนรินทิพย์จับจูงบิดาไม่ยอมปล่อย ขณะที่มีมารดาขนาบข้าง ต่างจากน้องสาวซึ่งเดินตามหลัง จะยิ้มก็ไม่ใช่ร้องไห้ก็ไม่เชิง เหมือนชินชากับภาพตรงหน้าไปแล้ว

หล่อนไม่เป็นที่รัก...

“ก่อนมาต้องบอกนะ พ่อกับแม่จะได้เตรียมของชอบลูกเอาไว้ให้” แม่บอกพลางย้ำกับลูกคนโต เธอพยักหน้าแล้วค่อยเข้าไปนั่งเบาะหน้ารถข้างสามี

“นิวกลับก่อน..” นิรดาอาศัยพี่สาวไปส่งหน้าคอนโดมิเนียม เพื่อจะได้ไม่เสียเงินค่าแท็กซี่ให้เปลืองซึ่งนรินทิพย์ก็ยินดีเป็นอย่างมาก

หล่อนกำลังจะล่ำลาพ่อแม่แต่ไม่มีใครหันมาสนใจสักคน สุดท้ายจำต้องเปิดประตูด้านหลังแล้วเข้าไปนั่งพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย

“เดินทางปลอดภัยนะลูก” โบกมือให้ลูกสาวคนโตก่อนที่รถจะแล่นออกไปจนไกลลับตา ไม่ทันได้สังเกตว่ามีซีดานสีเข้มมาจอดอยู่ข้างรั้วแล้วมองครอบครัวป่านวิถีนานแค่ไหน

มือหนากำพวงมาลัยเอาไว้แน่น ดวงตาคมแข็งกร้าวราวกับมีประกายเพลิงอยู่ข้างใน พึมพำประโยคที่มีแต่ความแค้นอัดแน่น

“ครอบครัวสุขสันต์..” กัดฟันกรอดจนขึ้นสันกราม ยังคงบีบพวงมาลัยเอาไว้พลางผ่อนลมหายใจหนัก

คงต้องเริ่มแผนการอย่างจริงจังแล้วล่ะ...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel