ฤารักจะเป็นเพียงสิ่งต้องห้าม2
“แม่นางหลานฟางเกรงใจไปแล้ว ข้าเพียงจอมยุทธ์เร่ร่อน รู้จักกันนับว่าเป็นวาสนา” หลานฟางยิ้ม
สุราในมือถูกรินลงคอ ง่ายดาย
“ท่าน รู้สึกอย่างไรกับนาง”
“นางเปรียบดั่งบุบฝาแรกแย้ม ไร้ซึ่งเสแสร้งทั้งปวง”เยว่เหนียงยิ้ม
“ แล้ว สิ่งใดที่เป็นเหตุให้ใจท่านเป็นทุกข์”
สุราถูกส่งลงไปในลำคออีกครั้ง
“ท่านจอมยุทธ์ ยินดีเหลือเกิน ที่ท่านช่วยเหลือบุตรสาวข้าจากโจรป่า” คหบดีเฒ่าขอบคุณด้วยใจจริง
“เกรงใจไปแล้ว” เสี่ยวเหวินยืนยิ้มอยู่ข้างๆ หลานฟาง
“หลานฟางพูดถึงท่านเสียจนข้าต้องมาพบด้วยตัวเอง หากท่านยังไม่รีบร้อน เดินทางที่แห่งใด เชิญพำนักที่นี่เสียนานหน่อย ข้ากำลังมองหาผู้ที่จะมาฝึกวรยุทธ์ให้เสี่ยวเหวินพอดี เพื่อที่เสี่ยวเหวินจะได้คอยคุ้มครองคุณหนู ยามที่ต้องออกไปไหน เสี่ยวเหวินคารวะอาจารย์เสีย”
รีบรวบรัดเหมือนกลัวจะเปลี่ยนใจ เสี่ยวเหวินยิ้มหวานใบหน้าใส่ซื่อยื่นส่งถ้วยชาตรงหน้าให้จอมยุทธ์หนุ่ม
“อาจารย์เสี่ยวเหวิน ขอคารวะ” จอมยุทธ์หนุ่มนิรนามรับถ้วยชามาถือไว้ด้วยความเต็มใจ ยิ้มบางๆ
“ท่านพ่อข้าอยากฝึกวรยุทธ์ด้วย ท่านฝากฝังแต่เสี่ยวเหวินแล้วข้าเล่า”ท่านคหบดี หัวเราะเสียงดังลั่น
“ท่านจอมยุทธ์ หวังว่าท่านจะไม่รังเกียจเด็กสาวดื้อรั้นคนนี้รับเปืนศิษย์อีกคนช่วยสั่งสอน แทนข้า”
จอมยุทธ์หนุ่มยกถ้วยชา ชูขึ้นก่อนจะกระดกจนหมดถ้วย หลานฟางกระโดดตัวลอย
เสียงกระบี่กระทบกันดังสนั่น เสี่ยวเหวินและหลานฟาง ปะมือกันตามคำสั่งอาจารย์ที่เฝ้ามองอยู่ห่างๆ ด้วยท่าท่าทีแข็งทื่อของเสี่ยวเหวิน ไม่เหมาะแก่การร่ายรำกระบี่นับว่าไม่มีพรสวรรค์ด้านนี้ จอมยุทธ์หนุ่มเดินเข้าไปข้างหลัง เอื้อมมือจับที่ข้อแขน ข้างหนึ่งอีกข้างจับที่ไหล่บางผอมเหมือนหญิงสาว เสี่ยวเหวินร่างอ้อนแอ้นไม่ต่างจากหลานฟางทว่าหลานฟางกับร่ายรำกระบี่ได้งดงามกว่าอย่างเห็นได้ชัด
หลานฟางยืนเบ้ปากเมื่อเห็น อาจารย์โอบเสี่ยวเหวินแบบนั้น
“เสี่ยวเหวินเจ้านี่ช่างไม่ได้เรื่องเช่นนี้ ริอาจจะปกป้องข้าอย่างนั้นหรือ จะไม่เกินตัวไปหน่อยหรือไร”คำพูดค่อนข้างจริงจัง
“ข้าตั้งใจฝึก มีอาจารย์ช่วยสั่งสอนเช่นนี้ รับรองข้าดูแลเจ้าได้แน่”กระบี่ในมือกวัดแกว่งไปมางดงาม ด้วยการบงการเหมือนอย่างที่จอมยุทธ์หนุ่มจะให้เป็น
“อย่าเกร็ง ปล่อยตัวตามสบาย ข้าจะช่วยสอนให้เอง”เสี่ยวเหวินไม่ฝืนปล่อยให้ อาจารย์นำไปในทิศทางที่ต้องการ จึงบังเกิดเป็นท่าร่ายรำกระบี่ที่สอดประสานงดงามน่ามอง
“อาจารย์เก่งที่สุด”จอมยุทธ์หนุ่มยิ้ม หลานฟางปรบมือดังสนั่น เสี่ยวเหวินดีใจยิ่งกว่าใคร ยิ้มจนปากแทบฉีกถึงหู
“เป็นเช่นนี้ไม่นานเจ้าจะเก่งขึ้นได้”
“เสี่ยวเหวินขอบคุณอาจารย์ หากให้เสี่ยวเหวิน ฝึกเองไม่แน่อาจสิบไม่สิยี่สิบปีถึงจะบรรลุจุดหมาย นี่เพียงวันเดียวกระบวนท่าต่างๆ ที่อาจารย์สั่งสอนเสี่ยวเหวินก็พอจะจำได้บ้างแล้ว”
“ดี หลัง ข้าวเย็นในทุกวันหากว่าง อาจารย์ช่วงนี้ก็ไม่ได้มีธุระอะไรฝึกเจ้าเก่งกาจเร็วยิ่งจะได้จากไปอย่างโล่งใจ”
“แล้วหลานฟางเล่าอาจารย์ ให้นางไปฝึกด้วยไหม”
“หลานฟาง หากเจ้าเก่งกาจ อีกไม่นานก็จะปกป้องนางได้อย่างภาคภูมินางเป็นหญิงฝึกไว้บ้างก็ดีไม่ฝึกก็ไม่มีใครว่า” เสี่ยวเหวิน เพ้อฝันตามแบบของเขา
“ต่อไปหากข้า เรียนวรยุทธ์กับอาจารย์สำเร็จ ก็จะได้ปกป้องหลานฟางเสียที ข้าจะไม่ยอมให้นางถูกใครรังแกอีกแล้ว ถึงเวลานั้นหลานฟางก็จะขอบคุณข้า ชอบข้าเหมือนที่ชอบอาจารย์”ยิ้มตาหยี จอมยุทธ์หมุ่มยิ้มเพียงบางๆ
“ขอบคุณอาจารย์ ข้ารีบกลับไปทำงานให้เสร็จ แล้วจะรีบมาฝึกกระบี่กับอาจารย์”เสี่ยวเหวินก้มลงคารวะ ก่อนจะวิ่งพลวดพลาดออกไป จอมยุทธ์หนุ่มยิ้มมุมปากภารกิจเขาใกล้จะลุล่วงแล้ว
หลานฟางยกน้ำแกงร้อนๆ มาเสิร์ฟให้ถึงที่พัก
“อาจารย์ หลานฟางเห็นท่านยังไม่ทานอะไรเย็นนี้เลยมาเป็นเพื่อนทานข้าว”เขาถอนใจยาว จะหนีอย่างไรพ้น ได้แต่ยิ้มแห้งๆ