9 อิจฉา
อาจารย์สอนการแสดงทั้งสามต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสตาร์เหมาะที่จะเล่นบทนางเอกที่สุด แม้ว่ามีการคัดเลือกผู้แสดง แต่จุดหมายอยู่ที่สตาร์เท่านั้น
เกศราได้ยินดังนั้น ตาลุกวาว กำมือทั้งสองข้างเข้าหากัน คำรามเสียงดังลั่น
“นังสตาร์ แกจะเป็นนางเอกงั้นหรือ ไม่ง่ายอย่างที่คิดหรอกนะ ฉันนี่แหละจะสกัดดาวรุ่งเอง บทนางเอกจะต้องเป็นฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น”
ด้วยความแค้นระคนอิจฉา เกศราคิดหาวิธีที่จะเล่นงาน จึงกลับบ้านด้วยอารมณ์หงุดหงิด ซ้อแก้วใจไม่ดีที่เห็นท่าทางของลูกเป็นอย่างนั้น
“เป็นอะไรไป ทำหน้าเข้าสิ”
“แม่ อย่ามายุ่งได้ไหม”
“อ้าว พูดกับแม่อย่างนี้เหรอ ไม่ได้แล้วนะ เราไม่ใช่เด็ก ๆ โตแล้ว แม่ให้ทุกอย่าง แต่ทำให้เสียใจไม่รู้ว่ากี่ครั้งกี่หน”
บุตรสาวหาได้ใส่ใจแต่อย่างใดเดินดุ่ม ๆ เข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว เปิดเพลงดัง ๆ เพื่อที่จะลดความร้อนรุ่มที่สุมอยู่กลางใจ กระทั่งเวลาผ่านไป เสียงหัวเราะอย่างมีความสุข ต่อแผนใหม่ที่จะเล่นงานผู้หญิงชื่อสตาร์ โดยเธอทุบแก้วน้ำดื่มจนแตกกระจาย
เสียงดังลงไปถึงข้างล่าง ซ้อแก้วใจหายวาบ กลัวว่าลูกจะทำร้ายตัวเอง รีบขึ้นมาเคาะประตูห้องด้วยความเป็นห่วง
“เกศรา เกศราเป็นอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรนี่คะแม่ อย่าตกใจแค่นี้เอง ไม่ตายหรอกค่ะ”
“ทำอะไรน่ะ แม่ได้ยินเสียงแก้วแตก อย่าคิดโง่ ๆ นะ กว่าแม่จะเลี้ยงเราโตมาได้ถึงขนาดนี้ มันยากลำบากแค่ไหน”
ความเป็นแม่ กลัวว่าลูกโกรธต่อคำเตือนเมื่อครู่ เธอห่วงทุกลมหายใจ กังวลว่าเลือดในอกจะเป็นอะไรไป พยายามเคาะประตูเรียกอยู่นาน ทุกอย่างก็เหมือนเดิมคือเงียบ
“เกศบอกแม่มาสิลูกเป็นอะไรหรือเปล่า”
“แม่กลับไปเถอะ เกศง่วงจะนอนแล้ว”
ลูกสาวไล่ให้กลับเสียนี่ ซ้อแก้วอยากมีตาวิเศษ มองทะลุถึงข้างใน ว่าลูกจะเป็นอย่างไร สุดท้ายเดินหงอย ๆ ลงไปข้างล่าง ความรู้สึกในเวลานั้นเสียใจที่ลูกไม่แคร์ความรู้สึกของตัวเองเลย แต่ก็ให้อภัยเพราะเป็นลูก
“แม่จ๋า พรุ่งเป็นเป็นวันสำคัญของสตาร์แล้วนะ แม่ช่วยเป็นกำลังใจให้ด้วยค่ะ”
“วันสำคัญ หมายความว่าจะได้เล่นละครแล้วใช่ไหม แม่ดีใจจัง”
“ยังไม่เปิดกล้องละครหรอกค่ะ แต่ว่าที่โรงเรียนการแสดงจะทำการคัดเลือกคนที่จะเป็นนางเอก เล่นบทที่อาจารย์เขียนขึ้นมาน่ะ”
“แม่เชื่อว่าสตาร์ทำได้ ไม่ต้องคาดหวังที่จะเล่นบทนั้น อะไรก็ได้ ทำให้ดีก็พอ”
“ค่ะ สตาร์ไม่ต้องการเป็นนางเอกหรอก ขอแค่มีเวทีแสดงความสามารถก็พอแล้ว”
เมื่อบุตรสาวพูดออกมาอย่างนั้น ผู้เป็นมารดายิ้มชอบใจ ดึงร่างบางเข้ามากอดด้วยความรัก เธอจะขออยู่ดูแลลูกคนนี้ให้ถึงที่สุด
“เงินที่ได้จากค่าเสียเวลาวันละห้าร้อย สตาร์ใช้แค่สองร้อยเองที่เหลือแม่เก็บเอาไว้เถอะนะ”
“ขอบใจมากนะลูก แม่เก็บเอาไว้ หยอดกระปุกให้ลูกนั่นแหละ ถ้าขัดสนค่อยเอาออกมาใช้ ตอนนี้แม่ก็ยังพอมีอยู่บ้าง เราไปกินข้าวกันเถอะ วันนี้มีแกงเลียงกับกุ้งเผา”
“กุ้งเผา แม่เอามาจากไหนคะ”
“แม่ไปช่วยร้านอาหารทะเลทำอาหาร กุ้งเหลือทางร้านก็เลยใส่ถุงมาให้ น้ำจิ้มอร่อยนะลูก”
ทั้งสองยิ้มให้แก่กันอย่างมีความสุข จูงมือไปในครัวและลงมือรับประทานอาหารด้วยความเอร็ดอร่อย
ความสุขที่ลูกสาวทำตัวดี ต่ออายุแม่ให้ยืนยาวออกไป
“ผมเชื่อว่าสตาร์จะต้องได้เป็นนางเอกที่โรงเรียนการแสดง”
“มั่นใจขนาดนั้นเลยหรือครับพี่บุรินทร์”
ศักดิ์ถามด้วยเสียงตื่น ๆ เขาเองก็แปลกใจเมื่อผู้กำกับโทร. มาเล่าเรื่องของสตาร์ จนอดคิดไม่ได้ว่าบุรินทร์อาจจะชอบเด็กสาวคนนั้นก็ได้ สวย ใส ไร้เดียงสา ใบหน้าไร้ที่ติ เป็นธรรมชาติโดยไม่ผ่านการทำศัลยกรรมใดๆ
“ผมมั่นใจมาก เท่าที่ดูการแสดงของเธอ ดาวจรัสแสงชัด ๆ”
“ในเมื่อผู้กำกับมั่นใจอย่างนั้น ผมก็เห็นด้วยครับ จากที่ดูในรูป เด็กคนนี้ไม่ธรรมดา สวยจริง ๆ ไม่เสแสร้งแกล้งทำ เอ่อ แล้วอีกคนชื่ออะไรนะ อวบ ๆ หน่อย”
“เกศราเหรอ ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่ แต่เขาพยายามเข็นตัวเองเหมือนกัน อย่างว่าคนอยากเป็นดาราก็อย่างนี้แหละ”
บุรินทร์พูดตามความเป็นจริงเกี่ยวกับเกศรา จากการที่ได้พุดคุยกัน เขารู้ว่าเด็กสาวคนนี้รอบจัดไม่น้อย ต่างจากสตาร์อย่างลิบลับ
“ผมอยากให้ทุกคนทำตัวดี ไม่มีเรื่องเสียหายครับ”
“ใช่ ผมก็ต้องการให้ดาราที่เราปั้นมากับมือเป็นคนดี ไม่มีเรื่องคาวฉาวโฉ่ เอาล่ะพี่รบกวนเวลาพักผ่อนของศักดิ์มากพอแล้ว สวัสดีครับ”