11 ไม่เคยจริงจัง
ในบ่ายวันศุกร์หลังจากที่รติรสทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วเธอก็ขึ้นมานั่งทำงานอยู่หน้าห้องของบอริสอย่างเคย เจ้านายกดอินเตอร์คอมบอกให้เธอเข้าไปหาในห้อง หญิงสาวก็เข้าไปพร้อมกับ แฟ้มที่หัวหน้าฝ่ายบุคคลเอามาฝากเธอไว้เมื่อครู่
“แฟ้มจากแผนกบุคคลค่ะ”
“ด่วนหรือเปล่าโรส”
“ไม่ค่ะคุณนงลักษณ์บอกว่าขอรับก่อนวันจันทร์บ่าย”
“ถ้าอย่างนั้นฉันเซ็นไปเลยก็แล้วกันนะ ไม่รู้ว่าวันจันทร์จะเข้าบริษัทหรือเปล่า”
“บอสจะไปไหนคะ ถ้ามีคนติดต่อมาโรสจะได้บอกถูก”
“มีธุระส่วนตัวจะต้องทำนิดหน่อยน่ะที่ฉันเรียกเธอเข้ามาวันนี้ก็เพื่อจะบอกว่าวันจันทร์ฉันอนุญาตให้เธอลางานได้หนึ่งวันนะ”
“ทำไมล่ะคะ”
“เพราะฉันเองจะไม่เข้าบริษัท”
“โรสขอมาทำงานได้ไหม” เพราะถ้าเขาไม่มาเธอก็จะได้อู้งานและไปคุยกับคนแผนกอื่นเพื่อสืบเรื่องของมารดาที่ละเลยมาเกือบเดือน
“เธอเป็นเลขาของฉันเจ้านายไม่มาแล้วเธอจะมาทำไมล่ะ”
“โรสก็อยากมาเคลียร์งานให้มันเรียบร้อยไงคะ บอสให้โรสเก็บเอกสารทุกอย่างลงคอมพิวเตอร์ตั้งเยอะแยะ โรสยังไม่ได้จัดเป็นหมวดหมู่เลยค่ะ”
“ถ้าอยากจะมาทำงานก็ตามใจ แล้วมีอีกอย่างหนึ่งข้อนี้สำคัญมาก”
“อะไรคะบอส”
“ต่อไปนี้ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนจะเข้ามาหาฉัน เธอต้องถามฉันก่อนทุกครั้งอย่าให้ใครเปิดประตูเข้ามาก่อนฉันอนุญาต”
“ผู้หญิงทุกคนที่บอสพูดถึง รวมคุณมินนี่ด้วยใช่ไหมคะ”
“ก็ใช่น่ะสิทำไมจะต้องถามแบบนั้นด้วยล่ะ”
“โรสคิดว่าคุณมินนี่น่าจะเป็นแฟนบอส”
“ไม่มีใครเป็นแฟนฉันทั้งนั้น ทุกคนก็แค่ผู้หญิงที่ฉันมีไว้ควงเล่น คนอย่างฉันไม่คิดจะจริงจังหรือมีครอบครัวหรอกนะ”
“น่าสงสารผู้หญิงพวกนั้นจังเลยนะคะ เขารู้ไหมว่าบอสไม่เคยคิดจะจริงจังกับเขา”
“รู้สิผู้หญิงทุกคนของฉันเราคุยกันแล้ว มันจะมีแค่เรื่องบนเตียงแค่นั้นแหละโรส คนอย่างฉันไม่มีความรักหรือมีหัวใจให้ใครหรอก อยู่เป็นโสดแบบนี้ฉันว่ามันสนุกกว่าการมีแฟนเยอะแล้วเธอล่ะมีแฟนไหม”
“คนหน้าตาสวยๆ อย่างโรสก็ต้องมีแฟนสิคะ”
“ฉันเพิ่งเคยเจอนะคนที่ชมตัวเองแบบนี้”
“คนเราต้องชมตัวเองไว้ก่อนค่ะ หรือบอสเถียงว่าโรสไม่สวย”
“ฉันก็ไม่อยากจะเถียงเธอหรอกนะ เอาล่ะออกไปทำงานได้แล้ว”
เมื่อเลขาสาวเดินออกไปแล้วบอริสก็มองตามแล้วยิ้มที่มุมปากเลขาของเขาเป็นคนที่สวยมากๆ หุ่นดี ใบหน้าเรียวรูปไข่ดวงตากลมโต ขนตาเป็นแพงอนงามรับกับผิวขาวเนียนจนแทบจะมองเห็นเส้นเลือด เขายอมรับว่ารติรสเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ แต่เขาก็ถือคติว่าสมภารจะไม่กินไก่วัดเพราะไม่อยากทำให้เสียการปกครองถึงแม้ว่าหญิงสาวจะตรงสเปกของเขามากแค่ไหนก็ตาม
แต่ถ้าวันไหนรติรสย้ายไปทำงานที่แผนกอื่นมันก็ไม่แน่ แต่ในเมื่อตอนนี้เธอยังทำหน้าที่เป็นเลขาที่ดีเขาก็ไม่อยากจะคิดอะไรเกินเลยกับเธอเพราะเขาเคยมีประสบการณ์เอาเลขามาเป็นคู่นอนแล้วมันไม่เวิร์คเลย
เพราะเธอตามติดเขาไปทุกที่จนแทบกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เขาไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้ เขาชอบคนที่คุยง่ายและไม่ชอบอะไรที่มันจำเจ
ถ้าหากเขามีความสัมพันธ์ลับกับเลขาก็มั่นใจได้เลยว่าจากนั้นอีกหนึ่งเดือนหญิงสาวคนนั้นจะต้องตกงานแน่ๆ และเขาก็ไม่ใจร้ายพอที่จะเห็นรติรสตกงาน เนื่องจากรู้ว่าเธอเพิ่งงานมาทำงานที่นี่เป็นที่แรกและถ้าต้องออกจากงานก่อนช่วงทดลองงานมันก็คงจะลำบากในการที่เธอจะไปหางานทำที่อื่นเพราะประวัติการทำงานครั้งแรกมันไม่สวย
บอริสก็ไม่รู้ว่าตนเองจะอดใจไม่ขย้ำเลยค่ะสาวคนนี้ได้มากแค่ไหน ชายหนุ่มจึงพยายามไม่ไปไหนตามลำพังกับเธอสองคน รวมถึงไม่ไปค้างคืนที่อื่น เขาจะเรียกใช้เตวิชญ์เวลาต้องออกต่างจังหวัดเพราะกลัวความหื่นของตนเองจะทำลายอนาคตของคนที่เพิ่งจะเข้ามาทำงาน
เหตุผลที่เขาสั่งให้รติรสรายงานเรื่องผู้หญิงทุกคนก่อนเข้าพบเพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าพวกเธอจะเข้ามาก้าวก่ายในชีวิตของตนเองมากจนเกินไป และมีคนเอาเรื่องนี้ไปรายงานให้กับมารดาของเขาทราบมันกระตุ้นให้มารดาของเขาอยากจะหาแฟนเป็นตัวเป็นตนให้ซึ่งเรื่องนี้บอริสยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ชายหนุ่มไม่คิดจะมีครอบครัวเพราะคิดว่าตนเองคงไม่ใช่ผู้ชายที่จะรักผู้หญิงคนไหนได้นานขนาดนั้น ดูอย่างบิดาของเขาสิเขาเห็นว่ารักมารดามากมาดูแต่สุดท้ายท่านก็มีผู้หญิงอื่นและหย่ากันในที่สุด
วันนี้ชายหนุ่มได้รับโทรศัพท์ตั้งแต่เช้าว่าให้ไปทานข้าวที่บ้านบอริสไม่รู้หรอกว่าแม่มารดาของตนอยากเจอเขาจริงๆ หรือจะเรียกเขาไปเตือนเรื่องผู้หญิง แต่เขาภาวนาว่าการไปทานข้าวกับมารดาครั้งนี้จะไม่ใช่การจับคู่ดูตัวเพราะเตวิชญ์บอกเขาว่ามารดาของเขาเริ่มจะติดต่อผู้หญิงหลายๆ คนไว้ให้เป็นตัวเลือก
ชายหนุ่มขับรถมายังบ้านหลังใหญ่ที่ครั้งหนึ่งมันเคยเป็นบ้านที่อบอุ่นแต่ตอนนี้มีเพียงมารดาและสาวใช้อีกสามคนกับลุงคนสวนได้ลุงคนขับรถเท่านั้นที่อยู่กับมารดาของเขา
“สวัสดีครับแม่” เขากล่าวทักทายมารดาจากนั้นก็เข้าไปกอดและหอมแก้มสองข้างของเธออย่างประจบ
“เป็นไงลูกทำงานเหนื่อยไหม”
“ไม่เหนื่อยเลยครับแม่ช่วงนี้ทุกอย่างมันกำลังลงตัว”
“แล้วเรื่องลุงสมบูรณ์ล่ะเขาว่ายังไงบ้าง”
“เขากำลังพิจารณาข้อเสนอที่ผมให้ไปครับ”
“มันจะไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอบอริส ถ้าลูกจะบังคับให้ลุงของขายหุ้นคืนให้ทั้งหมด”
“มันก็ไม่ทั้งหมดหรอกครับผมจะเหลือไว้ให้เขาสัก 4% ดีไหมอย่างน้อยเขาจะได้มีปันผล”
“แล้วเขายอมไหมล่ะจากถือหุ้น 20% ลดเหลือแค่ 4%W
“เขาไม่เดือดร้อนหรอกครับแม่ เขาได้จากบริษัทไปเยอะ ถ้าผู้ถือหุ้นคนอื่นรู้แม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นยังไงล่ะ”
“แล้วลูกจะบอกทุกคนว่ายังไง”
“การประชุมบอร์ดบริหารคราวหน้าผมอยากให้แม่เขาด้วยนะครับ”
“แต่ไม่วางมือแล้วนะบอริส”
“แม่เพิ่งวางมือมาได้ไม่ถึงสองเดือนเองนะ ครับผมว่าเรื่องราวในบริษัทแม่รู้มากกว่าผม ผมอยากให้แม่เข้าประชุมด้วยอย่างน้อยก็ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ แม่อย่าลืมสิครับว่าผมเข้ามาดูงานแทนแม่แต่หุ้นยังเป็นชื่อของแม่อยู่”
“ก็ลูกไม่ยอมรับโอนจากแม่สักที แต่ไม่เป็นไรหรอกนะเอาไว้แม่จะมอบหุ้นทั้งหมดให้เป็นของขวัญวันแต่งงานก็แล้วกันนะ”
“ของขวัญวันแต่งงาน แม่คงไม่หาผู้หญิงให้ผมใช่ไหมครับ”
“ตอนนี้ยังไม่หา แม่อยากให้ลูกหาเองก่อนแต่บอริสอย่าลืมนะลูกถ้าลูกอายุสามสิบแล้วยังไม่มีใคร ถึงตอนนั้นลูกจะยอมให้แม่หาผู้หญิงให้ไหม”
“แม่ครับขอต่อเวลาเป็นสามสิบห้าได้ไหม”
“ลูกต่อเวลาแม่มาเยอะแล้วนะ”
“ก็ผมยังไม่เจอคนที่ผมรักจริงนี่ครับแม่ แม่ก็รู้ว่าเรื่องแบบนี้มันบังคับไม่ได้ ถ้าเกิดผู้หญิงที่แม่หามาเป็นสะใภ้เขาไม่ได้รักผมเขารักแค่เงินของผมขึ้นมาล่ะ สุดท้ายเขาก็เชิดเอาหุ้นทั้งหมดของเราไปนะครับ”
“ถ้ากลัวแบบนั้นก็หาเวลาว่างมาคุยกับแม่เรื่องรายละเอียดอีกทีแม่จะโอนให้บอริสทั้งหมด แม่อยากวางมือจริงๆ แล้วนะ”
“ก็ได้ครับแม่”