บท
ตั้งค่า

บทที่ 20

หลี่ซินเหมยมิรู้ตัวเลยว่าได้ทำให้หัวใจของบุรุษเจ้าสำอางสับสนอย่างหนักเสียแล้ว

“เหตุใดข้าจะต้องสนใจ ว่านางจะเรียกอาเหยียนว่าอย่างไรด้วย เขาแก่กว่านางถึงห้าปี ขานเรียกกันว่าพี่เหยียนก็สมควรแล้วมิใช่หรือ” โจวเล่อเทียนพยายามใช้เหตุผล มิปล่อยให้ตนอารมณ์เสียเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง

เขาล้มเหลวโดยสิ้นเชิง...คุณชายโจวรู้สึกน้อยใจในวาสนาของตนอย่างมาก

ทว่าพอหลี่ซินเหมยวิ่งกลับเข้ามาในบ้าน ความน้อยใจที่แล่นพล่านอยู่ทั่วทั้งอก กลับสงบลงได้อย่างน่าอัศจรรย์!

นางสอบถามกับบ่าวว่าเก็บยาบำรุงของคุณชายไว้ที่ใดและต้องใช้ปริมาณเท่าใดบ้าง โจวเล่อเทียนสังเกตเห็นนางทำหน้าประหลาดใจ หลังจากดมกลิ่นยาสมุนไพรที่ปรุงโดยเถ้าแก่หวังโหย่งเจา แต่ในเมื่อนางมิได้กล่าวอันใด เขาจึงเดาเอาว่าโฉมงามมิค่อยชอบอยู่ใกล้ยาสมุนไพรที่มีกลิ่นแรงนัก

“วันนี้ซินเหมยลองดูสมุดบัญชีและบันทึกต่าง ๆ ให้ชำนาญก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยเริ่มงานจึงจะเหมาะ”

“คุณชายจะให้ข้าทำงานที่ใดหรือเจ้าคะ”

หลี่ซินเหมยมองไปโดยรอบ ให้ทำงานในห้องครัวหรือห้องรับรองแขก ล้วนแต่ไม่เหมาะสม ไม่ต้องพูดถึงห้องนอนของคุณชายที่นางลืมตัวบุกเข้าไปเมื่อวาน การกระทำเช่นนั้นไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง และขัดต่อความเป็นกุลสตรีที่ดีอย่างมาก

“สมุดบัญชีพวกนี้สำคัญมาก คงอนุญาตให้นำออกนอกตัวบ้านไม่ได้” เขารีบหาเหตุผลเพื่อให้นางยอมอยู่ใกล้ ๆ กัน

“ไม่ต้องอธิบายยืดยาว บอกมาว่าต้องทำที่ใดก็พอแล้วเจ้าค่ะ” หลี่ซินเหมยเอ่ยเสียงเรียบ

“ในห้องทำงานของข้า” สตรียิ้มยากกวาดเอาสมุดบัญชีและบันทึกต่าง ๆ ตรงเข้าไปในห้องทำงานหลังจากได้รับคำตอบ

โจวเล่อเทียนถูกนางดุอีกแล้ว

ทว่าวันนี้เขากลับไม่รู้สึกขุ่นข้องหมองใจเลยแม้แต่น้อย...

ข่าวลือเรื่องคุณชายนิยมชมชอบในบุรุษเพศเริ่มมิใช่หัวข้อสนทนาหลัก หลี่ซินเหมยหายตัวเข้าไปทำงานกับคุณชายในบ้านตลอดช่วงเช้าได้ราวสองเดือนเศษแล้ว เหล่าคนสวนต่างก็พากันกล่าวว่าเสียดายความงามของน้องสาวซินเหมย เพราะหากคุณชายพึงพอใจในตัวนางจริง นั่นก็หมายความว่าโฉมงามขวัญใจแปลงผักหลวงคงจะได้คู่ครองที่ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง

นอกจากความร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งในเมืองเฉินหยาง

“พวกเจ้าเงียบปาก! น้องสาวซินเหมยมิใช่สตรีที่จะเลือกเดินในทางสบาย นางก็แค่เข้าไปช่วยทำบัญชีและจดบันทึกตามคำสั่งของคุณชายเท่านั้น”

ติงเกา คนสวนตัวเล็ก ทว่าปากร้ายเสียงดังที่สุดในแปลงผักหลวง คือหนึ่งคนสวนใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาทำงาน ทีแรกหลายคนก็ชิงชังในความปากเสียของเขาอยู่มาก แต่พอได้รู้จักกันนานเข้าก็ไม่คิดถือสาหาความอะไร เพราะนอกจากความปากพล่อยแล้ว ติงเการับผิดชอบงานได้ดีอย่างมาก และไม่ถือโทษจริงจัง หากถูกหัวหน้าคนสวนตักเตือนยามเผลอตัวกระทำความผิด

พี่ชายต่างสายเลือดของหลี่ซินเหมยจึงเบาใจไปได้หลายส่วน ยามได้ยินว่าใครพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับน้องสาวซินเหมย เจ้าคนสวนตัวเล็กก็จะจัดการให้ โดยที่เขาไม่ต้องเสียเวลาลงมือ

อาเหยียนและติงเกายอมญาติดีกัน เพราะโฉมงามหนึ่งเดียวของแปลงผักหลวง...หลี่ซินเหมย

“ซินเหมยมิได้ชอบคุณชายแน่ นางก็แค่ทำตามหน้าที่”

อู๋ฮวนกล่าวขณะขุดดินอย่างขยันขันแข็ง

“ใช่แล้ว นางแค่ทำตามหน้าที่ นางไม่ได้กระทำความผิด”

หูเฉินพยักหน้าเห็นด้วยไม่ต่างกัน

“นางจะรักหรือชอบใครก็มิผิดดอก แต่สตรีสู้งานอย่างนาง ควรจะได้คู่ครองที่ขยันขันแข็งไม่ต่างกัน ส่วนคุณชายนั้น” ติงเกาส่ายหน้า แสดงความห่วงใยต่อน้องสาวซินเหมยอย่างไม่คิดปิดบัง

หลี่ซินเหมยมิใช่คนสวยบาดตาบาดใจ ทว่าพอมองแล้วกลับละสายตาได้ลำบาก ปากนิดจมูกหน่อยนั่นก็น่าทะนุถนอม ดูคล้ายคุณหนูสกุลดังมากกว่าคนสวนธรรมดา

ความน่ารักของนางทำให้ทุกคนนึกเอ็นดู ยิ่งพักหลังโฉมงามเผลอตัวเผยรอยยิ้มอยู่บ่อย ๆ ก็ยิ่งทำให้งานหนักของเหล่าลูกจ้างเบาลงอยู่หลายส่วน

รอยยิ้มของหลี่ซินเหมย ได้เห็นแล้วชื่นใจยิ่งนัก

“พี่เหยียน เมื่อเช้าข้าแวะไปดูดินแถว ๆ บ่อน้ำข้างล่างนั่น เห็นว่าดินถูกย่อยแล้ว พี่เหยียนจะปลูกผักตรงนั้นด้วยหรือ”

หลี่ซินเหมยมิกล้าบอกว่าคุณชายยกพื้นที่บริเวณนั้นให้ปลูกสมุนไพรตามใจชอบ เพราะเกรงว่าจะถูกมองไม่ดี ความจริงนางพยายามหาเวลาฟื้นฟูที่ดินแปลงนั้นตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ทว่าก็ไม่อยากใช้เวลางาน ทำเรื่องส่วนตัวตามใจชอบ ทั้งยังกังวลเรื่องสุขภาพของท่านย่า จนมิกล้ากลับบ้านมืดค่ำ และด้วยเหตุนี้เอง แปลงสมุนไพรของนางจึงยังไม่คืบหน้าไปไหนไกล

“คุณชายบอกว่าเจ้าอยากจะปลูกสมุนไพร แต่ตัวนิดเดียวเรี่ยวแรงมีน้อย คงฟื้นดินบริเวณนั้นเองไม่ได้...” ทว่าอาเหยียนยังมิทันได้อธิบายต่อ ว่าใครเป็นผู้จัดการเรื่องทั้งหมดให้แล้วเสร็จ เขาก็ถูกเจ้าคนสวนตัวเล็กขัดขึ้นเสียก่อน

“หัวหน้าปล่อยให้ข้าพูด! ข้ากับเจ้าทึ่มสองตัวนี่ได้ยินพอดี จึงขันอาสาย่อยดินให้เสียตั้งแต่เช้า น้องสาวจะได้ไม่ต้องเหนื่อยหรือทำมือไม้เป็นแผลพุพองอีก” ติงเการีบกล่าว เพราะกลัวว่าหัวหน้าคนสวนจะช่วงชิงเอาความดีความชอบไปเสียก่อน

“ข้าก็กำลังจะบอกนางว่าพวกเจ้าทั้งสามอาสาจัดการให้ ไม่เห็นจะต้องพูดสอด” อาเหยียนส่ายหน้า ความสัมพันธ์ของเขากับเจ้าคนสวนปากร้ายจะดีขึ้นมาก

ทว่าก็ยังมีเรื่องให้ได้ปวดหัวกันอยู่เรื่อย ๆ

“พวกข้าเกรงว่าหัวหน้าจะพูดเอาความดีเข้าตัว กลัวว่าน้องสาวซินเหมยอาจจะเข้าใจผิด จึงรีบกล่าวกันไว้ก่อนอย่างไรเล่า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel