บทที่ 2 คุณหญิงชื่นจิต
ชานด้านหน้ายกพื้นตรงกลางตีกรอบด้านล่างปิดทึบเหมือนเตียงสำหรับนั่งรับแขก ชานด้านข้างยื่นออกไปปูพื้นยาวมีลูกกรงแกะสลักลวดลายแปลกตา ประดับด้วยไม้กระถางเป็นระยะๆ ทั้งหมดนี้คุณหญิงชื่นจิตสั่งการเองทั้งหมด พระยารังสรรค์ฯ เอ่ยปากชมกับความเจ้าแห่งความคิดของภรรยา แขกที่มาเยี่ยมเยือนพอใจกับการแต่งบ้านของคุณหญิงเช่นกัน
ความเป็นแม่ศรีเรือนของคุณหญิงไม่สมบูรณ์อย่างที่ใจคิดเพราะหล่อนไม่มีทายาทสืบสกุลให้กับพระยารังสรรค์อาจณรงค์ด้วยเหตุนี้พระยารังสรรค์ฯ จึงขอมีภริยาเล็กเพื่อต้องการมีบุตร คุณหญิงอนุญาตทั้งที่ไม่ยินดีเท่าใดนัก
แน่งน้อยลูกสาวญาติห่างๆ ของพระยารังสรรค์ฯถูกเรียกตัวมาเป็นภริยารองซึ่งแน่งน้อยยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งแต่แน่งน้อยก็ไม่มีบุตรให้พระยารังสรรค์ฯ ไม่ว่าจะกินยาต้มสมุนไพร ให้หมอดูช่วยลงเวทย์มนต์ ดื่มน้ำมนต์ลูกดกหรือแม้แต่ขอจากองค์พระศักดิ์สิทธิ์ เจ้าพ่อเจ้าแม่จากศาลเจ้าต่างๆ แต่แน่งน้อยก็ไม่มีวี่แววว่าจะตั้งครรภ์แต่อย่างใดจนพระยารังสรรค์ฯ นำผกามาเป็นภรรยาอีกคน
“คุณพี่คะ คุณพี่อาจเป็นหมันก็ได้นะคะถึงไม่มีลูกสักที คุณพี่พานังผกามาเป็นเมียอีกคนคิดหรือคะว่าจะได้ลูกอย่างที่คิด อีกอย่างนังผกาเป็นแค่ลูกบ่าวนะคะ จะพามานั่งแท่นเป็นเมียรองไม่กลัวคำครหารึคะ”
คุณหญิงค้อนให้สามี พระยารังสรรค์ฯ ถึงกับหัวเราะกับกริยาแง่งอนปนเหน็บแนมของภรรยาใหญ่
“ตอนนี้บ่าวคนนั้นไม่ใช่บ่าวอีกต่อไปแล้วนะคุณหญิง พ่อแม่ของผกาปลดหนี้ตัวเองหมดแล้ว ฉันไม่กลัวคนนินทาดอก คุณหญิงอย่าห่วงแทนฉันเลย แต่ก็น่าแปลกนะคุณหญิง ทำไมฉันถึงไม่มีลูก” พระยารังสรรค์ฯ ถอนใจเฮือกใหญ่
“หรือฉันจะเป็นหมันอย่างที่คุณหญิงพูด” พระยารังสรรค์ฯหันมามองคุณหญิง
“อิฉันแค่คิดเท่านั้นค่ะ ไม่ได้หมายความว่าคุณพี่เป็นหมันนะคะ”
“ถ้าฉันป็นหมันจริงคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าใดนัก บ้านเราไม่มีผู้สืบสกุลคงเหงาพิลึก”
ท่านพระยาฯหัวเราะหึๆ ในลำคอ หากถึงวันนั้นเขาจะกลายเป็นคนแก่ที่ไร้ลูกหลานคอยปรนนิบัติพัดวี ชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไร เสียงถอนใจเฮือก คุณหญิงชื่นจิตเหลือบตามองสามี
“คุณพี่อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้เลยค่ะ อิฉันคิดว่าคุณพี่ต้องมีลูกจากเมียเล็กๆ ของคุณพี่นี่แหละค่ะ ได้ข่าวว่านังแน่งน้อยกับนังผกาพากันไปขอลูกจากเจ้าแม่เพียงฟ้าอีกหมู่บ้านหนึ่งไม่ใช่รึคะ คงได้ลูกสมใจ”
“คุณหญิง เลิกเหน็บแนมพวกนั้นเสียที ฉันอยากมีลูกคุณหญิงก็รู้”
พระยารังสรรค์อาจณรงค์ลุกขึ้นจากเตียงนั่งรับแขกเดินออกไป ใบหน้าบอกชัดว่าไม่พอใจกับคำพูดของภรรยาใหญ่
“ทำไมอิฉันจะไม่รู้ว่าคุณพี่อยากมีลูก แต่อิฉันไม่อยากให้เลือดครึ่งหนึ่งของวนารังสรรค์มีเลือดพวกไพร่อย่างนังผกาติดอยู่ด้วย คุณพี่เข้าใจอิฉันบ้างหรือไม่คะ”
คุณหญิงโกรธเช่นกันถึงแม้แน่งน้อยจะเป็นลูกสาวญาติห่างๆ ของพระยารังสรรค์ฯ แต่ก็ไม่มีคุณสมบัติผู้ดีติดตัว การพูดจาโอ้อวด ดูแคลนบ่าวไพร่ ตบตีทำร้ายเมื่อไม่พอใจหรือบ่าวทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ ส่วนผกาเป็นลูกบ่าวเต็มตัวแต่บ่าวบางคนก็นิสัยดี รู้จักเจียมตน ไม่ข่มเหงรังแกผู้อื่น บางคนมีน้ำใจและเป็นผู้ดีกว่าผู้ที่มีเชื้อสายผู้ดีแท้เสียอีก
ผกาไม่ใช่ผู้ดี ไม่มีน้ำใจ ขี้อิจฉาริษยาและร้ายยิ่งไปกว่านั้น มักใส่ร้ายคนอื่นโดยไม่รู้สึกผิดสักนิด นี่คือสิ่งที่คุณหญิงชื่นจิตไม่ยอมรับในตัวผกาตั้งแต่วันแรกที่ท่านพระยาฯพาเข้าบ้านเล็ก
คุณหญิงชื่นจิต งดงามทั้งกริยามารยาท รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวเนียนละเอียด ใบหน้ารูปไข่ คิ้วโก่งดั่งคันศร จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มย้อย ชื่นจิตเติบโตอยู่ในตระกูลผู้ดีเก่า ถูกสอนสั่งให้รู้ถึงจิตใจคนอื่น ไม่บังเบียดผู้ด้อยกว่า ไม่คิดร้ายหรือมองคนในแง่ร้าย สิ่งเหล่านี้คือจุดเด่นของคุณหญิงทำให้ผู้ที่ได้รู้จัก พูดคุยรักชื่นจิตโดยไม่มีข้อกังขาใดๆ
พระยารังสรรค์ฯลงเรือนใหญ่เดินเลี้ยวตามทางเล็กๆ สู่เรือนหลังเล็กของแน่งน้อยและผกาซึ่งเรือนหลังนี้ท่านพระยาฯ สั่งปลูกขึ้นเพื่อต้อนรับแน่งน้อยแต่เมื่อมีผกาเข้ามาอีกคน พระยารังสรรค์ฯจึงให้ผกาเข้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกับแน่งน้อย สร้างความไม่พอใจให้กับแน่งน้อยในระยะแรกๆ แต่เมื่อผกาช่างเอาใจ ฝากเนื้อฝากตัว แน่งน้อยจึงยอมให้ผกาอยู่ในบ้านด้วยความเต็มใจ อย่างน้อยหล่อนก็เป็นภรรยาเล็กของท่านพระยาฯเหมือนกัน