บทที่ 2 การเปลี่ยนแปลงของอดีตนางร้าย Part 1
ซ่างเยว่ทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง ยามนี้เข้าสู่วสันตฤดู อากาศค่อนข้างเหน็บหนาว ใบไม้บานออกดอกอยู่เต็มสวนอุทยาน ให้ความรู้สึกงดงามตระการตาเป็นอย่างยิ่ง
"เฉิงลี่ข้าจะไปเดินเล่น" หญิงสาวเอ่ยกับบ่าวรับใช้คนสนิท
เฉิงลี่จึงรีบนำชุดคลุมตัวยาวสีม่วงทำจากผ้าแพรชั้นดีมาคลุมให้กับเจ้านายเพื่อกันหนาว ซ่างเยว่เดินลงบันไดไปยังสวนอุทยานหลังเรือน มีบ่าวล้อมหน้าล้อมหลังเป็นพรวน
ทุกอย่างดูสวยงามติดแค่ชื่อเสียงของคุณหนูซ่างเยว่ไม่ค่อยดีนัก เพราะถูกมารดาเลี้ยงมาอย่างตามใจ ทำให้นางกลายเป็นคนเอาแต่ใจและร้ายกาจอยู่มาก
ในตอนที่เดินไปถึงบริเวณแปลงดอกตู้เจวียนก็พบกับใครบางคนเข้าอย่างพอดิบพอดี
"คุณหนูซ่างเยว่"
ใบหน้างามดุจหยกซีดเผือด มองคนที่กำลังเดินเข้ามาด้วยแววตาสั่นระริก ตัวสั่นสะท้านไม่ต่างจากลูกนก
ซ่างเยว่มองดรุณีน้อยตรงหน้า นางคือซ่างยู่เหยียน บุตรสาวของบิดาที่เกิดจากอนุหลินนั่นเอง
"ข้าขอโทษเจ้าค่ะ คุณหนูซ่างเยว่ให้อภัยข้าด้วยนะเจ้าคะ ข้าจะไม่เข้ามาที่อุทยานแห่งนี้อีกแล้ว"
ซ่างยู่เหยียนกล่าวคำขอโทษด้วยน้ำตานองหน้า นางรู้ดีว่าซ่างเยว่หวงอุทยานแห่งนี้เป็นอย่างมาก หากไม่ได้รับอนุญาต ห้ามใครเข้ามาเป็นอันขาด
ซ่างเยว่ส่งสายตามองคนที่นั่งร้องไห้อยู่บนพื้นด้วยแววตาอาทร ที่ผ่านมา... นางกับมารดาร้ายกาจกับสองแม่ลูกเป็นอย่างมาก ไม่แปลกใจเลยสักนิดหากพวกนางเกิดความแค้นขึ้น
ซ่างยู่เหยียนเห็นคนที่เป็นพี่สาวต่างบิดายืนเงียบไม่พูดไม่จาก็รู้สึกใจหายวาบ
"ข้าขออภัยคุณหนูซ่างเยว่เจ้าค่ะ ข้าจะลงโทษตนเองบัดเดี๋ยวนี้"
ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรมาก นางรีบสาวเท้าวิ่งไปที่ลำธารในอุทยานที่ถูกขุดขึ้นมาไว้เลี้ยงปลาเงินและปลาทองตัวใหญ่ ก่อนจะกระโดดลงไป ยืนตัวสั่นด้วยความเหน็บหนาว
ซ่างเยว่ถึงกับตะลึงงัน น้ำตาพาลจวนเจียนจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ วิธีการลงโทษเช่นนี้ นางเป็นคนออกคำสั่งให้ซ่างยู่เหยียนกระทำเวลาที่นางต้องการกลั่นแกล้ง จนกระทั่งวันหนึ่งซ่างยู่เหยียนก็เป็นตะคิวจมน้ำตาย โดยที่นางยืนมองอยู่บนสระด้วยแววตาเฉยชา
"ขึ้นมาเถอะ"
ซ่างยู่เหยียนเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ มองซ่างเยว่อย่างตกตะลึง
"ข้าบอกให้ขึ้นมาไงเล่า ยืนแช่น้ำอยู่ตรงนั้นเดี๋ยวก็หนาวตายหรอก พวกเจ้ายืนบื้ออะไรอยู่ รีบไปช่วยคุณหนูเหยียนเอ๋อร์ขึ้นจากสระสิ!"
ประโยคหลังซ่างเยว่หันมาออกคำสั่งกับบรรดาสาวใช้ พวกนางมองหน้ากันด้วยความแปลกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของเจ้านาย แต่ถึงอย่างไรก็ยอมทำตามแต่โดยดี
เมื่อขึ้นมาจากสระได้ ซ่างยู่เหยียนที่นั่งอยู่บนพื้นก็ค่อยๆ เบิกตากว้าง มองชุดคลุมสีม่วงที่ถูกวางลงไหล่บางด้วยความแปลกใจ
"เหน็บหนาวมากใช่หรือไม่ เจ้ารีบกลับเรือนไปเถิด ประเดี๋ยวจะเป็นหวัดเสียก่อน"
"เจ้าค่ะ ชุดคลุมของคุณหนู ข้าจะรีบซักมาคืนให้นะเจ้าคะ" ซ่างยู่เหยียนกล่าวด้วยความระมัดระวัง เกรงว่าจะทำให้ซ่างเยว่เกิดความไม่พอใจ
"ไม่ต้องหรอก เจ้ากับข้าไม่ใช่คนอื่นคนไกล เป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกันแท้ๆ ข้ายกมันให้เจ้าไว้ใช้ก็แล้วกัน"
ซ่างเยว่เอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม รู้สึกสงสารน้องสาวผู้นี้ไม่น้อย มารดาของนางเป็นอนุของซ่างจินหลงก็จริงอยู่ แต่ทว่านางไม่ได้รับความโปรดปรานใดๆ หนำซ้ำยังถูกป๋ายเยว่หลันมารดาของนางขับไล่ไปอยู่เรือนเล็กท้ายจวน
"ขอบคุณคุณหนูมากเจ้าค่ะ" เอ่ยจบ ซ่างยู่เหยียนก็ก้มหน้ารีบสาวเท้าเดินจากไป
"คุณหนูมีแผนการอะไรหรือเจ้าคะ" เฉิงลี่หันมาถามเจ้านายสาวด้วยความแปลกใจ นางใจดีผิดวิสัยเช่นนี้ คงมีแผนกลั่นแกล้งซ่างยู่เหยียนในใจเป็นแน่
"แผนอะไรของเจ้าเฉิงลี่ ข้าไม่มีหรอก พี่สาวอย่างข้าจะเป็นห่วงน้องสาวไม่ได้หรืออย่างไร"
ซ่างเยว่กล่าวจบก็เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมาหาบรรดาสาวใช้ที่ยืนก้มหน้ารายล้อมอยู่อย่างนอบน้อม
"พวกเจ้าก็เหมือนกัน หากต่อไปนี้ข้ารู้ว่าใครกลั่นแกล้งนางอีก ข้าจะสั่งโบยสามสิบที และนำเกลือมาทาแผล ให้นอนปวดแสบปวดร้อนจนทนไม่ไหวเลยคอยดูสิ" หญิงสาวกล่าวเสียงเรียบ จากนั้นก็เดินจากไป วาจาของนางสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคน
เห็นทีว่าคุณหนูซ่างเยว่ผู้แสนร้ายกาจจะเปลี่ยนไปเสียแล้วสิ