ฤารักจะเป็นเพียงสิ่งต้องห้าม3
“อาจารย์ หลานฟางได้ยินว่าอาจารย์จะสอน เพลงกระบี่ให้เสี่ยวเหวินในตอนค่ำนี้” จอมยุทธ์ผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉม พยักหน้าหลานฟางกอดแขนอาจารย์ไว้แน่น
“อาจารย์สอนหลานฟางด้วยคน หากเรียนกับอาจารย์ไม่ว่าเวลาไหนหลานฟางเต็มใจตลอด” จอมยุทธ์หนุ่มยิ้ม หากเป็นยิ้มที่อ่อนใจ
เสี่ยวหวินมาพร้อมกระบี่ไม้คู่กาย
“อาจารย์ เสี่ยวเหวิน อ้าวหลานฟางเจ้าก็อยู่นี่ ดีเลยมาฝึกกระบี่กัน”
“ใครใช้ให้เจ้ามาก่อนเวลา งานของเจ้าเสร็จแล้วหรือเสี่ยวเหวิน"เสี่ยวเหวินเกาหัวแกรกๆ
“ข้าให้เจ้า เอาหญ้าให้ม้าในคอกอาบน้ำให้มัน แล้วก็วันนี้ต้องบีบนวดท่านพ่ออีกเล่า”
“หลานฟางเช่นนั้นข้า..ข้าก็จะไม่ได้ฝึกวิชากันพอดี อาจารย์เต็มใจสอนให้ยามวิกาลแต่งานข้าที่เจ้าให้ทำมันเยอะขนาดนั้น ข้าจะเอาเวลาที่ไหนมาฝึกแล้ว..แล้วส่งผลเสียหลายอย่าง เมื่อไหร่จะเก่งจนปกป้องเจ้าได้ แล้วอาจารย์ก็จะไม่ได้ไปท่องยุทธภพ แล้วก็อีกหลายอย่างจะตามมา” หลานฟางชี้หน้าเสี่ยวเหวิน
“หยุดปาก ของเจ้าเสีย ใครให้เจ้าเก่งใครให้เจ้าอยากให้อาจารย์จากไป” น้ำเสียงเกรี้ยวกราด เสี่ยวเหวินใบหน้าถอดสีเมื่อคิดว่าหลานฟางตั้งใจจะบอกอะไรบางอย่างเป็นนัยๆ
“ข้า ข้าไม่บังอาจ”..................
“เจ้าอิจฉาที่ข้าชอบอาจารย์มากกว่าเจ้า เลยคิดหาทางให้อาจารย์จากไปใช่ไหม เจ้ามันโง่ ไม่มีอะไรเทียบกับอาจารย์ได้สักอย่างริอาจจะมาเก่งเท่าอาจารย์ ไม่มีทางที่ท่านพ่อให้เจ้าฝึกวิชาถ้าข้าขอร้อง หาข้ออ้างให้อาจารย์อยู่ อาจารย์ถึงได้อยู่ ถ้าเพื่อเจ้านะเสี่ยวเหวินไม่มีทาง” เสี่ยวเหวินทรุดกายลงบนพื้น
“หลานฟางเจ้าเห็นข้าเป็นอะไร”จอมยุทธ์หนุ่ม เดินถอยออกมาจากตรงนั้น หลายอย่างไม่ควรจะได้ยินเขากลัวว่าเสี่ยวเหวินจะอาย
“ข้า ...ข้า ดีกับเจ้าไม่พอใช่ไหมหลานฟาง” จอมยุทธ์หนุ่มกลืนน้ำลายลงคอยากเย็น เมื่อได้ยินคำนี้ตอนที่คล้อยหลังจากมา
“เสี่ยวเหวินไม่ว่าจะอย่างไร อย่าได้ใฝ่สูง เห็นไหมอาจารย์หนีไปแล้ว อาจารย์คงเบื่อหน่ายเจ้าเต็มทน” เสี่ยวเหวินกอดกระบี่ไม้เดินหลบออกมาปล่อยให้หลานฟาง ฮึดฮัดด้วยความโมโห
ข้างลำธารที่น้ำใสไหลเย็น เสี่ยวเหวินฟาดฟันกระบี่ไม้เข้าใส่ต้นหญ้าย่อยยับจนเหนื่อยหอบ
“ ข้าผิดเองข้าขอโทษ ข้าผิดเองข้าขอโทษ”พูดซ้ำๆ
จอมยุทธ์หยุดยืน อยู่ข้างหลัง
“ต้นหญ้าเหล่านั้นผิดอะไร”หันหน้ามาตาช้ำแดง จอมยุทธ์หนุ่มเอื้อมมือหมายจะปลอบใจแต่กลับหดมือกลับ
“บุรุษไยมีน้ำตาเล่า”
“อาจารย์ศิษย์ด้อยปัญญา โปรดสั่งสอน”
“ เอาเป็นว่า หลานฟางเพียงแค่ …ใกล้เกลือกินด่าง เจ้าก็เหมือนอาหารที่กินจนเบื่อซ้ำๆเดิมๆจนเดารสชาติได้ อย่างนั้นสู้เจ้าลองทำทีว่าไม่สนใจนางสักพัก ให้นางนึกรสชาติ ของอาหารที่คุ้นเคยไม่ออก สักวันนางจะหันมาสนใจเจ้า”
ยิ้มเศร้าๆ บนใบหน้าเขาไม่อาจหักห้ามใจได้จริงๆ อย่างนั้นหรือ ทั้งๆ ที่ตั้งใจที่จะทำแบบนี้ ตั้งแต่แรกแล้ว
เสี่ยวเหวินยิ้มกว้างสดใส จอมยุทธ์หนุ่มคว้ากระบี่ไม้โอบรอบตัวเสี่ยวเหวิน พาร่ายรำกระบี่ ในกระบวนท่าใหม่ ท่ามกลางความพลิ้วไหวของกิ่งหลิว และร่างสองร่าง ที่ประสานกลมกลืนสวยงามดั่งกิ่งหลิวต้องลม
”ท่านต้องปล่อยวางเสีย” เยว่เหนียงพูดพร้อมกับหลุบตามองจอกสุรา จอมยุทธ์หนุ่มนิรนาม ยิ้มเศร้าๆ
“แม่นาง เคยเจ็บปวดหัวใจแสนสาหัสไหม”เยว่เหนียงพยักหน้า เจ็บปวดแสนสาหัสยิ้มบางๆ
“หัวใจท่าน เมื่อมีรักก็จะรู้สึกมีหวัง หากเมื่อไร้รัก ความโศกเศร้าก็มาเยือนแต่เมื่อนานวันเข้าจะกลายเป็นความด้านชาไปเสียสิ้น”
สุราในมือถูกกรอกลงคอ จอมยุทธ์หนุ่มผู้เพียบพร้อมด้วยรูปโฉมหากเดาไม่ผิดตอนนี้นับว่าคงเจ็บปวดหัวใจจนแทบอยากจะแดดิ้นลงไป เยว่เหนียงครุ่นคิดเหตุใดเขาถึงต้องเศร้าหมองเช่นนี้ หากมิใช่บุรุษน้ำตาคงหลั่งรินได้ไม่ยาก