3
เจียวลู่เตรียมจะเดินหลบ แต่ทว่าอาชาสีดำทมิฬก็พุ่งใส่ตนเองเสียก่อน เจียวลู่ยืนตัวแข็งทื่อ ดวงตาเรียวรีขยายกว้าง ก่อนที่อุ้งเท้าม้าปีศาจจะกระแทกถูกกลางลำตัว พลันก็มีสายลมสายหนึ่งหอบลำตัวของนางขึ้นสูง พร้อมกับกลิ่นบุรุษเพศที่โชยเข้ามาในรูจมูก
“คุณหนูรอง!!” เจินเอ๋อตะโกนลั่น สีหน้าเผือดซีด
“เจ้าไม่ใช่คนที่นี่ใช่ไหม ข้าไม่คุ้นหน้าเจ้าสองคนเลย” โจฟางหรงเบ้ปาก ใช้ปลายกระบี่ที่ยังไม่ถอดออกจากฝักชี้ไปที่เจินเอ๋อ
“อย่าเสียมารยาท” โจฟางซินโรยตัวลงมา เขาหย่อนเจียวลู่ไว้บนพื้น โดยไม่ได้พูดอะไรกับนางสักคำ “แถวนี้มีม้าเร็ววิ่งบ่อยๆ เจ้าสองคนไม่ควรโอ้เอ้อยู่บนถนนนานๆ” คำสุภาพที่บ่งบอกว่ากำลังตำหนิ
เจียวลู่ถลาเข้าไปหาเจินเอ๋อ แล้วก็พึมพำขอบคุณคนแปลกหน้าที่ช่วยให้นางปลอดภัย “ขอบคุณคุณชาย”
“มิจำเป็น ไปกันเถอะฟางหรง” โจฟางซินพูดเสียงโทนต่ำ เขาถีบตัวขึ้นไปนั่งบนหลังอาชาตัวสีดำที่ยืนหอบหายใจเสียงดังฟืดฟาด
“จำเอาไว้ สตรีไม่ควรมาอยู่แถวนี้” โจฟางหรงตะโกนบอก แล้วก็ใช้หลังเท้ากระแทกสีข้างอาชาตัวสีน้ำตาลที่เป็นอาชาคู่ใจของเขาให้ควบขับตามพี่ชายไป
“เข้าไปข้างในเถอะเจินเอ๋อ ก่อนที่เราสองคนจะถูกม้าเหยียบ” เจียวลู่เพิ่งสังเกต บนท้องถนนเต็มไปด้วยรอยเท้าม้า ถนนเส้นนี้แทบไม่มีชาวบ้านเดิน ยกเว้นร้านรวงค้าขาย ที่ยังพอมีผู้คนยืนรอใช้บริการ
“คนที่นี่เถื่อนจังเลยนะเจ้าคะ” เจินเอ๋อกระซิบกับเจียวลู่
ดรุณีน้อยเม้มปาก หัวใจของนางยังสั่นไม่หยุด นี่เป็นครั้งแรกที่ถูกบุรุษเพศแตะต้องเนื้อตัวของนาง มือหยาบกร้านนั่น แตะใต้ชายโครง ห่างจากทรวงอกของนางไม่ถึงหนึ่งคืบ
“เถ้าแก่ พอมีห้องว่างไหมเจ้าคะ?” เจินเอ๋อถามชายสูงวัยที่นั่งอยู่หน้าแผงลูกคิด ท่าทางเขาน่าจะเป็นเจ้าของโรงเตี้ยมแห่งนี้
“พวกเจ้าลงมาจากรถสกุลถังไม่ใช่หรือ”
“เจ้าค่ะ แต่พวกเรามิได้พักที่สกุลถัง” เจินเอ๋อตอบ
“คงมาคัดเลืองเป็นนางกำนัลในวังใช่หรือไม่” เถ้าแก่โรงเตี้ยมเดาจากท่าทางและกิริยา
ดรุณีรูปงาม ท่าทางเรียบร้อยและสุขุม การเดิน การวางตัวดูผิดแผกจากชาวบ้านทั่วไป
“เหลือแค่ห้องเดียว จะเอาหรือเปล่าละ!!”
เจินเอ๋อพยักหน้ารับ แล้วก็รีบควักเหรียญเงินออกมาจ่ายค่าห้อง เถ้าแก่โรงเตี้ยมส่ายหน้า แววตาหลุกหลิกเปล่งประกายขึ้นวูบหนึ่ง ก่อนจะเลือนหายไป
“หนึ่งเหรียญทอง”
เจินเอ๋อชักมือกลับ แล้วก็มองสบตาเจียวลู่ “แพงจัง”
“ช่วงนี้มีคุณหนูจากสกุลใหญ่ๆ ทั่วทุกสารทิศ เป็นธรรมดาที่ห้องพักจะไม่มีเหลือ พวกเจ้าโชคดีที่โรงเตี้ยมของข้ายังมีห้องว่าง เลือกเอาเถอะ จะนอนบนถนนเพื่อเตรียมตัวเข้าวังในวันพรุ่งนี้ หรือว่าจะหมดโอกาสที่จะเข้าวังไปคัดเลือก”
“เอะ!! เจินเอ๋อ ถุงหอมของข้าละ” จู่ๆ เจียวลู่ก็อุทาน นางก้มมองตัวเอง ถุงหอมที่พกไว้ติดตัว จู่ๆ ก็หายไป นางคิดถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ บางทีถุงหอมของนางอาจจะติดตัวบุรุษแปลกหน้าสองคนนั่นไป
“ชั่งเรื่องถุงหอมก่อนเถอะเจ้าค่ะ คืนนี้คุณหนูกับข้าจะนอนพักที่ใดกัน” เจินเอ๋อกล่าวเสียงแผ่ว การค้างอ้างแรมนอกเรือนนารีครั้งแรก แม้แต่ที่นอนอุ่นๆ ยังไม่มี เหรียญเงินที่พกติดตัวมาพอแค่ค่ากิน หากต้องเจียดเหรียญเงินทั้งหมดสำหรับที่นอนในราตรีนี้ จากนี้จนถึงวันคัดเลือกนางกำนัล น่าจะได้กินแค่น้ำเปล่า
“ข้านอนที่ไหนก็ได้” เจียวลู่กล่าวเสียงหนักแน่น
เจินเอ๋อถอนใจ พลางรั้งข้อมือของเจียวลู่
ยามที่สองดรุณีน้อยเดินติดขอบถนน เพื่อหลบเลี่ยงอาชาตัวใหญ่ที่วิ่งสวนไปมาไม่ขาดช่วง “ไม่ต้องห่วงนะเจ้าคะคุณหนู คืนนี้ข้ากับท่านมีที่ซุกหัวนอนแน่ๆ” เจินเอ๋อกล่าวเสียงหนักแน่น สองเท้าที่ย่ำลงบนพื้นดินสีแดงเข้มมั่นคง
“เจ้ากับข้าจะนอนที่ไหนหรือเจินเอ๋อ” เจียวลู่ยังไม่คลายความกังวล แววตาของนางยังคงมีความระแวงอยู่ นอกชายคาเรือนนารี ไม่มีสักที่ที่ปลอดภัย ศัตรูที่จ้องอยู่ หากรู้ว่าสกุลเจียวยังเหลือทายาท คนเหล่านั้นต้องเคลื่อนไหวอีกแน่ๆ