บทย่อ
“เพื่อลูกของข้า ข้าไม่หย่า” “ท่านฉีกมันทิ้ง พรุ่งนี้ข้าจะเขียนใหม่ หากท่านไม่หย่า ข้าจะหย่ากับท่านเสีย หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรข้าจะหย่ากับท่านให้ได้” แม่ทัพโจวหย่งคัง จำใจแต่งงานกับสตรีที่มารดาหาให้ แต่ทว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว เลยจำใจแต่งกับนางเพื่อมิให้มารดาเสียใจ เมื่อมารดาจากไป เขาจึงได้ขอหย่ากับภรรยา เพื่อที่จะแต่งงานกับคนที่เขารัก หลิวอวี้เหยา จำใจจะต้องแต่งงานเพื่อตอบแทนท่านป้า นางป่วยเป็นโรครุมเร้าอาจจะอยู่ได้ไม่นาน เพื่อตอบแทนบุญคุณของท่านป้า นางจึงได้ตกลงแต่งงาน ภายใต้เงื่อนไขของเขาพอนางจะหย่าให้เขา แต่เขาก็ไม่อยากจะหย่า เพียงแค่นางท้องลูกของเขา เขาต้องการแค่ลูกมิได้ต้องการนาง มีหรือนางจะยอม หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร นางก็จะหย่ากับเขาให้ได้นิยายเรื่องนี้แต่งจากจินตนาการ ภาพและเนื้อหาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด ภาพจาก Pinterest.com
ตอนที่ 1 ข้าจะหย่า
คำโปรย (เมื่อไหร่ท่านจะหย่ากับข้าเสียที)
“เพื่อลูกของข้า ข้าไม่หย่า” “ท่านฉีกมันทิ้ง พรุ่งนี้ข้าจะเขียนใหม่ หากท่านไม่หย่า ข้าจะหย่ากับท่านเสีย หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรข้าจะหย่ากับท่านให้ได้”
เรื่องย่อ
แม่ทัพโจวหย่งคัง จำใจแต่งงานกับสตรีที่มารดาหาให้ แต่ทว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว เลยจำใจแต่งกับนางเพื่อมิให้มารดาเสียใจ เมื่อมารดาจากไปเขาจึงได้ขอหย่ากับภรรยา เพื่อที่จะแต่งงานกับคนที่เขารัก
หลิวอวี้เหยา จำใจจะต้องแต่งงานเพื่อตอบแทนท่านป้า นางป่วยเป็นโรครุมเร้าอาจจะอยู่ได้ไม่นาน เพื่อตอบแทนบุญคุณของท่านป้า นางจึงได้ตกลงแต่งงาน ภายใต้เงื่อนไขของเขา
พอนางจะหย่าให้เขา แต่เขาก็ไม่อยากจะหย่า เพียงแค่นางท้องลูกของเขา เขาต้องการแค่ลูกมิได้ต้องการนาง มีหรือนางจะยอม หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร นางก็จะหย่ากับเขาให้ได้
ตอนที่ 1 ข้าจะหย่า
ภายในห้องสี่เหลี่ยมหลังขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กของฮูหยินเอก ที่ท่านแม่ทัพแวะมาหานางนับครั้งก็ว่าได้ ยามนี้พวกเขากำลังยืนจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมละสายตาจากกัน
มือเรียวของอวี้เหยาซ่อนหนังสือหย่าเอาไว้ เพราะเขามักจะเอ่ยถึงอยู่เป็นประจำหลังจากที่แม่สามีเสียไปได้สองเดือนกว่า นางและเขามีสัญญาที่ตกลงกันเอาไว้ หากมารดาของเขาจากไปเมื่อไหร่ หลังจากนั้นสามเดือนให้หลังนางจะต้องหย่าขาดจากเขา
นางมีเวลาเก็บของอีกห้าวัน ก็จะถึงวันที่นางจะต้องย้ายออกจากจวนหลังนี้แล้ว บรรดาบ่าวไพร่ในเรือน ต่างก็เสียอกเสียใจกันทั้งนั้น เมื่อฮูหยินจะหย่าร้างกับท่านแม่ทัพ
อวี้เหยามองที่ท้องน้อยแบนราบอย่างขมขื่น ลูกของนางเกิดมาต้องไร้บิดา คงจะมีเพียงนางคนเดียวเท่านั้นที่จะต้องเป็นทั้งบิดา และมารดา คอยดูแลสั่งสอนเขาให้เติบโตและอย่าได้เป็นเหมือนบิดาของเขาอย่างเด็ดขาด
“เมื่อไหร่เจ้าจะลงชื่อ หย่าให้ข้าเสียทีฮูหยิน” เขายืนจ้องตาของนางอย่างไม่ลดละความพยายาม เมื่อเห็นว่านางนั่งลงพลางถอนหายใจไปหลายเฮือก ก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ ยามนี้หากนางออกจากจวนเขาไปจะอยู่อย่างไร บิดา มารดาของนางก็ล้วนไม่ต้อนรับ
ตัวเขาเองเคยให้คำมั่นกับสตรีคนหนึ่งเอาไว้ ว่าเขาจะแต่งงานกับนาง แต่เขาจะต้องผิดคำพูดเพื่อมารดา ครั้นจะแต่งงานกับนางให้มาเป็นภรรยารอง นางมิยินยอมมีเพียงสิ่งเดียวคือหย่ากับนางเพื่อที่จะได้แต่งงานใหม่เสีย
“ได้เจ้าค่ะ ข้าจะลงชื่อให้ท่าน” อวี้เหยามองเขาจนแน่ใจ ในดวงตาของเขานั้นดูท่าจะไม่ลังเลสักนิด ระยะเวลาที่อยู่ร่วมกันมา เขามิเคยรักนางสักนิด ไยนางจะต้องบอกเขาเรื่องเจ้าก้อนแป้งในท้องของนางให้เขารับรู้
หากพูดไปเขาอาจจะว่านางมีข้ออ้างมิยอมหย่าเป็นแน่ บุรุษผู้นี้พูดแล้วมักมิคืนคำ อวี้เหยารู้สึกเสียใจนักที่มอบทั้งใจและกายให้เขา
หวังว่าเขาจะรักนางเข้าสักวันแต่คิดผิดมหันต์ เขามิเคยรักนางและต้องการนางเลยสักครั้ง ความเจ็บปวดรวดร้าวนั้นมันทรมานนัก มันอัดแน่นไปหมด หายใจแทบจะไม่ออก
“ดี เจ้ายอมลงชื่อให้ข้า เช่นนั้นข้าจะแบ่งสมบัติให้เจ้าติดตัวไปเพื่อเอาไว้ตั้งตัว” เขากลัวว่านางจะต้องลำบาก บิดา มารดาเลี้ยงของนางก็ล้วนแล้วแต่ไม่ต้อนรับ หากกลับเข้าไปอยู่ที่สกุลหลิว
ไม่แน่ว่านางอาจจะถูกสองแม่ลูกนั้นเยาะเย้ยถากถางนาง หรือไม่ก็อาจจะส่งตัวอยู่ไปอารามเป็นแน่
“ข้ามิต้องการเจ้าค่ะ เงินสักอีแปะของท่านก็เก็บไว้ให้ว่าที่ฮูหยินของท่านเถิด เดี๋ยวนางจะเสียใจหากรู้ว่าท่านยกทรัพย์สินให้ข้า” แม้ว่าจะเจ็บปวดเจียนตายก็ตาม ดวงตาของนางรื้นแดงเรื่อด้วยความเสียใจ
นางพยายามเก็บกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดทรมานราวกับเข็มนับหมื่นทิ่มแทงนางที่หัวใจ มันแทบกระอักเลือดออกมา เพียงแค่นางอยากจะจากเขาไปแบบไม่มีเยื่อใยต่อกัน และบุญคุณท่วมท้นนางมิต้องการ
“เจ้าจะเก็บของเมื่อไหร่ ข้าจะให้คนไปส่ง” เขาเป็นห่วงนาง เกรงว่าจะลำบากยามขนข้าวของมากมาย
“เก็บความหวังดีของท่านเอาไว้เถิด ข้ามิต้องการมันอีกต่อไป” อวี้เหยารู้สึกวิงเวียนอยากจะอาเจียนเหลือเกิน เขามิยอมออกไปเสียที
อ้วก อ้วก อ้วก อ้วก และนางก็กลั้นไม่ได้รีบหากระโถนอาเจียนเสียยกใหญ่ จากนั้นนางก็หน้าซีดมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูช่างจะเลือนรางเหลือเกิน
นางมองรอบ ๆ บริเวณกลับรู้สึกเหมือนห้องนอนของนางมันกำลังหมุน พลันสติของนางก็ดับวูบพร้อมกับหนังสือหย่าที่นางซ่อนมันเอาไว้หล่นลงพื้น
ท่านแม่ทัพมิได้นิ่งนอนใจเมื่อเห็นว่านางเป็นลมเขารีบประคองนางอย่างทันท่วงที เมื่อครู่นางอาเจียนเขาก็รู้สึกสงสารไม่น้อย หากเขาเป็นแทนนางได้ก็จะดีที่สุด มิใช่ว่ารักแต่ก็ไม่ได้เกลียด
เขาผูกพันกับนางไม่น้อย หากแต่ยามนี้ฝ่ายคนรักของเขาเร่งรัดมา เขาจะต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้ เขาเองที่เป็นคนผิด ผิดตั้งแต่แรกที่เห็นว่านางยอมเจ็บปวด แม้ในใจลึก ๆ รู้ดีว่านางรักเขา แต่เขามิอาจจะรักนางตอบได้
“ไปตามท่านหมอเร็ว นางเป็นอะไร” เขาวางภรรยาลงที่เตียงนอน เห็นใบหน้างดงามซีดเซียวไร้สีเลือดก็อดที่จะสงสารไม่ได้
“ท่านแม่ทัพ ฮูหยินเพียงแค่แพ้ท้องเจ้าค่ะ” สาวใช้ที่คอยรับใช้เอ่ยขึ้น นางยกอ่างน้ำพร้อมกับผ้ามาเช็ดตัวให้เจ้านายที่เพิ่งจะเป็นลม คงเพราะมีเรื่องสะเทือนใจเรื่องเมื่อครู่ สาวใช้ได้ยินเสียงของเจ้านายทั้งสองทะเลาะกันเรื่องหย่าอีกเช่นเคย
“อืม นางแค่แพ้ท้องหรือ แค่นี้ อะ...อะไรนะ นางท้อง” ท่านแม่ทัพตกใจไม่น้อย ไม่คิดว่านางจะตั้งครรภ์ลูกของเขา เหตุใดเรื่องเช่นนี้นางไม่บอกเขาก่อน
“เจ้าค่ะ ฮูหยินท้องได้สามเดือนแล้ว” สาวใช้ยิ้มแห้ง พลางเช็ดมือให้เจ้านายอย่างแผ่วเบากลัวว่านางจะเจ็บเอาได้
“ไม่มีใครรายงานข้า เรื่องสำคัญเช่นนี้ทำไมไม่มีใครรายงาน!!!” เขาตวาดสาวใช้ จนนางตัวสั่นเกือบจะทำผ้าที่เช็ดมือให้ฮูหยินหล่นลงพื้น นางรีบก้มหน้าลงติดพื้นที่เย็นเฉียบ
“ท่านแม่ทัพ ก็ท่านมิสนใจว่าฮูหยินจะเจ็บป่วยประการใด นางป่วยท่านก็ให้ตามหมอ อีกทั้งฮูหยินก็สั่งเอาไว้ว่าจะหาโอกาสดี ๆ บอกท่านเจ้าค่ะ พวกบ่าวก็เลยไม่กล้า” สาวใช้ก็ใจกล้าไม่เบา นางเอ่ยสิ่งที่ได้รับรู้มาทั้งหมด อีกทั้งนายท่านของนางก็มิสนใจว่าฮูหยินจะป่วยเป็นอะไร
หากนางปากโป้ง แน่นอนว่าฮูหยินอาจจะลงโทษพวกนางก็ได้ นางไม่อยากเป็นแบบนั้นก็เลยเงียบปากเอาไว้ดีกว่า สาวใช้ในครัวทุกคนรู้หมด
ท่านแม่ทัพทรุดกายลงนั่งนิ่งที่เก้าอี้ พลางมองฮูหยินที่เป็นลมไม่รู้ว่าตอนนี้เขาดีใจยิ่งนักที่จะมีบุตร อีกทั้งยังเปลี่ยนความคิดเมื่อครู่ที่จะหย่ากับนาง
อวี้เหยารู้สึกตัวค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมานางมองออกไปนอกหน้าต่างก็พบว่าฟ้ามืดแล้ว และรู้สึกหิวขึ้นมากำลังจะเอ่ยเรียกสาวใช้ แต่ต้องสะดุดกับร่างหนาของสามีที่เขานั่งกอดอกแกร่งของเขา
เปลือกตาปิดสนิทลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ เขาหลับหรอกหรือ อวี้เหยาเห็นเช่นนั้น จึงได้เอ่ยเสียงขึ้น
“ท่านแม่ทัพ ท่านแม่ทัพเหตุใดไม่ไปนอนที่เรือนของท่าน” อวี้เหยา ไม่พอใจที่เห็นคนใจร้ายนั่งเฝ้านางที่ข้างเตียงนอน จะมาทำดีอะไรตอนนี้มันสายไปแล้ว นางเจ็บปวดเกินกว่าจะทนได้อีกแล้ว และจะไม่ทนทุกข์ทรมานอีกต่อไป
“ข้าเป็นห่วงเจ้า” เสียงที่อ่อนลง พร้อมกับสายตาที่มีแต่ความห่วงใย พลันทำให้อวี้เหยาขนลุกซู่เขากำลังเล่นงิ้วอันใดให้นางชมกัน คนอย่างเขาหรือจะเป็นห่วงนาง นางคงจะฝันไปกระมัง
“ก็แค่เป็นลม ไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ” อวี้เหยากำลังหาหนังสือหย่าที่นางเตรียมจะมอบให้เขา
“หานี่อยู่หรือ” เขาชูหนังสือหย่าของนางที่ลงชื่อเอาไว้ พลางเขาฉีกมันทิ้งต่อหน้าต่อตาของนาง
อวี้เหยากำลังจะแย่งจากมือ แต่ไม่ทันเสียแล้ว มันขาดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ร่วงหล่นลงที่พื้นอย่างไม่เหลือชิ้นดี นางมองเขาอย่างไม่เชื่อสายตา
“ท่านทำแบบนี้ทำไมกัน” นางรู้สึกเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างที่นางไม่รู้ “ท่านจะหย่า ข้าก็ลงชื่อให้แล้ว ท่านทำแบบนี้เพื่ออะไรเจ้าค่ะ” นางยังสงสัยอยู่เล็กน้อย
“เพื่อลูกของข้า ข้าไม่หย่า” ท่านแม่ทัพตอบหน้าตาเฉย
“ลูก ลูกท่านหรือ ผิดแล้วเจ้าค่ะ เขาเป็นลูกของข้า หาใช่ของท่านไม่” อวี้เหยาโมโหไม่น้อย เขากล้าจะมาฮุบเอาลูกของนางฝันไปเถิด
คนแบบนี้อย่าได้เป็นบิดาของลูกนางเลย พอนางจะหย่าให้เขา แต่เขาก็ไม่อยากจะหย่า เพียงแค่นางท้องลูกของเขา เขาต้องการแค่ลูกมิได้ต้องการนาง
มีหรือนางจะยอม หัวเด็ดตีนขาดอย่างไร นางก็จะหย่ากับเขาให้ได้
“บิดาของเขาสามวันมาพบหน้าข้า เอ่ยเรียกหาแต่หนังสือหย่า อีกสามวันก็เหมือนเดิม ไม่เคยถามไถ่อาการข้า มีแต่เรียกหาหนังสือหย่าเมื่อไหร่ข้าจะลงนามเสียที บัดนี้ข้าตั้งครรภ์ลูกขึ้นมา ก็อ้างว่าจะไม่หย่า” หน้าด้านเกินไปแล้ว อวี้เหยาสบถด่าอยู่ในใจ
“ท่านฉีกมันทิ้ง พรุ่งนี้ข้าจะเขียนใหม่ หากท่านไม่หย่า ข้าจะหย่ากับท่านเสีย หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรข้าจะหย่ากับท่านให้ได้”