6.สิ้นสุดที่ตรงไหน
แยมเดินออกมาที่ระเบียงก่อนจะแย่งแก้วเหล้าในมือของราเชลขึ้นมากรอกใส่ปาก
"ดามันอาจจะโกรธเราก็ได้นะ.."
ราเชลหัวเราะ
"มันมัวแต่ทำงานมากเกินไป ทั้งที่มีโอกาสตั้งหลายครั้งแต่ก็ไม่รู้จักคว้าเอาไว้ คนเราจะกลัวอกหักทำไมวะ แค่ได้รักก็พอแล้ว..ไอ้ดาเองก็เหมือนกัน กูอยากมีโมเมนต์ปลอบเพื่อนเวลาที่มันอกหักบ้าง.."
แยมส่ายหน้าเบาๆ
"แต่นั่นท่านประธานนะเว้ย"
"แล้วมึงคิดว่าที่มันถูกย้ายไปเป็นเลขาของท่านประธานอีกครั้งมันคือเรื่องบังเอิญเหรอ.."
ริมฝีปากบางของแยมแสยะยิ้มขึ้นมา
"นั่นสินะ..ไม่ว่าผลเป็นยังไงกูพร้อมจะเมาเป็นเพื่อนมันเสมอแหละ นี่ต้องเขียนใบลารอเอาไว้เลยรึเปล่าวะ.."
เสียงหัวเราะเสียงใสของเพื่อนจอมวายร้ายทั้งสองดังขึ้นมาพร้อมกับเสียงบรั่นดีขวดแล้วขวดเล่าที่ถูกรินใส่แก้ว เพื่อเฉลิมฉลองเรื่องความรักของดาริน
....
"ดาคิดว่าดาต้องกลับค่ะ ดานอนที่นี่ไม่ได้"
ตะวันเลิกคิ้วมองใบหน้าที่ขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อของดารินอีกครั้งเขาจัดการปิดประตูห้องก่อนจะอุ้มเธอขึ้นมาแล้วพาเธอตรงไปที่เตียงขนาดคิงไซร้ ตะวันวางเธอลงเบาๆ เขาไล้นิ้วมือลงไปบนกรอบหน้าของเธอช้าๆ
"นอนได้สิ ทั้งที่คุณเป็นฝ่ายแอบมองผมมาตั้งนานไม่ใช่เหรอ? คุณเป็นฝ่ายที่ต้องการผมมากกว่าด้วยซ้ำ"
หัวใจพลันเต้นแรงขึ้นมาเมื่อเขากล่าวจบ เธอยกมือขึ้นมากอบกุมใบหน้าของเขาเอาไว้
"เคยต้องการค่ะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว.."
เพราะว่าเขาคอยย้ำเตือนอยู่ตลอดว่าเขาสามารถมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นได้อย่างง่ายดาย อีกเรื่องที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับท่านประธานโรงแรมโซลนั่นก็คือเรื่องการเปลี่ยนคู่นอนไม่ซ้ำหน้า
แต่ละคนคือนางแบบหรือไม่ก็นางเอกละครทั้งนั้น
มันทรมานทุกครั้งที่เธอมองตัวเองผ่านกระจก และเมื่อเธอมองเขา เขาก็กำลังมองผู้หญิงคนอื่นผ่านสายตา คำว่าเกินเอื้อมมันเน้นย้ำซ้ำๆจนเธอไม่มีความกล้ามากพอที่จะเดินข้ามไป
"มีสิทธิ์อะไรมาไม่ต้องการผม?.."
"มีสิทธิ์ทุกอย่างเลยค่ะเพราะว่านี่มันชีวิตของดานะคะ ปล่อยดาได้แล้วค่ะ!"
"ปล่อยให้กลับไปหาไอ้ผู้จัดการนั่นน่ะเหรอ? ชอบแบบนั้นเหรอ?"
เธอลุกขึ้นพร้อมกับถอนหายใจ ดารินมองหน้าของท่านประธานอีกครั้งพร้อมกับส่งยิ้มให้เขา มันคือรอยยิ้มที่ฉาบเอาไว้บนใบหน้าของเธอ..
"ดากลับก่อนนะคะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะท่านประธาน"
ตะวันคว้าข้อมือของเธอเอาไว้แน่น
"ไม่มีใครได้ออกจากห้องนี้ก่อนฟ้าสางหรอกดาริน"
มีสิ เพราะว่าเธอเห็นหลานของคุณจูเลียเดินออกไปเมื่อตอนหัวค่ำ..
"ดาไม่รู้ว่าท่านจะล้ำเส้นมาทำไม ในเมื่อมันจะไม่เกิดประโยชน์อะไรสักอย่างเลย"
เธอกล่าวพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ
เขาแค่ยิ้มก่อนจะยกมือขึ้นมาเพื่อกอบกุมใบหน้าของเธอเอาไว้
"ไม่เห็นต้องคิดเยอะขนาดนั้นเลยนี่.."
กับเขาก็คงเป็นเรื่องล้อเล่นหรือว่าเรื่องปกติมากสินะ การนอนร่วมเตียงตื่นขึ้นมาก็แยกย้ายกันไปทำเหมือนเรื่องมันไม่เคยเกิดขึ้น
ทั้งที่ตอนนี้เธอกำลังพยายามอย่างมากเพื่อไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมาแท้ๆ!! ความรู้สึกของคนเรามันเปราะบางมากกว่าที่คิดและเธอไม่ได้เข้มแข็งอะไรมากขนาดนั้น!!
เขา..เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความได้ดั่งใจ ไม่ว่าสิ่งไหนก็ตามที่เขาอยากได้มันจะต้องได้ เป็นแบบนั้นเสมอจนเกิดเป็นความเคยชิน เขาไม่ถนัดการบอกกล่าวหรือว่าการใช้คำสั่งแต่คนที่ทำงานกับเขาจะต้องรู้ว่าเขาชอบอะไรผ่านการเอาใจใส่เขา
ต้องมีเขาเป็นจุดศูนย์กลางสิ ต้องคอยเอาอกเอาใจและดูแลเขาสิ
ในตอนที่เขานั่งในตำแหน่งประธาน ความกดดันมหาศาลมันพวยพุ่งเข้ามาหาเขาเต็มไปหมด คุณพ่อที่อ่อนแอจนต้องลงจากตำแหน่งอย่างกะทันหันทำให้เขาไม่ได้ความนับถือหรือว่าความเคารพจากผู้ถือหุ้นคนอื่นๆ เขาเดินไปบนเส้นทางแห่งความกดดันที่แสนยากลำบาก แต่บนทางเดินที่มืดมิดมีการเอาใจใส่เล็กๆน้อยๆจากเธอ..
เธอเป็นคนเดียวที่สามารถทำให้เขาพึงพอใจและมีความสุขเล็กๆขึ้นมาได้ รอยยิ้มนั้นทำให้หัวใจของเขามันเต้นแรงขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีสายตาของเขาก็จับจ้องอยู่ที่เธอไปซะแล้ว การมีเธอมาคอยวนเวียนรอบๆตัวนั่นถือเป็นเรื่องที่ดีมากจริงๆจนเขาคิดไปเองว่าเขาคงจะได้ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นหน้าเธอเป็นคนแรกในทุกๆวัน
มือน้อยๆของเธอคงจะมาผูกเนคไทให้เขาและเสียงเจื้อยแจ้วนั้นคงจะมาคอยบอกเรื่องตารางงานให้เขาฟัง จนถึงวันที่เธอขอย้ายตัวเองออกไปและส่งคนอื่นมาทำหน้าที่นี้แทน..
ทำไมล่ะ? ที่ผ่านมามีแค่เขาที่มีความสุขอยู่คนเดียวงั้นเหรอ เธอไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกันเลยเหรอ ถึงพยายามหนีไปจากเขาขนาดนั้น
เราไม่ได้กำลังชอบกันอยู่งั้นเหรอ?
แล้วเขาจะต้องจัดการกับความรู้สึกในใจนี้ยังไงดีล่ะ เขายังไม่พร้อมแต่งงานกับผู้หญิงมากมายที่คุณแม่หามาให้ ตะวันจึงทำได้เพียงสร้างตัวตนของเขาขึ้นมา หากว่าเขาเจ้าชู้และนอนกับผู้หญิงไปเรื่อยก็คงไม่มีใครอยากแต่งงานกับเขาหรอก
สามปีที่เขาและดารินห่างกันไป เราต่างก็เติบโตขึ้นมามากทีเดียว เขาที่เปลี่ยนไปและเธอที่เหมือนเดิม เธอยังส่งยิ้มที่เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรามาให้เขา ต่อให้เขาใกล้ชิดเธอมากแค่ไหน ดวงตาคู่นั้นก็ไม่เกิดอาการหวั่นไหวขึ้นมาเลยและ..สายตาของเธอมันกำลังมองไปที่ผู้ชายคนอื่น
หากว่าเธอจะไม่รักกันจริงๆ แบบนั้นเราก็แค่มีความสัมพันธ์ทางกายกันก็ยังดี เขาอยากให้เธอหวั่นไหวไปกับเขาบ้าง..อยากให้ดวงตาคู่นั้นมองเขาด้วยความรักเหมือนกับที่มองไอ้หมอนั่น..
มันจะพอเป็นไปได้รึเปล่านะ?
เขายกขวดบรั่นดีขึ้นมากรอกใส่ปากตัวเองก่อนจะมองใบหน้าที่ทำท่าทางราวกับจะร้องไห้ออกมาของดาริน ตะวันบรรจงทาบทับริมฝีปากลงไปเบาๆ เขาใช้มือเพื่อบีบแก้มเธอเพื่อให้เธออ้าปากออก ตะวันส่งมองเหล้าในปากให้กับดารินอย่างแผ่วเบา
รสชาติข่มปร่าของบรั่นดีในปากเขาถูกส่งมอบมาให้เธอด้วยการกระทำที่เรียกได้ว่ามันคือการ..จุมพิตที่แสนหวาน เธอหลับตาลงพร้อมกับหยาดน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา ดารินกลืนเหล้าที่เขาค่อยๆป้อนให้เธอผ่านริมฝีปากนั่นช้าๆโดยไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืนอีกเลย
เธอเองก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน การวิ่งหนีเขาไปมารวมถึงการถูกเขาปั่นหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่ามันเหนื่อยเกินไปจนเธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังล้าเหลือเกิน อึกแล้วอึกเล่าที่เธอกลืนบรั่นดีเหล่านั้นลงคอมันทำให้สติของเธอเจือจางมากพอๆกับหยาดน้ำตาที่เอ่อล้นมาไม่ขาดสาย
ดารินเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคืนนี้ ความสัมพันธ์ของเธอและเขามันจะไปสิ้นสุดลงที่ไหนกัน