3 ยังไม่อยากจริงจังกับใคร
บอริสชายหนุ่มลูกครึ่งรัสเซียเคลียร์เอกสารกองสุดท้ายบนโต๊ะเสร็จจากนั้นก็กดออดเรียกให้ลูกน้องคนสนิทเข้ามาในห้อง
“เสร็จเรียบร้อยแล้วใช่ไหมครับบอส”
“ฉันเซ็นเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กำหนดการกลับเมืองไทยน่าจะเร็วกว่าเดิมสักอาทิตย์หนึ่ง” บอริสบอกกับลูก้าลูกน้องคนสนิท
“ผมนึกว่าบอสจะไปต้นเดือนหน้า”
“ตอนแรกฉันก็ว่าจะไปต้นเดือนหน้า แต่แม่อยากให้รีบเข้าไปที่บริษัทหน่อยนะ”บอริสหมายถึงมารดาของตัวเองที่หย่าขาดกับบิดามาสองปีแล้วท่านดูแลกิจการนำเข้าเครื่องจักรอุตสาหกรรมอยู่ที่เมืองไทยโดยมีเขาคอยบินไปช่วยงานนานๆ ครั้ง แต่ตอนนี้มารดาของเขาอยากจะวางมือเพื่อพักผ่อน ชายหนุ่มเลยรีบกลับไปเมืองไทยเพื่อจะศึกษางานก่อนจะรับทุกอย่างมาดูแลแทน
“ผมเพิ่งคุยกับเตวิชญ์เมื่ออาทิตย์ก่อนเขาบอกว่าเตรียมหาเลขาคนใหม่ให้บอสแล้วนะครับ แต่จะมาเริ่มงานเดือนหน้า บอสไปก่อนแบบนี้เขาอาจจะหาเลขาให้บอสไม่ทันนะครับ”
“ฉันใช้เลขาของคุณแม่ไปก่อนก็ได้ หรือถ้าช่วงนี้มีใครที่พอจะเข้าตาก็ให้มาทำงานช่วยคุณสุรีย์พรไปก่อน”
“ถ้างั้นผมจะประสานงานกับเตวิชญ์ให้นะครับ”
“อือ ขอเป็นคนใหม่ไม่ใช่คนเก่านะ ฉันไม่อยากได้คนของลุงสมบูรณ์เท่าไหร่ ช่วงที่ฉันไม่อยู่พวกเขายักยอกเงินกันเยอะ”
“ผมว่าคงไม่หรอกครับ แม่บอสก็ยังอยู่ที่นั่น”
“แม่ฉันเห็นว่าเขาเป็นพี่ชายท่านก็เลยแกล้งหลับหูหลับตาทำเป็นไม่รู้ ที่แม่จะให้ฉันเข้าไปทำงานก็เพราะอยากจะให้ปัญหานี้มันหมดไปนั่นแหละ”
“ถ้าเกิดบอสจับได้จริงๆ บอสจะทำยังไงครับ” เขาถามผู้ที่เป็นเจ้านายที่ทำงานมาด้วยกันนานถึงห้าปี
“ก็คงต้องเรียกมาคุยอย่างจริงจัง จำนวนหุ้นแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของลุงสมบูรณ์ไม่น่าจะมีอำนาจในการตัดสินใจเท่าไหร่ แต่ที่แม่ยอมปล่อยไปบ้างก็เพราะเห็นว่าเป็นพี่ชายของตนเอง ถ้าฉันเข้าไปบริหารงานแทนแม่พวกเขาจะไม่ได้ทำอะไรตามอำเภอใจอีกแล้ว”
“บอสคิดว่าครั้งนี้จะอยู่เมืองไทยนานแค่ไหนครับ”
“ก็คงจะนานหน่อย เตรียมเพนเฮาส์ไว้ด้วยนะ ส่วนนายก็อยู่ทำงานที่นี่ทนฉัน”
“ผมนึกว่าบอสจะไปอยู่กับแม่ที่บ้าน”
“ไม่ล่ะ ฉันอยู่คนเดียวดีกว่า นายก็รู้นี่แม่ฉันชอบแนะนำผู้หญิงให้ฉันรู้จัก ฉันว่าป่านนี้ก็คงเตรียมไว้ให้ฉันหลายคนแล้วมั้ง”
“แล้วบอสไม่คิดจะมองผู้หญิงที่แม่บอสหาให้บ้างเหรอครับ”
“ฉันเพิ่งอายุยี่สิบแปดนะ นายจะให้ฉันจริงจังกับใครได้ยังไงล่ะฉันยังมีเวลาสนุกอีกเยอะเอาไว้ฉันอายุสามสิบห้าแล้วยังไม่มีผู้หญิงที่ถูกใจฉันค่อยมองผู้หญิงที่แม่เตรียมให้ก็แล้วกัน”
“เขาว่าผู้หญิงไทยอ่อนหวาน เอาใจเก่ง”
“ฉันไม่ชอบแบบนั้น ฉันชอบผู้หญิงแบบไหนนายก็น่าจะรู้”
“ครับ ผู้หญิงของบอสไม่เน้นอ่อนหวาน เน้นเด็ดแค่เรื่องบนเตียงใช่ไหมล่ะ”
“แล้วใครไม่ชอบบ้างล่ะ พูดถึงผู้หญิงเย็นนี้ในโทรหาซูซานให้ฉันหน่อยสิ”
“บอสคงไม่คิดจะพาซูซานกลับไปที่เมืองไทยใช่ไหม”
“พากลับไปให้โง่สิ ที่ฉันแค่อยากจะเรียกซูซาน มาเจออีกสักครั้งก่อนที่ฉันจะกลับเมืองไทย”
“หมายความว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างบอสกับซูซานใช่ไหม ผมจะได้จัดการทุกอย่างให้เหมือนอย่างเคย”
“ตามนั้นแหละ”
“ผมคิดว่าบอสจะจริงจังกับคุณซูซาน”
“เพราะอะไรล่ะ”
“ก็เห็นคบกับเธอนานกว่าใครเลย”
“ซูซานทำให้ฉันมีความสุขบนเตียง แต่ถ้าจะให้เอามาเป็นคู่ชีวิตคงเป็นไปได้ยาก ถึงซูซานเธอจะสวยและเป็นนางแบบแถวหน้าของที่นี่แต่แม่ฉันก็คงไม่ยอมรับเธอเป็นสะใภ้หรอก”
ซูซานที่บอริสและลูก้าพูดถึงคือนางแบบแถวหน้าของรัสเซียเธอควงกับบอริสนานกว่าใครทั้งหมด เพราะหญิงสาวตอบสนองเรื่องบนเตียงของเขาได้ดี อีกทั้งยังไม่เคยบอกคนอื่นว่ามีความสัมพันธ์กับเขา เธอจึงเป็นคนเดียวที่เขาคบนานที่สุด จริงๆแล้วเขาไม่เคยคิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนไหนเลย บอริสไม่อยากมีครอบครัวเนื่องจากยังไม่สามารถหยุดความเจ้าชู้ได้ เหมือนกับบิดาของตนที่แต่งงานกับมารดา แล้วยังไปมีผู้หญิงคนอื่นอยู่เรื่อยๆ มันทำให้มารดาของเขาเจ็บปวดมากและถ้าเขาไม่เจอผู้หญิงคนไหนที่ทำให้เขารักอย่างจริงๆ เขาก็จะไม่ยอมแต่งงานเป็นอันขาดและมันก็ยากมากที่จะหาคนถูกใจเพราะผู้หญิงทุกคนที่เข้าหาเขาต่างก็หวังในทรัพย์สมบัติของเขากันทั้งนั้น
ในเมื่อพวกเธอต้องการเงินเขาก็ตอบสนองด้วยเงินและสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ เพื่อแลกกับความสุขบนเตียงโดยไม่มีอะไรผูกมัด บางคนก็เต็มใจนอนกับเขาเพียงเพื่อหวังว่าเขาจะจริงจังด้วยแต่ก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำสำเร็จ
บอริสรู้ว่าซูซานเองก็ไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นเพียงแต่เธออดทนและใจเย็นไม่เคยพูดถึงความสัมพันธ์ของตนเองให้กับคนอื่นรู้เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คนอื่นรู้เรื่องความสัมพันธ์เขาก็จะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นอย่างเด็ดขาด
ซูซานคงได้ยินเรื่องนี้จากคนอื่นมาบ้างหญิงสาวเลยไม่เคยแสดงตัวหรือบอกกับใคร มันทำให้บอริสรู้สึกสบายใจและคบกับเธอได้นานจนลูก้าคิดว่าเจ้านายของตนจะจริงจังกับผู้หญิงคนนี้
เมื่อถึงเวลาเลิกงานบอริสขับรถออกจากบริษัทงานของตนเองจากนั้นก็ตรงไปยังโรงแรมที่นัดเจอกับซูซานไว้ อย่างน้อยก่อนไปเมืองไทยเขาก็น่าจะหาความสุขให้กับตัวเองก่อน