บทที่ 1 ภพชาติก่อนอันซับซ้อน Part 2
"หากเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ต้องหาตัวเจ้าจนพบ หนทางเดียวที่จะทำให้คุณชายเฉินตัดใจจากเจ้าได้คือเจ้าต้องจากตาย"
องค์หญิงจิ้งผิงแสยะยิ้มกว้าง ก่อนจะหยิบกริชสีเงินที่เหน็บอยู่ตรงเอวออกมา
"มะ... ไม่" ซ่างเยว่ส่ายศีรษะทั้งน้ำตา ลุกขึ้นหมายจะวิ่งหนีไป แต่ชายชุดดำกลับเดินเข้ามาจับแขนของนางเอาไว้
"ให้อภัยข้าด้วยนะซ่างเยว่ ข้าจำเป็นต้องทำจริงๆ"
ฉึ่ก!
"อึ่ก!"
ซ่างเยว่ก้มมองกริชสีเงินวาววับที่ปักลงบนอกซ้ายของตน ความเจ็บปวดแล่นปรี่ขึ้นมา โลหิตสีแดงฉานอาบไล้แทรกซึมเข้าไปในเสื้อ
ร่างบางค่อยๆ ล้มลงกับพื้น กระอักโลหิตออกมาจากปาก ส่งสายตามององค์หญิงจิ้งผิงที่ยืนมองผลงานของตนด้วยใบหน้าสงบนิ่ง
ไม่ยุติธรรม! ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ ข้าโดนฆ่าตายอย่างน่าอเนจอนาถเช่นนี้ แต่คนที่เป็นผู้กระทำกลับจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขต่อไป...
สวรรค์ไร้ความเมตตาต่อข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ!
ในห้วงสุดท้ายของลมหายใจ หยดน้ำใสค่อยๆ ไหลรินออกมาจากดวงตา ก่อนที่ทุกอย่างจะหยุดนิ่งลงรวมถึงก้อนเนื้ออกข้างซ้ายของซ่างเยว่ด้วยเช่นกัน
"คุณหนู... คุณหนูเจ้าคะ"
"อืม..." ในความฝันอันเลือนราง หญิงสาวร่างบางเหมือนได้ยินเสียงใครบางคนเรียกอยู่
"คุณหนูตื่นเถิดเจ้าค่ะ"
"..."
"คุณหนู!" เฉิงลี่ใช้มือเขย่าแขนของเจ้านายสาว ไม่นานร่างบางที่นอนอยู่ก็ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว
"เฉิงลี่ เจ้ายังไม่ตายหรือ!" ซ่างเยว่กวาดตามองไปทั่วร่างของสาวใช้อย่างตกตะลึง จะเป็นไปได้อย่างไรกัน หรือว่าที่นี่จะเป็นโลกของวิญญาณกันนะ
"เหตุใดคุณหนูถึงแช่งข้าเช่นนั้นล่ะเจ้าคะ"
เฉิงลี่ถามด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด พลางยื่นปากออกมาเบาๆ ด้วยความน้อยใจ
"ข้าไม่ได้แช่ง แต่เจ้ากับข้าตายไปแล้วจริงๆ นะ ข้าเห็นกับตา เจ้าโดนคนร้ายบีบคอ ส่วนข้าโดนกริชแทง"
"คุณหนูคงฝันร้ายกระมังเจ้าคะ ไม่เอาไม่พูดเรื่องตายกันดีกว่า คุณหนูรีบลุกขึ้นมาเถิดเจ้าค่ะ ป่านนี้ท่านเสนาบดีกับฮูหยินใหญ่คงรออยู่นานแล้ว"
"เจ้าหมายถึงท่านพ่อกับท่านแม่ของข้าเช่นนั้นหรือ"
"ใช่เจ้าค่ะ" เฉิงลี่พยักหน้าหงึกหงัก เอียงคอมองเจ้านายสาวด้วยความแปลกใจ วันนี้คุณหนูของนางเป็นอะไรกันหนอ เหตุใดถึงพูดจาแปลกๆ ผิดวิสัยเช่นนี้เล่า
หลังจากได้ยินวาจาของเฉิงลี่ หัวใจดวงเล็กก็สั่นคลอนขึ้นมาอย่างรุนแรง ไม่รอช้านางรีบลุกพรวดพราดขึ้นวิ่งเข้าห้องอาบน้ำไปอย่างรวดเร็ว
"คุณหนูอย่าวิ่งสิเจ้าคะ เดี๋ยวก็หกล้มหรอก"
เฉิงลี่เอ่ยเตือน รีบวิ่งไปคว้าอาภรณ์ของซ่างเยว่ตามเข้าไปในห้องอาบน้ำ
ภาพของบิดามารดาที่นั่งอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันทำให้ใบหน้าหวานระบายยิ้มกว้างด้วยความดีใจ เรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ซ่างเยว่ตระหนักได้ว่ามันคือความจริงหาใช่ความฝันไม่
"เยว่เอ๋อร์ ยืนนิ่งทำไมกันเล่า รีบมานั่งลงเร็วเข้า" ป๋ายเยว่หลันเรียกชื่อบุตรสาวอย่างเร่งเร้า พลางลอบมองหน้าสามีที่นั่งหน้าขรึมด้วยความเกรงใจ
ซ่างเยว่ไม่รอช้ารีบเดินมานั่งลงข้างๆ มารดาทันที
"มากันครบแล้วก็ลงมือทานข้าวกันเถอะ" ซ่างจินหลงเอ่ยขึ้น ก่อนจะตักหน่ออ่อนดอกมู่หลันใส่ถ้วยให้ภรรยากับบุตรสาวคนละชิ้น
ซ่างเยว่เห็นรอยยิ้มของมารดาก็รู้สึกสุขใจเป็นอย่างมาก ซ่างจินหลงบิดาของนางเป็นคนเข้มงวดและจริงจัง นางจำได้ดีว่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนี้ เกิดขึ้นในตอนที่นางอายุสิบหกปี ก่อนที่อีกไม่นาน มารดาของนางจะถูกใส่ร้ายว่าคบชู้ จากนั้นชีวิตครอบครัวอันแสนอบอุ่นก็พังลง หนึ่งปีหลังจากนั้นซ่างจินหลงก็ต้องโทษประหาร มารู้ภายหลังว่าโดนใส่ร้ายโดยอนุหลินก็สายไปเสียแล้ว ความเคียดแค้นของนางทำให้นางกล้าลงมือแม้กระทั่งกับสามีของตนเอง
ข่าวเรื่องป๋ายเยว่หลันคบชู้เป็นความลับอันใหญ่หลวงของคนสกุลซ่าง แม้กระทั่งเว่ยเซียวก็ยังไม่รู้ ทว่าซ่างเยว่มั่นใจว่ามารดาของนางไม่ได้ทำเช่นนั้น คนที่อยู่เบื้องหลังคือหลินหลานตี้ อนุของบิดาของนางอีกเช่นกัน
นางคงจะแค้นใจที่ป๋ายเยว่หลันคอยกลั่นแกล้งรังแกนางกับลูกสารพัด จึงหาเรื่องใส่ร้ายป๋ายเยว่หลันเช่นนี้
เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซ่างเยว่ก็ได้แต่ทอดถอนหายใจออกมาเบาๆ ในเมื่อได้รับโอกาสให้มีชีวิตใหม่อีกรอบ นางจะขอแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต เพื่อให้เรื่องราวไม่จบลงตามเดิม!