3
สองสามีภรรยาเดินตัวปลิวออกจากบ้าน ไม่สนใจบุตรสาวคนเล็กที่ทรุดกายนั่งบนพื้น ร้องไห้กับปัญหาเดิมๆ ที่ตนไม่ได้ก่อ เธอรู้ดีว่า บิดามารดากู้เงินไปทำอะไร จันทร์หอมเตือนบุพการีหลายครั้งแล้วว่า การพนันไม่เคยทำให้ใครรวย ยิ่งถลำลึกยิ่งหมดตัวได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นหนี้สินรุงรัง เธอเหนื่อยกับการต้องตามใช้หนี้ ทว่าคำพูดเธอแค่ไหลผ่านหูสินกับมารศรี ที่ไม่คิดทำตามสักนิดเดียว ก่อหนี้ซ้ำๆ และซ้ำๆ ที่ไม่รู้ว่า จะมีวันจบสิ้นหรือไม่
คนทำลายข้าวของเสียหายอาจไม่เหนื่อย แต่คนเก็บนี่สิเหนื่อยหนักมาก จันทร์หอมใช้เวลาร่วมสองชั่วโมงในการทำให้สะอาด เก็บของที่พังเสียหายออกไปไว้หน้าบ้าน ส่วนที่ใช้ได้ก็เก็บไว้ตามเดิม ขณะเก็บของให้เข้าที่จันทร์หอมนึกถึงเรื่องหนี้สินบิดามารดาไปด้วย ค่าดอกเบี้ยวันนี้พอหาได้ แต่หากไม่มีเงินต้นและต้องจ่ายดอกทุกวันจันทร์ก็ไม่ไหว เธอคงหาเงินไม่ทันแล้วคงไม่มีใครให้ยืมเงินบ่อยๆ คนที่เธอรู้จักก็ปากกัดตีนถีบ มีภาระต้องดูแลครอบครัวทั้งนั้น ทางเดียวที่จะหายใจหายคอสะดวกคือ ต้องปลดหนี้ก้อนนี้
ซึ่งมันยากเหลือเกิน หนึ่งแสนสองหมื่นบาท ไม่ใช่เงินน้อยๆ เป็นจำนวนเงินที่มากสำหรับคนระดับเธอ ห่างไกลความจริงด้วยซ้ำไป
หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย จันทร์หอมอาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดใหม่ เพื่อเดินทางไปทำงานช่วงเย็น งานที่ว่านี้คือเด็กเสิร์ฟในคลับมารูแอล เธอทำงานที่นี่จนถึงเวลาตีหนึ่ง อาศัยรถพยอมกลับถึงบ้านในเวลาไม่เกินตีสอง เธอจะนอนพักราวสองชั่วโมงกว่า ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวไปทำงานที่ประตูน้ำ งานของเธอคือขายของในร้านขายเสื้อผ้า ทำงานจนถึงเวลาแปดโมงครึ่งเก็บร้านแล้วจึงกลับบ้าน
เธอนอนพักเอาแรงจนถึงเที่ยงกว่า หาข้าวกินและอาบน้ำ ไปทำงานพิเศษอีกหนึ่งงานคือ ทำความสะอาดบ้านพักดาราสาวชื่อดังนามว่าภัทรวดีหรือเนม จันทร์หอมทำงานแทนอ้อย สาวใช้ที่ลางานไปดูบิดาที่ป่วยหนัก ภัทรวดีใจดีมาก ให้อ้อยลางานแบบไม่มีกำหนดให้ดูแลพ่อจนกว่าจะหายดี และให้เงินเดือนตามเดิม จันทร์หอมเป็นผู้หญิงที่ขยันมาก ทำงานอย่างไม่รู้จักเหนื่อย ขอแค่งานนั้นเป็นงานสุจริตและได้เงิน จันทร์หอมยินดีทำ
ก่อนเดินไปเปลี่ยนชุดเพื่อเข้างาน จันทร์หอมไปหาบุคคลที่ขอความช่วยเหลือเรื่องเงินในวันนี้ คนนั้นคือพยอมผู้จัดการร้าน ที่ให้ความช่วยเหลือเธอมาตลอด หลังจากพยอมโอนเงินมาให้หนึ่งหมื่นห้าพันบาท รวมกับที่มีอยู่แล้วห้าพันบาทก็คบสองหมื่น เธอก็รีบโอนต่อให้อเนกทันที เมื่อเข้ามาในห้องทำงานของพยอมก็พบว่า พยอมไม่ได้อยู่คนเดียว
“พี่สุ” จันทร์หอมยิ้ม โผกอดสุดารัตน์ ลูกพี่ลูกน้องพยอม “พี่สุไม่มาที่นี่นานเลยนะคะ”
“งานค่อนข้างยุ่งน่ะ เลยไม่ค่อยได้มา” สุดารัตน์ตอบ
“จันมาก็ดีแล้ว สุมีเรื่องจะคุยด้วย พี่กะว่าจะให้อั้มไปตามพอดี” พยอมบอกจันทร์หอมที่ทำหน้าสงสัยว่า สุดารัตน์มีเรื่องอะไรกับตน
“คือพี่ลางานไปแต่งงานเจ็ดวันน่ะ พี่เลยต้องหาเลขาไปทำงานแทนพี่ อันที่จริงแล้วใช้เลขาของผู้จัดการคนอื่นก็ได้นะ แต่ไม่มีใครว่างเลย ช่วงนี้งานเยอะ งานรัดตัวแค่งานของตัวเองก็ล้นมือ มาทำงานแทนพี่คงไม่ไหว ครั้นจะไม่หามาแทนก็กลัวว่างานคุณทิวจะไม่เดิน เพราะต้องมีคนจัดเตรียมเรื่องเอกสารให้คุณทิวด้วย พี่เลยบอกคุณทิวว่าจะหาเลขาพาร์ทไทม์มาทำงานระหว่างที่พี่ไม่อยู่ พี่นึกถึงจันก็เลยมาลองคุยดู”
เหตุผลที่สุดารันต์เลือกจันทร์หอม เพราะจันทร์หอมมีประสบการณ์ด้านนี้มานานร่วมห้าปี จันทร์หอมเป็นเลขาบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ เจ้านายนักธุรกิจใหญ่วัยห้าสิบเจ็ดปีที่ขึ้นชื่อเรื่องเจ้าชู้ ทว่าไม่เคยคิดล่วงเกินหรือในทางชู้ส่วกับจันทร์หอมเลย กลับเอ็นดูเธอเหมือนลูกเหมือนหลาน
แต่คนที่คิดไปไกลคือภรรยาเจ้านาย ที่หวาดระแวงกลัวว่าสามีจะปันใจให้เลขาหน้าหวานแสนสวย จึงบีบให้จันทร์หอมลาออกจากงานด้วยการข่มขู่ จันทร์หอมไม่อยากมีเรื่องกับคนมีเงิน และไม่อยากมีปัญหาจึงลาออกจากงานด้วยความจำใจและเสียดายค่าจ้างหลักหลายหมื่น หลังจากนั้นจันทร์หอมเบื่องานเลขานุการ หันมาทำงานอื่นที่แม้ว่ารายได้น้อยกว่า ทว่ากลับสบายใจกว่าหลายสิบเท่า
จันทร์หอมมีคุณสมบัติพร้อม ไม่ว่าด้วยประสบการณ์การทำงาน ภาษาก็พูดได้ถึงสามภาษาไม่รวมภาษาไทยคือ ภาษาจีน ญี่ปุ่นและสากล สุดารัตน์มั่นใจว่าจันทร์หอมทำหน้าที่นี้แทนตนได้แน่นอน
“น่าสนนะจัน เจ็ดวันๆ ละสองพันก็หมื่นสี่แล้ว” พยอมรู้เรื่องนี้ก่อนจันทร์หอม ซึ่งเธอก็เห็นด้วย
“ให้วันละสองพันเลยหรือคะพี่สุ” ผู้พูดตาโตกับค่าจ้างพาร์ทไทม์
“ใช่ วันละสองพัน พี่รู้จากพยอมว่า จันทำงานตอนเช้าด้วย เวลางานมันคาบเกี่ยวกัน เพราะงานพี่เข้าแปดโมงครึ่ง พี่เองก็ไม่อยากให้จันเสียงานที่ทำอยู่ พี่จะขอคุณทิวให้จันทร์เข้างานเก้าโมงสิบห้า ระยะทางจากประตูน้ำมาบริษัทไม่ไกล นั่งวินมาก็ประมาณสามสิบบาท” สุดารัตน์อยากให้จันทร์หอมมีรายได้ ยิ่งรู้ความลำบากของจันทร์หอม ก็ยิ่งอยากให้เธอมีรายได้ “แล้วไม่ต้องกลัวว่าจันจะทำไม่ได้ งานเลขาก็ไม่ต่างกันมาก จะต่างกันก็คือเจ้านาย คุณทิวเป็นหนุ่มไฟแรง ทำงานเก่ง ไม่จู้จี้จุกจิก ไม่เรื่องมาก ไม่ต้องชงกาแฟให้ทุกเช้า แค่เราทำงานในหน้าที่ให้ดีก็พอ จันโอเคไหม”