บท
ตั้งค่า

บทที่ 10

ความจริงแล้วคนสวนทั้งหมดควรจะต้องถูกไล่ออก ทว่าคุณชายโจวเล่อเทียนกลับขอร้องบิดามิให้ทำเช่นนั้น เขาทำเพียงปรับลดค่าจ้างของผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแปลงมะเขือเป็นเวลาสามเดือนแทนการไล่ออก และนั่นทำให้คนสวนเก่าแก่เคารพคุณชายมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ส่วนผู้ที่มาใหม่และยังไม่รู้ถึงความใจกว้างของคุณชายก็มักจะซุบซิบนินทาลับหลัง หากมิใช่เรื่องที่คุณชายทำตัวเป็นลูกแหง่เจ้าสำอาง ก็เป็นเรื่องที่คุณชายนิยมชมชอบในบุรุษเพศ เพราะนอกจากอาเหยียนแล้ว โจวเล่อเทียนก็มิค่อยได้สนทนากับใครอื่น กระทั่งคุณหนูรูปโฉมงดงามแวะมาเยี่ยมเยียน เขาก็ยังทำหน้าตาบึ้งตึงไม่ต้อนรับ

หากมิเกรงใจว่าคุณชายโจวเล่อเทียนคือผู้ตัดสินอนาคตว่าจะได้อยู่ต่อหรือถูกเลิกจ้าง บุรุษคึกคะนองเหล่านั้นก็คงจะกล่าวเสียงดังแล้วว่าคุณชายเป็นพวกต้วนซิ่ว หรือบุรุษที่นิยมในเรื่องการรักร่วมเพศ แต่หากหูยังไม่พิการหรือสมองยังทำงานดีอยู่ แค่การเปรียบเปรยลอย ๆ ว่าเจ้าสำอางไม่ต่างจากสตรีก็ทำให้ผู้ที่ได้รับฟังเข้าใจไปในทางนั้นได้แล้ว

หลี่ซินเหมยได้สัมผัสถึงความเห็นใจที่คุณชายมีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันแล้วก็ให้รู้สึกมิค่อยสบายใจ หากเขาทราบว่าตนถูกกล่าวล้อในแง่ที่ไม่น่าฟังก็คงจะเสียใจอยู่ไม่น้อย และต่อให้คำเล่าลือเรื่องรสนิยมของคุณชายเป็นเรื่องจริง แต่นั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเขามิใช่หรือ

“ไม่ใช่เรื่องของเจ้าสักหน่อย!”

หลี่ซินเหมยดุตนเองที่ปล่อยให้ปัญหาของผู้อื่นมารบกวนจิตใจ ทั้ง ๆ ที่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะไม่แยแสผู้ใด นอกจากท่านย่าและสาวใช้ที่ติดตามนางมาด้วยเท่านั้น

หลี่ซินเหมยเจ็บมามากพอแล้ว...

อากาศในโรงเรือนมิได้ร้อนดั่งยามก้มหลังทำสวนอยู่กลางแจ้ง หลี่ซินเหมยปลดผ้าคลุมหน้าของตนออก ลงมือคัดเลือกเมล็ดพันธุ์อย่างขยันขันแข็ง แปลงผักของสกุลโจวมิใช่แปลงผักธรรมดา ทว่าคือแปลงผักหลวง ทุกกระบวนการย่อมจะต้องได้รับการดูแลโดยละเอียด

เมล็ดพันธุ์จะถูกคัดเอาเฉพาะเมล็ดที่อวบสมบูรณ์ดี หากมีตำหนิเพียงเล็กน้อยก็จะถูกนำไปทิ้ง

หลี่ซินเหมยคัดเลือกเรียบร้อยแล้ว และเตรียมเมล็ดพันธุ์คุณภาพดีเอาไว้สำหรับลงแปลงผักในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ส่วนที่ใช้ไม่ได้ คนสวนใหม่ประจำแปลงผักก็ทิ้งมันไปโดยไม่เหลียวแล ส่วนที่ดูแล้วมีคุณภาพปานกลาง นางได้แยกเอาไว้ต่างหาก เผื่อว่ามีผู้ใดต้องการนำไปใช้ในภายหลัง

‘ถ้ายังพอมีโอกาสเติบโตได้อยู่บ้าง เราก็ไม่จำเป็นต้องทิ้งมันไป ลองรดน้ำพรวนดิน ดูแลให้มากหน่อย ก็ไม่น่าว่าจะออกมาอุดมสมบูรณ์ดีเช่นต้นอื่น ๆ’

คำสอนของบิดายามแนะแนววิธีการปลูกสมุนไพรให้ ยังคงฝังลึกอยู่ในความทรงจำ สมุนไพรชนิดใดใช้น้ำน้อยหรือมาก รดน้ำวันละสามครั้งหรือสามวันครั้งหนึ่ง หลี่ซินเหมยล้วนจำได้ดี ทั้งยังทราบชัดว่าต้นใดหรือเถาใดไร้ซึ่งความหวังที่จะออกมาสมบูรณ์แบบ

นางเคยโอดครวญและจำต้องโค่นตัดสมุนไพรที่ปลูกด้วยสองมือทิ้งอย่างเสียมิได้อยู่หลายครั้ง แต่หลังจากศึกษาเรียนรู้อยู่หลายปี ก็ไม่มีสมุนไพรประเภทใดที่นางปลูกแล้วไม่งอกงามตามลักษณะที่ดีอีก

ขอเพียงเมล็ดพันธุ์ยังไม่แห้งตายไปเสียก่อน การคืนชีวิตให้กับสมุนไพรเหล่านั้น ย่อมไม่เกินความสามารถของหลี่ซินเหมย

แม้ประกาศชัดเจนแล้วว่าจะหันหลังให้กับหนทางที่เคยเลือก ทว่าสุดท้าย โฉมงามสกุลหลี่กลับไปไหนมิรอด นางจำต้องใช้ความสามารถที่มี เพาะปลูกและขายสมุนไพรเพื่อยังชีพของตนและครอบครัวที่เหลืออยู่

โชคร้ายที่บ้านเกิดเมืองนอนรังเกียจคนของสกุลหลี่ถึงขั้นมิยอมรับซื้อสมุนไพรของสาวน้อย ร้านขายยาเมืองใกล้เคียงที่เคยทำการค้าร่วมกันก็มิยอมเปิดประตูรับดังเดิม และเมื่อความลำบากเล่นงานหนักเข้า สาวน้อยมือเย็นจึงจำต้องย้ายถิ่นฐานมาตั้งรกรากในเมืองอื่น

นางหวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดีในเมืองเฉินหยาง

อากาศในโรงเรือนนั้นร้อนอบอ้าวน้อยลงทุกที หลี่ซินเหมยมิทันได้สังเกตว่าตนเองนั้นทำงานล่วงเวลามาได้สักพักแล้ว ดวงตะวันที่เคยแผดเผาเนื้อนวลคล้อยต่ำลง และอีกไม่นานก็คงจะเหลือเพียงแค่ความมืดมิด และดวงดาวบนท้องฟ้ายามราตรี

“คิดอะไรอยู่หรือซินเหมย”

อาเหยียนเอ่ยทัก เขายืนจ้องมองหลี่ซินเหมยอยู่บริเวณประตูมาได้สักพักแล้ว แต่นางกลับจมอยู่ในความคิดของตน จนมิทันสังเกตว่าเขายืนอยู่มิห่างนัก

“คิดถึงเรื่องในอดีต”

นางมัดปากถุงบรรจุเมล็ดพันธุ์อย่างแน่นหนา ก่อนจะยกขึ้นเก็บบนชั้นไม้ตามเดิม

“บางเรื่องก็ไม่ควรคิด” อาเหยียนเอ่ยเตือน แม้จะมิทราบความเป็นมาของนางและครอบครัว แต่ก็พอจะเดาว่าสาวน้อยกำลังรู้สึกมิค่อยสบายใจนัก

“ซินเหมยทราบดี แต่บางครั้งก็อดระลึกถึงมิได้”

นางฝืนยิ้มให้กับอาเหยียน หลายวันมานี้เขาพิสูจน์แล้วว่าเป็นบุรุษที่ไว้ใจได้ หลี่ซินเหมยจึงลดกำแพงความรู้สึกและเริ่มมอบไมตรีตอบกลับตามสมควร

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel