บทที่ 15
“หายดีแล้วเจ้าค่ะคุณชาย”
ความสุภาพของหลี่ซินเหมยทำให้บุรุษที่ร่างกายมิค่อยแข็งแรงนักรู้สึกประหลาดใจ ก่อนหน้านี้นางพูดจากับเขาเสียงแข็ง ทั้งยังทำหน้าคล้ายรำคาญกันอยู่ตลอดเวลา แล้วเหตุใดวันนี้จึงนึกอยากจะมีมารยาทขึ้นมาได้
“ไม่เห็นหน้าคุณชายหลายวัน สบายดีหรือไม่เจ้าคะ”
หลี่ซินเหมยสอบถามพลางสำรวจทั่วร่างของคนตรงหน้า
ส่วนโจวเล่อเทียนกลับหน้าถอดสี เพราะพอจะเดาได้ถึงสาเหตุที่ทำให้โฉมงามหนึ่งเดียวของแปลงผักหลวง ยอมอ่อนโยนและพูดจาดีกว่าปกติอยู่หลายส่วน
“อาเหยียนคงเล่าให้เจ้าฟังว่าข้าไม่ค่อยแข็งแรง...”
“พี่เหยียนบอกว่ามาคุณชายมิค่อยถูกกับอากาศร้อนเจ้าค่ะ”
“ข้าแค่ไม่ชอบให้ตัวเองมีเหงื่อ” โจวเล่อเทียนมองลงต่ำ พยายามสะกดความไม่พอใจที่เรื่องส่วนตัวถูกเปิดเผย ให้คนที่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่ได้นานได้รับทราบ
“จริงสิเจ้าคะ ข้าตั้งใจว่าจะเข้าไปช่วยงานตามข้อเสนอ ทว่าช่วงเช้าคงต้องขอช่วยทำงานในสวนก่อน และช่วงบ่ายค่อยไปช่วยจัดการเรื่องบัญชีและช่วยเขียนบันทึก เช่นนี้ดีหรือไม่เจ้าคะ”
หลี่ซินเหมยยิ้มเสแสร้งเอาใจคุณชาย
นางทราบดีว่าความหวาดระแวงว่าจะกลับไปเจ็บป่วยสร้างความกังวลให้กับคนไข้มากเพียงใด ความจริงหากท่านพ่อยังอยู่ก็คงจะพอช่วยเหลือ ตรวจสอบอาการหายาบำรุงร่างกายให้ได้อยู่บ้าง
หลี่ซือเฉิน คือหนึ่งในหมอยามากความสามารถที่คนทั่วแดนเหนือเคารพนับถือ หากแต่เหตุการณ์สำคัญบางอย่างทำให้ชื่อเสียงด้านดีเลือนหาย เหลือเพียงถ้อยคำสาปแช่ง ดังตามหลังทุก ๆ ครั้งชื่อของเขาถูกกล่าวถึง
“ซินเหมย ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าเข้าไปทำงานในบ้านแล้ว หากทำสวนมิไหว ก็คอยช่วยเหลือเรื่องบันทึกการเบิกจ่ายและรับของคืน คัดเลือกเมล็ดพันธุ์ ทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปตามเรื่อง ส่วนดินแห้งแข็งพวกนี้ ให้วางถังน้ำที่มีรอยรั่วสักสี่ห้าถังในช่วงเย็น เพราะช่วงเวลานั้นแดดไม่ค่อยแรงมาก น้ำจะค่อย ๆ ซึมลงดิน ได้ผลกว่าการสาดน้ำไร้ทิศทางอย่างที่เจ้าทำอยู่หลายส่วน”
ที่แท้คุณชายลอบออกมาช่วยนางเปลี่ยนดินแห้งแข็งให้มีสภาพที่เหมาะกับการเพาะปลูกพืชสมุนไพร แล้วเหตุใดเขาจึงมิยอมให้นางกลับเข้าไปทำงานด้วยเล่า
“คุณชายจะไปไหนหรือเจ้าคะ” หลี่ซินเหมยรีบวิ่งไปขวาง มิยอมให้คุณชายเดินกลับเข้าในบ้านโดยง่าย
“จะกลับเข้าไปพักแล้ว ไม่อยากอยู่กวนใจผู้ใดอีก” ปลายเสียงของโจวเล่อเทียนตวัดสูง บอกชัดว่ากำลังมิพอใจ
“แล้วเหตุใดจึงเปลี่ยนใจไม่อนุญาตให้ข้าเข้าไปช่วยงานในบ้าน” สตรีที่สูงเพียงแค่อกของคุณชายเจ้าสำอาง เอาตัวเองเข้าขวางคู่สนทนา แสดงท่าทางคุกคามหมายเค้นเอาคำตอบที่อยากจะได้
โจวเล่อเทียนเห็นว่าเนื้อตัวของนางมอมแมมและใบหน้าเปรอะเปื้อนจึงรีบถอยห่าง เพราะเกรงว่าทั้งดินและโคลนจะทำให้เสื้อผ้าราคาแพงสกปรกตามไปด้วย
“ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้าทำตามใจข้าเพราะความสงสาร ข้าไม่ได้น่าสมเพชมากถึงปานนั้น!”
“ไม่นึกว่าคุณชายจะชอบพูดจาไร้สาระ! คุณชายมีอะไรให้ข้าสงสารหรือ งานการก็ไม่ต้องทำ ตากแดดทำสวนหรือก็ไม่ต้อง ซ้ำอาหารก็ยังมีพร้อม โดยที่ไม่ต้องลำบากหากินเองเสียด้วยซ้ำ!”
หลี่ซินเหมยตะโกนเสียงดังพลางขยับตัวเข้าประชิด นึกอยากจะแกล้งคนขี้น้อยใจให้มากสักหน่อย
“นี่เจ้ากล้าตะคอกข้า!” ทว่ายังมิทันจะได้ตวาดต่อ นางก็ชิงเอาพัดในมือของคุณชายมาถือเอาไว้เสียเอง
“ตะคอกแล้วอย่างไรเจ้าคะ!” พอมิได้คำตอบ หลี่ซินเหมยจึงใช้พัดฟาดเข้าที่ต้นแขนของคุณชายอย่างแรง
“สตรีใจร้าย! เหตุเจ้าจึงต้องตีข้าด้วย!” โจวเล่อเทียนลูบแขนตนเบา ๆ มิได้รู้สึกเจ็บ ทว่าตกใจเสียมากกว่า
“หากยังไม่ยอมยืนอยู่นิ่ง ๆ และสนทนากันให้รู้เรื่อง ข้าจะราดตัวคุณชายด้วยปุ๋ยหมักถังนั้น!” หลี่ซินเหมยวางพัด พร้อมกับโปรยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ พลางกรีดนิ้วมือชี้ไปยังถังไม้ที่มีกลิ่นฉุนลอยตลบอบอวล
โจวเล่อเทียนตกใจที่ถูกตะคอกและข่มขู่ เขาถอยหลังราวสามก้าวเพราะถูกสตรีใจร้าย ใช้ความสกปรกบังคับให้ต้องหลบหนี และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง คุณชายเจ้าสำอางก็พลันลื่นตกลงไปในบ่อน้ำใสสะอาด ทว่าเขามิใช่คนเดียวที่ตกลงไปในนั้น
คุณชายเจ้าของแปลงผักคว้าตัวของหลี่ซินเหมยลงไปด้วย...
เสียงน้ำในบ่อแตกกระจาย เพราะสองร่างที่ตกลงไปพร้อมกันมิได้มีน้ำหนักเบา หลี่ซินเหมยสำลักน้ำอยู่ชั่วขณะ เพราะบ่อนั้นลึกจนเกือบจะท่วมศีรษะ นางรู้สึกได้ว่าคุณชายดึงตัวเข้าไปใกล้ และเอวคอดก็ถูกกอดเสียแน่น
เมื่อตั้งสติได้แล้ว หลี่ซินเหมยจึงหยุดดิ้นและยืนนิ่งบนรองเท้าของเพื่อนร่วมชะตากรรม
ใบหน้าของนางและคุณชายห่างกันเพียงเส้นขนตาเดียว...
หลี่ซินเหมยทราบดีว่าตนตกอยู่ในสถานการณ์กระอักกระอ่วนมากเพียงใด นางจึงแกล้งตวาดเสียงดัง ก่อนจะขยับตัวออกห่าง
“ท่านปล่อยข้าเดี๋ยวนี้!” ทว่าขยับตัวเพียงนิดเดียวก็แทบจะจมน้ำ โฉมงามจึงจำยอมให้บุรุษตัวสูงกอดเอวนางไว้แน่น
โจวเล่อเทียนเคลื่อนตัวอย่างเชื่องช้าไปยังทางขึ้นที่อยู่อีกฝั่ง ใบหน้าของเขาแดงจัด บอกได้ยากว่ากำลังป่วยไข้หรือเป็นอะไรแน่
“คอเสื้อของเจ้าจะหลุดแล้ว”
คุณชายเจ้าสำอางรีบเสมองไปทางอื่น ปล่อยให้หลี่ซินเหมยจัดการกระชับคอเสื้อให้เรียบร้อยดังเดิม
“เพราะความไม่รู้จักฟังใครของท่านผู้เดียวที่ทำให้เราตกอยู่ในสภาพไม่น่ามองเช่นนี้!” หลี่ซินเหมยถูกดันตัวขึ้นไปบนพื้นดิน นางอยากจะช่วยคุณชายให้ขึ้นมาบนฝั่ง ทว่าเขากลับไม่ต้องการความช่วยเหลือ และเหวี่ยงตัวเองตามขึ้นมาอย่างคล่องแคล่ว
“เจ้าเป็นผู้คุกคามข้าจนลื่นไถลตกน้ำแท้ ๆ ไยจึงยังกล้าโทษว่าข้าเป็นผู้ผิด” โจวเล่อเทียนมิยอมสบตาขณะโต้แย้ง
“คุณชายนั่นแหละที่ผิด ผิดที่คิดเองเออเองว่าข้าทำตามคำสั่งเพราะความสงสาร เหตุใดจึงไม่คิดบ้าง ว่าข้าอยากจะตอบแทนเรื่องการทำแผล หรือเรื่องที่ฝากให้พี่เหยียนคอยดูแล เหตุใดจึงไม่คิดบ้าง ว่าข้าอยากจะตอบแทนเรื่องที่ท่านยอมแบ่งพื้นที่บริเวณนี้ให้ข้าได้ปลูกสมุนไพรตามใจชอบ คุณชายเจ้าคะ สำหรับซินเหมยแล้ว คุณชายมิได้จัดอยู่ในกลุ่มคนที่น่าสงสารหรอกนะเจ้าคะ เพราะคนที่ลำบากกว่าคุณชายยังมีอีกมาก”
