ศักดิ์สิทธิ์
อวี้เสวี่ยหนิงก้าวออกมาจากศาลเจ้า ใบหน้าฉายแววสงสัยมากกว่าศรัทธา นางไม่เคยเชื่อในเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ความรู้สึกที่ไหลเวียนในร่างกายนี้ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะลองดู
หญิงสาวจึงลองหลับตาลง พึมพำคำขอฝนในใจ คิดเสียว่าเป็นแค่การทดลองเล่นๆ แล้วแหงนหน้ามองท้องฟ้าอย่างท้าทาย
ทันใดนั้น ฝนเม็ดเล็กก็เริ่มโปรยปราย จากนั้นเม็ดฝนก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นสายฝนที่ตกลงมาห่าใหญ่
อวี้เสวี่ยหนิงยืนอึ้ง มองฝนที่ตกลงมาอย่างไม่อยากเชื่อ นางยิ้มกว้างขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะหัวเราะอย่างดีใจ กระโดดโลดเต้นกลางสายฝน ความสุขนั้นทำให้นางลืมทุกสิ่ง
นางรู้เพียงว่าตอนนี้ เมืองไป๋หลินของบิดาจะได้รับกับสายฝนสมดั่งใจของชาวบ้าน
ในมุมเงามืดที่ห่างออกไป ม่อหลี่มองดูอวี้เสวี่ยหนิงจากที่ซ่อน ใบหน้ายิ้มแสยะขณะมองดูหญิงสาวที่กระโดดโลดเต้นกลางสายฝน ดวงตาของม่อหลี่จับจ้องด้วยแววลึกลับ
“ข้าว่าแล้วว่ามีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ฝ่าอาคมของคนผู้นั้นและนำของสิ่งนั้นออกมาได้ สืออิ่ง”
หลงอวี่และไห่เฟิงก้าวเข้าสู่ศาลเจ้าหลงซานที่ยังคงเงียบงัน ภายในศาลเจ้าที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายของอาคมเก่าแก่และพลังที่เริ่มจะร่วงโรย
ดวงตาเย็นชาของมังกรหนุ่มผู้เป็นเจ้าของศาลเจ้าสอดส่องรอบด้าน แม้ภายนอกจะดูสุขุมแต่ภายในกลับเต็มไปด้วยความร้อนรุ่มที่ยากจะปิดบัง
ไห่เฟิงที่เดินเคียงข้างกลับแสดงออกชัดเจนถึงความกังวล ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความร้อนใจ ต่าง
“ที่นี่เป็นเขตต้องห้าม ไม่มีใครกล้าเข้ามานอกจากข้า แล้วเหตุใดอาคมจึงถูกฝ่าเข้ามาได้…” หลงอวี่พึมพำกับตัวเอง สีหน้าแปรเปลี่ยนไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะแข็งกร้าวอีกครั้ง
เขาหยุดเท้าลงชั่วครู่ ขบคิดถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ คำถามที่ซ่อนอยู่ในใจเริ่มตีรวน
“หรือจะเป็นนาง?”
พลันนึกถึงใครบางคนที่เคยเดินเคียงข้างเขาเมื่อเวลานานมาแล้ว แต่นางก็จากไปไกลแสนไกลจนเขาคิดว่าคงไม่อาจหวนกลับมาได้อีก ความคิดถึงและเสียใจแผ่ซ่านผ่านใบหน้าที่นิ่งเฉย
ไห่เฟิงขมวดคิ้ว มองไปยังฐานที่ว่างเปล่าอย่างไม่เชื่อสายตา "เจ้าแน่ใจนะว่าหินก้อนนั้นหายไป เป็นไปได้อย่างไร ในที่แห่งนี้?"
“มันหายไปจริง ๆ ข้าไม่อาจรับรู้ถึงพลังของมันอีกแล้ว…” มังกรหนุ่มพูดพลางยกรูปปั้นมังกรของเขาขึ้นมาตรวจสอบ และเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้
แม้ไห่เฟิงจะรู้สึกตกใจ แต่ก็ไม่คิดแม้แต่วินาทีเดียวที่จะละทิ้งสหายสนิทของเขา
“ข้าจะช่วยเจ้าเอง เราจะหาหินนั้นกลับคืนมาให้ได้ ไม่ว่ามันจะอยู่ที่ใด”
หลงอวี่ยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณ แต่แววตายังคงจับจ้องไปยังเส้นทางที่ทอดลึกเข้าไปในศาลเจ้า พลันร่างของเขาก็หมุนตัวออกเดินต่อไป โดยมีไห่เฟิงเดินเคียงข้าง เสียงฝีเท้าก้องกังวานในความเงียบ ยิ่งทำให้บรรยากาศโดยรอบตึงเครียดยิ่งขึ้น
หลังจากภัยแล้งอันยาวนาน ในที่สุดฝนก็โปรยปรายลงมา อวี้เสวี่ยหนิงกลับมาถึงเมืองไป๋หลินท่ามกลางความชุ่มฉ่ำของสายฝน ชายชราผู้เคยท้าทายนางให้ไปที่ศาลเจ้าหลงซานยืนอยู่ท่ามกลางกลุ่มชาวบ้าน ใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ เขาเปล่งเสียงดังออกมาอย่างตื่นเต้นจนดังไปทั่วหมู่บ้าน
“เห็นหรือไม่ ข้าเคยบอกแล้วว่าศาลเจ้าหลงซานศักดิ์สิทธิ์เพียงใด นางไปขอพรแล้วฝนก็ตกจริงๆ อย่างที่พวกเจ้าทุกคนเห็น!”
ชาวบ้านหันไปมองชายชรา บ้างก็พยักหน้ารับคำพูดอย่างเชื่อถือ บางคนแม้จะยังไม่แน่ใจ แต่เมื่อเห็นว่าฝนตกลงมาหลังจากการเดินทางของอวี้เสวี่ยหนิง ทุกคนก็เริ่มพูดคุยถึงความศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้า
เสียงกระซิบเกี่ยวกับอำนาจลึกลับและการขอพรของอวี้เสวี่ยหนิงที่ศาลเจ้าหลงซานนั้นค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วหมู่บ้าน