บทที่ 4 ฝัน
พื้นด้านล่างยกพื้นสูงพอก้าวขึ้นสบายๆ ปูด้วยไม้ทั้งหมด ด้านล่างเป็นพื้นหญ้า มีไม้แผ่นใหญ่วางบนพื้นหญ้าติดกับโอ่งดินเผาสีหมากสุก มีกะลาขัดเงาวับ เจาะรูข้างสำหรับใส่ด้ามไม้แกะสลักลายไทยงดงาม แม้กระทั่งกะลาตักน้ำล้างเท้ายังประณีตเช่นนี้ เรือนทรงไทยโบราณหลังใหญ่สร้างความตื่นเต้นอัศจรรย์ใจให้หงสาไม่น้อยทีเดียว
หล่อนเดินเรื่อยๆ ไปตามร่มแมกไม้ ลมพัดเฉื่อย เย็นสบาย กิ่งไม้ไหวเอนตามลม กลิ่นดอกไม้หอมชื่นใจลอยมา หล่อนเหลียวมองหาทิศทางลมแล้วเดินไปตามกลิ่น ขณะก้าวเดินไปข้างหน้า หล่อนเห็นหลังใครคนหนึ่งเดินอยู่ไกลๆ หุ่นทรง เป็นชายแต่ไม่รู้อายุเท่าไหร่ เห็นเพียงโครงร่างในชุดผ้าโจงกะเบนสีน้ำทะเล เสื้อสีขาวแขนสั้น หล่อนก้าวตามเขาไป อยากเห็นหน้าเขา นอกจากจันทร์ หล่อนยังไม่เห็นใครในบ้านสักคน
“คุณคะ คุณ รอก่อน คุณ รอเดี๋ยวสิ คุณ...”
หล่อนเรียกเพื่อให้เขาหยุดรอ มีหลายคำถามเกี่ยวกับบ้านหลังสวยและคนในบ้านที่ไม่ออกมาปรากฏตัวให้เห็น ยกเว้นแม่บ้านจันทร์
“คุณ คุณ รอด้วยสิ รอด้วย”
ชายผู้นั้นหยุดยืน หงสาชะงักเท้าที่กำลังก้าวตามคนที่หล่อนเรียกให้รอหล่อน เขาหยุดยืนนิ่งครู่หนึ่งจึงค่อยๆ เหลียวข้ามไหล่มองมาที่หล่อน
“หงส์ ไอ้หงส์ ตื่นรึยังลูก สายแล้วนะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทันหรอก หงส์ ไอ้หงส์ ตื่นรึยัง หงส์ ไอ้หงส์ ตื่นตื่น เร็วๆ ลูก เดี๋ยวไปทำงานสาย”
“ค่ะแม่ ตื่นแล้วค่ะ”
เสียงเคาะประตูและเสียงเรียกของวลัยพรรณเหมือนมือใหญ่ผลักจากด้านหลังของหล่อนเต็มแรง หล่อนสะดุ้งลืมตาโพลง ใจเต้นรัว หล่อนกำลังลุ้นกับเสี้ยวหน้าของชายที่หล่อนร้องเรียกเขา อีกไม่กี่วินาทีหล่อนจะเห็นหน้าเขาแม้เพียงซีกเดียวก็ตามแต่เขายังไม่ทันเหลียวข้ามไหล่มองมาทางที่หล่อนยืนอยู่ คุณแม่ที่น่ารักของหล่อนก็ทำลายความฝันสลายไปแล้ว
“ทำไมตื่นสายล่ะลูก ไม่สบายรึเปล่า”
ทันทีที่หงสาเปิดประตูให้แม่ น้ำเสียงแสดงถึงความห่วงใยลูกสาวของวลัยพรรณดังขึ้น หญิงสาวเจ้าของห้องยิ้มพร้อมส่ายหน้าเร็วๆ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ ฝันเพลินไปหน่อย”
“ฝันเพลิน ฝันอะไรถึงได้สายป่านนี้คะคุณลูกสาวคนสวยของแม่ ไปอาบน้ำล้างหน้าเร็วๆ ลงไปกินข้าว พ่อกับพี่รออยู่จ้ะ”
“โอ.เค.ค่ะ รอแป๊บเดียว หงส์วิ่งผ่านน้ำแค่ห้าวินาทีก็เรียบร้อยค่ะ”
“จะบ้าเรอะ วิ่งผ่านน้ำ ใครได้ยินอายเขาตาย ลูกสาวบ้านนี้ขี้เกียจอาบน้ำ ไปดีกว่าเหม็นกลิ่นคนบางคน”
สาวใหญ่เบ้ปากใส่ลูกสาวก่อนจะสะบัดหน้าเชิดใส่ลูกสาวแล้วเดินจากไปอย่างไม่ไยดีกับใบหน้าบึ้งปนขำนิดๆ ของลูก
หงสาล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำอย่างเร่งรีบ ขณะที่หล่อนทำทุกอย่างในช่วงเวลาเร่งด่วน ความฝันค่อนสว่างไม่เข้ามารบกวนกิจกรรมยามเช้าของหล่อน งานชิ้นใหญ่กองอยู่บนโต๊ะ ยังไม่ได้เริ่มวาดแบบแปลนคร่าวๆ ไปส่งกล้าวันนี้ ไม่คิดไม่เครียด พ่อกับพี่ชายรออยู่ที่โต๊ะอาหาร ต้องลงไปเดี๋ยวนี้
“แม่นางหงส์ งานใหญ่รออยู่ใช่หรือไม่”
เสียงจันทร์แว่วมาจากหน้าต่าง เท้าชะงักหยุดกะทันหัน แฟ้มใส่แผ่นกระดาษแผ่นใหญ่หล่นลงพื้นหล่อนสะดุ้งหันขวับ
“เกือบลืมงานใหญ่ซะแล้วเรา ดีนะที่คิดได้ก่อนออกจากห้อง”
แฟ้มยังวางอยู่บนโต๊ะทำงานห่างจากเตียง 3 เมตร แผ่นกระดาษอยู่ในแฟ้มไม่หลุดหรือโผล่ออกมาให้เห็น หงสาเดินกลับมาคว้าแฟ้มบนโต๊ะ รีบเดินออกจากห้อง วิ่งลงบันไดสู่ชั้นล่าง ก้าวเร็วๆ ไปทางโต๊ะอาหาร
สิรภพมองลูกสาวพร้อมรอยยิ้ม วิภูมองน้องสาว ไร้รอยยิ้มใดๆ นอกจากแววตาขุ่น น้องเรียนจบปริญญาโท ทำงาน มีเงินเดือนใช้จ่ายแล้วยังทำตัวเป็นเด็กสาวตัวน้อยของพ่อกับแม่ เขาอยากดุน้องแต่ก็ใจอ่อนทุกครั้งที่น้องอ้อนด้วยการกอดและหอมแก้มซ้ายขวาเหมือนอย่างที่น้องทำกับพ่อและแม่ หงสาไม่โตในสายตา 6 คู่ในบ้านหลังนี้
“ขอโทษอย่างแรงค่ะพ่อ พี่ชายที่น่ารักของน้อง อย่ามองอย่างนั้นสิคะคุณพี่ชายสุดหล่อของหงส์ ยิ้มหน่อยนะ นอนเพลินไปหน่อยค่ะขอโทษค่ะ”
“ไม่ต้องมาขอโทษ รีบกิน พี่สายแล้ว”
วิภูทำเสียงดุแต่ไม่แต่หางเสียงอ่อนโยน หงสายิ้มกว้างยื่นหน้าไปหอมแก้มพี่ชาย หล่อนทำอย่างนี้บ่อย ทุกคนในครอบครัวไม่รู้สึกเขินหรือห้ามปรามหงสา หล่อนกอดพี่ชาย หอมพี่ชายตามแม่ก่อนพี่ไปโรงเรียนและกลับจากโรงเรียน ความเคยชินทำให้วิภูไม่เขินเวลาน้องสาวหอมแก้มเขา
หงสาถึงบริษัทสายกว่าทุกวัน กล้านั่งกอดอกมองลูกน้องสาวอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานของเขา โอภาสกับยอดเยี่ยมนั่งอยู่โต๊ะตัวเอง มองเพื่อนร่วมงานวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง เสื้อยืดคอกลมสีขาวสวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตผ้ายีนสีซีดตัวยาวเลยเข่า กางเกงยีนสีซีดเช่นเดียวกับเสื้อ ผมยาวลุ่ยระแก้ม เจ้าของรวบมัดลวกไว้ด้านหลัง กระเป๋าผ้าหรือย่ามดัดแปลงให้เก๋ เท่ตามคนใช้ถูกถอดออกจากคอโยนลงบนโต๊ะทำงาน ไม่คำนึงถึงความเสียหายจะเกิดกับของในย่าม แฟ้มงานวางแรงเสียงดังปึง
“มาแล้วค่ะพี่ วันนี้สายมาก นอนเพลินไปหน่อย”
หญิงสาวหันไปยกมือไหว้ชายหนุ่มเจ้าของบริษัทพร้อมคำแก้ตัวที่ไม่เคยใช้มานานแล้ว กล้าได้แต่มองนิ่ง คนพูดแทนอยู่อีกโต๊ะ
“นอนเพลินไปหน่อยของแกถึงบริษัทเกือบเที่ยง ถ้าแกนอนเพลิ้นเพลินนี่สงสัยถึงเย็น”
“มึงก็ไปว่ามัน ที่มันนอนเพลินเพราะมัวคิดแปลนงานดึกไปหน่อยใช่มั้ยวะหงส์”
คำล้อของสองเพื่อนรุ่นพี่ทำให้หงสาหุบยิ้มทันที คิดแปลนงานดึกอย่างนั้นหรือ ไม่ใช่สักนิด หล่อนลืมงานและหลับฝันจนกระทั่งแม่ปลุก หล่อนยังไม่ได้ร่างแบบแปลนบ้านทรงไทยโบราณแม้แต่เส้นเดียว หญิงสาวเอนหลังพิงพนักเก้าอี้และเลื่อนตัวตกลงไปอยู่ใต้โต๊ะ