2 คนที่ต้องตามหา
แม้ว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่จะก้าวหน้ามากการติดต่อสื่อสารสะดวกสบายแต่มารดาของเธอก็เป็นคนไม่เล่นสื่อโซเชียลการตามหาทางนี้ก็เลยยาก เธอกับพี่ชายไปถามที่บริษัททุกคนก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่ามารดาของเธอลาออกไปแล้วหนึ่งเดือน หญิงสาวไปตามดูที่ห้องเช้าของมารดาเจ้าของห้องก็บอกว่ามารดาของเธอย้ายออกไปแล้ว
รติรสตัดสินใจแจ้งความคนหายแต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลาเกือบจะสองปีแล้วที่อรสามารดาของเธอขาดการติดต่อกับรติรสและครอบครัว เธอคิดว่ามันผิดปกติอย่างมากจึงอยากจะไปกรุงเทพและเข้าไปทำงานในบริษัทที่มารดาของตนเองเคยไปทำงาน
หลังจากเก็บของและตรวจความเรียบร้อยแล้วรติรสก็ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกมาใส่ท้ายรถกระบะเพื่อให้คุณป้าไปส่งยังสถานีรถไฟ
“ไปถึงกรุงเทพกี่โมง”
“ประมาณตีสี่ตีห้าค่ะ”
“แล้วจะไปหาเพื่อนยังไง”
“หนูจะรอให้เช้าแล้วค่อยนั่งรถเมล์เข้าไปหานันท์ค่ะ”
“หนูไปถูกใช่ไหมโรส”
“ไปถูกค่ะป้าห้องพักของนันท์อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไหร่นั่งรถเมล์ไม่กี่ป้ายก็ถึง ป้าวรรณไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ถ้าเจอนันท์แล้วหนูจะถ่ายรูปคู่กับนันท์ส่งให้ป้านะคะ ป้าจะได้สบายใจตกลงมั้ยคะ”
“ตกลงจ้ะ อย่าลืมนะโรสอย่าขาดการติดต่อไปอีก หนูรู้ใช่มั้ยความรู้สึกของคนที่รอมันเป็นยังไงคะ”
“หนูรู้และจะไม่ทำให้ป้าเป็นห่วง จะติดต่อป้าบ่อยๆ นะคะ หนูว่าป้ารีบขับรถไปส่งรถดีกว่านะเดี๋ยวจะตกรถไฟ”
รติรสมาถึงสถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ในเวลาเกือบจะตีห้าหญิงสาวเดินลากกระเป๋าเดินทางออกมาจากนั้นก็เรียกแท็กซี่ให้ไปส่งที่หอพัก เธอไม่อยากจะขึ้นรถเมล์เพราะกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็คงไม่สะดวกเท่าไหร่ เมื่อมาถึงด้านล่างหอพักก็ไลน์ขึ้นไปบอกเพื่อนรอไม่นานนวนันท์ก็เดินลงมารับ
“คิดถึงจังเลยโรส เป็นยังไงบ้าง นั่งรถไฟมาเหนื่อยไหม”
“โรสก็คิดถึงนันท์เหมือนกัน แต่คราวหลังเก็บตังค์ซื้อตั๋วเครื่องบินดีกว่า”
“นันท์ก็บอกแล้วให้รถนั่งเครื่องมาแต่โรสก็ไม่ยอม”
“ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มงานก็เลยจะประหยัด”
“ประหยัดเงินก็จริงแต่มันเสียเวลาไง”
“โรสก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ คราวหน้าค่อยนั่งเครื่องบินดีกว่า”
“ถ้างั้นรีบเอาของขึ้นไปเก็บเถอะ จะได้นอนพักแล้ว”
“วันนี้นันท์ต้องไปทำงานไหม”
“ไปสิแต่บริษัทที่นันท์ทำงานอยู่ใกล้ๆ นี่เองเข้างานเก้าโมง ออกจากห้องพักแปดโมงกว่าๆ ก็ได้”
“โรสคงไม่มารบกวนเวลานอนใช่ไหม”
“ไม่หรอกน่าอย่าคิดมากเราเพื่อนกันรีบขึ้นไปกันดีกว่านะ”
ห้องพักของหนูนวนันท์เป็นห้องขนาดหนึ่งห้องนอนหนึ่งห้องน้ำมีห้องครัวเล็กๆ ไว้ปรุงอาหารง่ายๆ เตียงนอนขนาดห้าฟุตทำให้สองสาวนอนกันยังไม่ค่อยอึดอัดเท่าไหร่
“คิดว่าจะอยู่ได้ไหมโรส”
“อยู่ได้สิ แต่นันท์จะอึดอัดหรือเปล่าที่มีโรสมาอยู่เพิ่มอีกคน”
“ไม่หรอกมีโรสมาอยู่ด้วยนันท์ก็หายเหงา”
“แล้วเจ้าของหอเขาจะว่าไหม” เธอกลัวว่าการมาของตนเองจะทำให้เพื่อนมีปัญหา
“เขาไม่ว่าอะไรเพราะบางห้องก็อยู่กันสองสามคน เขาคิดค่าน้ำเพิ่มอีกแค่คนละร้อยห้าสิบบาทแค่นั้นเอง โรสมาเหนื่อยๆ จะนอนพักก่อนไหม”
“โรสขออาบน้ำก่อน ตอนนี้ตัวเหม็นมากเลย”
“ได้สิห้องน้ำอยู่ตรงนั้น”
“นันท์นอนต่อเถอะ เดี๋ยวโรสหนูอาบน้ำแล้วก็จะไปนอนเหมือนกัน”
“งั้นนันท์ขอนอนต่ออีกสักชั่วโมงนะ”
เมื่อเจ้าของห้องล้มตัวลงนอน รติรสก็เปิดกระเป๋าเดินทางเอาของใช้ที่จำเป็นออกมา จากนั้นก็เปิดประตูห้องน้ำอาบน้ำสระผมและนั่งเช็ดผมจนกระทั่งเจ้าของห้องตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะแปดโมง
“โรสอย่าบอกนะว่ายังไม่ได้นอน”
“ผมยังไม่แห้งเลยไม่อยากนอน”
“ไดร์เป่าผมในตู้เสื้อผ้า”
“โรสเห็นแล้วแต่กลัวว่าจะทำให้นันท์ตื่น”
“ขี้เกรงใจเหมือนเดิมเลยนะ จริงๆ แล้วเสียงดังแค่ไหนถ้านันท์จะหลับยังไงก็หลับได้ ไหนๆ ก็ไม่นอนแล้วเดี๋ยวลงไปหาอะไรกินกันไหม นันท์จะพาโรสไปดูว่าแถวนี้มีร้านอะไรบ้าง”
“จะไม่เสียเวลาเหรอนันท์”
“ไม่หรอกตอนนี้ยังไม่แปดโมงเลย จากที่นี่ไปบริษัทที่นันท์นั่งรถเมล์แค่นิดเดียวเอง แล้วบริษัทที่โรสไปสมัครงานอยู่ไกลมากไหม” นวนันท์จำไม่ได้ว่าบริษัทที่เพื่อนพูดถึงนั้นอยู่ตรงไหนก็เลยถามเพื่อความแน่ใจอีกสักครั้ง
“ก็อยู่ห่างจากหอของนันท์ไกลอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าตื่นเช้าหน่อยขึ้นรถไฟฟ้าไปก็ไม่น่าจะมีปัญหา เดี๋ยววันนี้โรสจะลองไปดูก่อนว่ามันจะมีทางไหนไปได้ไวที่สุด”
“แล้วเขาให้ไปเริ่มงานวันไหนนะ”
“เขาให้ไปฟังการชี้แจงรายละเอียดวันมะรืน ส่วนเริ่มงานก็วันจันทร์หน้า”
“โรสแน่ใจนะว่าตัวเองจะทำงานตำแหน่งแม่บ้านจริงๆ”
“แน่ใจสิ ตำแหน่งนี้แหละดีที่สุด เข้านอกออกในห้องใครก็ได้โรสจะได้สืบด้วยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับแม่ทำไมแม่ถึงหายไป โรสคิดว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในบริษัทแน่ เขาเป็นบริษัทของชาวต่างชาตินะ บางทีอาจจะพาผู้หญิงขายออกนอกประเทศไปแล้วก็ได้” รติรสตั้งขอสังเกต
“ทำไมคิดแบบนั้น แม่โรสไม่ใช่เด็กสาวนะ”
“โรสก็แค่เดามั่วๆ เพราะนึกไม่ออกเลยว่าทำไมจู่ๆ แม่ถึงหายไปแล้วส่งเงินก้อนสุดท้ายให้โรสกับป้ามากจริงๆ เงินสิบล้าน แม่ต้องทำงานเท่าไหร่กันถึงจะได้เงินจำนวน มันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่พนักงานกินเงินเดือนอย่างจะเก็บเงินได้มากถึงสิบล้าน”
“อาจจะเป็นโบนัสก็ได้นะโรส”
“แต่มันมากเกินไปนะนันท์มันต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรอยู่ในบริษัทนั้นแน่ๆ หรือบางทีแม่ของโรสอาจจะเป็นอะไรไปแล้วเงินก้อนนั้นทางบริษัทก็ชดเชยให้ แต่โรสคิดว่ามันไม่ยุติธรรมหรอกต่อให้เงินจะมากมายแค่ไหนมันก็แลกกับชีวิตคนไม่ได้ ถ้าพวกเขาทำอะไรแม่โรสจริงๆ โรสก็จะต้องเอาผิดเขาให้ได้”
“ดูละครมากไปหรือเปล่าโรส ใครเขาจะทำอย่างนั้น”
“ไม่รู้แหละก็มันน่าสงสัยนี่ แม่โรสเป็นแค่พนักงานบริษัทธรรมดานะแต่มีเงินให้โรสกับป้าถึงสิบล้าน มันแปลกไหมล่ะ”
“พูดถึงแปลกมันก็แปลกนะ แต่โรสเข้าไปทำงานก็ต้องห่วงตัวเองด้วยนะ ไม่ใช่ไปถามคนอื่นให้มั่วไปหมด เดี๋ยวเขาจะสงสัยเอา”
“ไม่หรอกนันท์ โรสจะค่อยๆ ตีสนิทก่อนจากนั้นก็ค่อยถามไปทีละคนเพราะถามตรงๆ ก็คงไม่มีใครบอกหรอก”
“นันท์เอาใจช่วยโรสให้ตามเรื่องของแม่เจอก็แล้วกันนะ”
“ขอบใจนะนันท์”