บท
ตั้งค่า

บทที่ 7

ดาบผิวขับรถมาถึงเถียงนาของยายส้มเกลี้ยงแล้วเอ่ยบอกสารวัตรคนใหม่

“ถึงแล้วครับ”

สารวัตรปวรุตม์ลงจากรถแลนด์โรเวอร์ด้วยท่วงท่าสง่างามอย่างคนที่ถูกฝึกมาดี ชาวบ้านที่กำลังช่วยกันดำนาอยู่ต่างก็ละมือจากงานที่กำลังทำแล้วเงยหน้ามองรถคันสวยด้วยสายตาตื่นเต้น ยิ่งร่างสูงใหญ่หล่อเหลากำยำแบบบุรุษกรีกโบราณลงมาจากรถยิ่งทำให้ชาวบ้านสนใจเข้าไปใหญ่

“ไม่น่าเชื่อว่าสมัยนี้ยังจะมีประเพณีลงแขกดำนาอยู่อีก”

ปวรุตม์หันไปเอ่ยกับดาบผิวก่อนจะมองไปที่ทุ่งนาผืนใหญ่อีกครั้ง ตอนนี้มีชาวบ้านประมาณ 30 คน กำลังช่วยกันดำนาอยู่

“ครับ สมัยนี้หาได้ค่อนข้างยาก พวกเราพยายามอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมเดิมๆ ของคนไทยไว้ก่อนที่มันจะสูญหายไปจนคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักหรือเคยพบเห็น เสร็จจากของยายส้มเกลี้ยงแล้ว ชาวบ้านก็จะลงแขกที่ทุ่งนาของตาสมศักดิ์ต่อครับ”

ปวรุตม์พยักหน้ายิ้มตรงมุมปากให้ลูกน้อง “คนไหนนีนนารา ดาบผิวพอจะรู้มั้ย”

ปวรุตม์เพ่งมองไปที่ทุ่งนาแยกไม่ออกว่าคนไหนเป็นยายนาราตัวแสบของเขา

“ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ละคนเล่นโพกผ้าเห็นแต่ลูกตา ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนไหนเป็นคุณนีนนารา” ดาบผิวเอ่ยกลั้วหัวเราะแยกไม่ออกเหมือนกันว่าใครเป็นใคร

“ไม่เป็นไร ผมมีวิธี” ปวรุตม์ยิ้มเจ้าเล่ห์พลางเดินไปตามคันนาแล้วนั่งยองๆ บนเส้นเท้าเอ่ยถามคนที่กำลังก้มดำนาซึ่งอยู่ติดคันนาที่สุด

“สวัสดีครับ คุณพอจะรู้จักคุณนีนนารามั้ยครับ”

ปวรุตม์เอ่ยถามด้วยใบหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงที่เอ่ยทุ้มนุ่มนวลทำให้สาวๆ ที่แอบฟังอยู่แทบละลายไปกับใบหน้าหล่อๆ และท่วงท่าเท่ๆ ของคนถาม

หญิงสาวที่ถูกถามโพกผ้าสีดำคลุมทั้งใบหน้าเส้นผมทำให้เห็นแต่ลูกตาแวววับ หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ สารวัตรปวรุตม์แอบอมยิ้มเมื่อเป็นลูกตาวาวๆ ของคนที่ส่ายหน้าปฏิเสธไม่ยอมเอ่ยตอบ

‘โธ่เอ๋ย…ยายนาราคิดว่าฉันจำลูกตาเต้นวาววับของเธอไม่ได้หรือยังไง ต่อให้ผ่านไปกี่ปีฉันก็ยังจำได้ ถึงเธอไม่พูดฉันก็รู้ว่าเป็นยายนาราของฉัน’

สารวัตรปวรุตม์อมยิ้มแก้มแทบปริเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมรับว่าตนคือนีนนารา เขาก็มีวิธีทำให้อีกฝ่ายยอมรับเหมือนกัน ปวรุตม์แกล้งตีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยถามต่อ

“เอ่อ...ถ้างั้นคุณพอจะรู้จักสาวไฮโซที่มาจากกรุงเทพ มาเป็นอาสาพัฒนาชุมชนอยู่ที่โคกสำราญมั้ยครับ เธอตัวเล็กๆ เท่าบ่าของผม ท่าทางแก่นแก้ว เอาแต่ใจ ซนเป็นลิง อ้อ...มีจุดสังเกตง่ายๆ นะครับ ฟันข้างหน้าของเธอจะเหยินนิดๆ”

สารวัตรหนุ่มเอ่ยยิ้มๆ ระงับอาการหัวเราะไว้แทบไม่อยู่เมื่อเห็นนัยน์ตาของอีกฝ่ายลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ

นีนนาราหมดความอดทนกับท่าทางยียวนกวนประสาทของอีกฝ่าย เธอรู้สึกหมั่นไส้อีตาตำรวจขี้เต๊ะตั้งแต่ลงมาจากรถแล้ว แหม...มาเป็นสารวัตรได้ไม่ถึง 1 วัน ก็ทำบ้าอำนาจบังคับให้ลุงผิวเป็นคนขับรถให้ ลงมาถึงก็ทำตาหวานใส่สาวๆ ทั้งๆ ที่ไม่รู้จัก

และที่ทำให้อารมณ์ของเธอขาดผึงก็ตรงไอ้คำพูดยียวน หาว่าเธอซนเป็นลิง แถมยังมาว่าเธอฟันเหยินด้วย หญิงสาวลุกขึ้นยืนจากท่าก้มดำนาเมื่อสักครู่รู้สึกหมั่นไส้ใบหน้าหล่อๆ เต็มกำลัง เธอสะบัดแขนสะบัดขาแรงๆ ตั้งใจให้ดินโคลนที่เลอะติดตามแขนขากระเด็นไปโดนคนบนคันนา

“เฮ้ย!”

ปวรุตม์กระโดดโหยงเหมือนกบ หลบดินโคลนที่กระเด็นมาเปื้อนใบหน้าและเครื่องแบบตำรวจที่สวมอยู่ เขาไม่ได้รังแกดินโคลนที่อีกฝ่ายสะบัดใส่ แต่กลัวจะเปื้อนเครื่องแบบแล้วซักไม่ออกเสียมากกว่า

นีนนาราหัวเราะด้วยความขบขำเมื่อปวรุตม์กระโดดหลบไปอีกทาง เธอก็เอามือจุ่มไปในโคลนเละๆ แล้วสะบัดใส่ปวรุตม์อีกครั้ง

“ยายฟันเหยิน! พอแล้ว ฉันรู้นะว่าเป็นเธอ”

ปวรุตม์กัดฟันกรอดๆ ใบหน้าหล่อๆ แดงก่ำด้วยความโมโหที่ถูกเด็กเมื่อวานซืนแกล้งเอา

‘2 ครั้งแล้วนะ เรียกฉันว่าฟันเหยิน2 ครั้งแล้ว ชักจะทนไม่ไหวแล้ว’

นีนนาราขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความโกรธเธอเดินลุยโคลนไปใกล้ๆ ร่างสูงใหญ่จากนั้นก็ผลักปวรุตม์เต็มแรง

“ตูม!”

สารวัตรหนุ่มยังไม่ทันตั้งตัวก็หงายหลังตกไปยังท้องนาด้านหลัง น้ำในทุ่งนาแตกกระจาย ต้นข้าวสีเขียวขจีที่กำลังขึ้นสวยงามหักเป็นแถบเมื่อร่างสูงใหญ่ของปวรุตม์หงายท้องลงไป

ชาวบ้านที่กำลังช่วยกันดำนารวมทั้งดาบผิวต่างก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะดาบผิวรีบวิ่งมายังสารวัตรหนุ่มกำลังจะลงไปช่วยพยุงให้ลุกขึ้นแต่ถูกอีกฝ่ายห้ามไว้ก่อน

“ไม่ต้อง” ปวรุตม์ลุกขึ้นจากน้ำแล้วปีนขึ้นมาบนคันนา

นีนนาราหัวเราะขบขำจนตัวงอเมื่อเห็นสภาพของสารวัตรปวรุตม์ เส้นผมดำขลับที่ตัดเป็นระเบียบตอนนี้เต็มไปด้วยดินโคลน ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำมีสาหร่ายน้ำติดอยู่ เครื่องแบบตำรวจเปราะเปื้อนไปด้วยดินโคลน

“ดูไม่จืดเลยนะคุณตำรวจสุดหล่อ” นีนนาราเอ่ยเยาะเย้ยปนเสียงหัวเราะไม่สนใจอาการโกรธเป็นไฟของคนตัวใหญ่

“ยายนารา!” ปวรุตม์ตวาดเสียงดัง ใบหน้าแดงก่ำ พยายามระงับความโมโหไว้จนสุดความสามารถ

“เรียกทำไม” นีนนาราตวาดกลับ ไม่ยอมขึ้นจากท้องนา นัยน์ตาวาววับภายใต้ผ้าโพกหน้าจ้องกลับอีกฝ่ายโดยไม่ลดละ

“ขึ้นมานี่เลย” ปวรุตม์เท้าสะเอวเอ่ยสั่งลืมนึกไปว่านีนนาราไม่ใช่ลูกน้องของตนมีหรือที่สาวน้อยจะยอมทำตามง่ายๆ

“ขึ้นให้โง่! แน่จริงก็ลงมาสิหรือว่าเป็นตำรวจเจ้าสำอาง รังเกียจกลิ่นโคลนสาบควายไม่กล้าลงมา”

นีนนาราท้าแหยงๆ พร้อมกับตั้งหลักรอ

“ไม่ต้องท้า ลงไปแน่!”

ปวรุตม์กัดฟันกรอดๆ ถอดรองเท้าหนังแท้เลอะโคลนกับถุงเท้าออก

“อย่าให้ฉันจับได้นะยายนารา ฉันจะตีก้นให้นั่งไม่ได้หลายวันเลย”

ปวรุตม์เอ่ยขู่ เมื่อถอดถุงเท้าเรียบร้อยก็กระโดดลงไปในทุ่งนาทันที นีนนาราตั้งหลักรออยู่แล้วพออีกฝ่ายกระโดดลงมาเธอก็โกยแนบ แต่คนขาสั้นอย่างนีนนารามีหรือจะวิ่งหนีคนสูงใหญ่ขายาวอย่างสารวัตรปวรุตม์พ้น ยิ่งวิ่งหนีลุยโคลนด้วยยิ่งทำให้วิ่งลำบาก ไม่กี่อึดใจปวรุตม์ก็คว้าร่างบอบบางนุ่มนิ่มมาได้ สารวัตรหนุ่มรวบร่างบางแล้วแบกใส่บ่าเหมือนกระสอบข้าวพาเดินขึ้นไปบนเถียงนา

“กรี๊ด!...ไอ้ปวรุตม์ ปล่อยเขานะ”

นีนนารากรีดลั่นทุ่ง มือบางทุบแผ่นหลังแข็งแกร่งหนักๆ แต่ปวรุตม์ไม่รู้สึกสะเทือนสักนิด นีนนาราชักจะมึนเมื่อถูกห้อยหัวโตงเตงนานๆ พอปวรุตม์เดินผ่านดาบผิว หญิงสาวก็เอ่ยขอความช่วยเหลือ

“ลุงผิว ช่วยนาราด้วย”

ดาบผิวหัวเราะแฮะๆ เห็นใบหน้าถมึงทึง นัยน์ตาลุกเป็นไฟน่ากลัวของสารวัตรหนุ่มแล้วใครจะกล้าเข้าไปช่วย ดาบผิวถือคติว่า ‘น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ’

“สารวัตรเบาๆ มือหน่อยนะครับ คุณนาราตัวยิ่งเล็กๆ อยู่” ดาบผิวเอ่ยกลั้วหัวเราะ เดาได้ว่าอีกไม่กี่เดือนคุณนีนนาราต้องกลายมาเป็นคุณนายตำรวจแน่นอน

สารวัตรปวรุตม์ทำหน้าถมึงทึงสาวเท้ายาวๆ เดินมาที่เถียงนาเสร็จแล้วก็โยนร่างบางลงโครมไปบนเถียงนาที่ทำเป็นเพิงพักผ่อนแบบง่ายๆ

“โอ๊ย!...เจ็บนะ โยนมาได้ไง คนนะไม่ใช่กระสอบข้าว”

นาราลูบเบาๆ ตรงก้นกบที่กระแทกกับพื้นแข็งๆ ปากบางร้องโอดครวญออกมาดังๆ ด้วยความเจ็บ นาราเงยหน้าขึ้นมองคนตัวใหญ่ที่กำลังจ้องมองมาอย่างโกรธๆ ร่างบางระหงกระเถิบถอยหลังเมื่อร่างสูงใหญ่ถมึงทึงน่ากลัวสาวเท้าเข้าหาช้าๆ อย่างกับพรานกำลังจะล่าเนื้อ…

ปวรุตม์ทรุดตัวลงนั่งแล้วดึงร่างบางที่กระเถิบหนีให้มานอนคว่ำพาดบนตักจากนั้นมือใหญ่ก็ฟาดหนักๆ ลงไปบนก้นงามงอน

“ป๊าบ!” มือใหญ่ที่ฟาดหนักๆ ลงมาบนก้นทำเอานาราน้ำตาเล็ด หญิงสาวดิ้นขลุกขลักบนตักใหญ่อบอุ่น ปากบางตะโกนด่าไม่ได้หยุดปาก

“เจ็บ! ปล่อยนะไอ้ตำรวจบ้า ตีเขาทำไม”

“ขอโทษก่อนแล้วจะปล่อย” ปวรุตม์กัดฟันพูด

“ไม่!” นาราปฏิเสธเสียงแข็งไม่ยอมขอโทษง่ายๆ

“ป๊าบ!” ปวรุตม์ซัดลงไปอีกครั้ง นารากัดริมฝีปากแน่นเจ็บจนน้ำตาร่วงแต่ไม่ยอมเอ่ยขอโทษ

“เฮ้อ!...ตีไปก็ตายเปล่า”

ปวรุตม์รับรู้ถึงน้ำตาอุ่นๆ ที่หยดลงมาสัมผัสต้นขา สารวัตรหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ดึงร่างบางให้นั่งซ้อนบนตักกว้าง คนที่เจ็บใช่จะเป็นแค่นาราคนเดียว เขาเองก็รู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยกว่าคนตัวเล็กที่กำลังซบหน้ากับอกกว้าง

“ทำไมไม่ตีให้ตายไปเลย เมื่อ 5 ปีก่อนก็ทำร้ายเขามาครั้งหนึ่งแล้ว อุตส่าห์หนีมาตั้งไกลยังจะตามมาทำร้ายเขาอีก” นาราตัดพ้อกับอกกว้างพร้อมกับสะอื้นฮักด้วยความน้อยใจ

ปวรุตม์นิ่งงันกับคำพูดของสาวน้อยในอ้อมกอด มือใหญ่ค่อยๆ แกะผ้าโพกหน้าออก เมื่อผ้าผืนใหญ่หลุดจากใบหน้า สารวัตรปวรุตม์ถึงกับตะลึงนิ่งงันไปชั่วขณะ สาวน้อยสดใส แก่นแก้วที่เขาเคยพบเมื่อ 5 ปีก่อน บัดนี้กลายมาเป็นหญิงสาวที่สวยหวาน น่าเสน่หา ใบหน้าเนียนหวานรับกับริมฝีปางบางเป็นรูปกระจับ จมูกโด่งได้รูปสวย ฟันบนที่เคยเหยินนิดๆ กลับถูกจัดเป็นระเบียบสวยงามขาวสะอาด

ปวรุตม์แทบไม่เชื่อเลยว่าเวลาแค่ไม่กี่ปีที่เขาไปเมืองนอก ลูกเป็ดขี้เหร่ที่เขาแอบหลงรักจะกลับกลายมาเป็นนางหงส์ที่ดูสวยสง่าน่าทะนุถนอม มือใหญ่กระชับคนในอ้อมกอดไว้แน่นพลางก้มหน้าลงไปประทับจูบตรงกลางกระหม่อมและริมฝีปากบางหอมหวานดังที่เคยปรารถนามาช้านาน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel