เป็นเจ้านี่เอง
ผู้คนต่างหันมามองนางด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป บางคนเต็มไปด้วยความชื่นชม ขณะที่บางคนยังคงมีแววสงสัย ทว่าทุกคนต่างตระหนักว่านางอาจมีส่วนสำคัญที่ทำให้ฝนตกลงมาหลังจากช่วงเวลาแห่งความแห้งแล้งที่ยาวนาน
พวกเขาพากันนำถังและโอ่งออกมาเก็บน้ำฝนเพื่อตุนไว้ แต่ทว่าดินที่แห้งแตกจากความแห้งแล้งนั้นกลับทำให้น้ำซึมลงสู่พื้นดินอย่างรวดเร็ว และน้ำที่กักไว้ได้ก็น้อยเกินไปกว่าที่พวกเขาหวัง
อวี้เสวี่ยหนิงยืนดูห่างๆ เห็นชาวบ้านพยายามกักเก็บน้ำอย่างสุดความสามารถ แต่ก็ดูจะไม่ประสบความสำเร็จนัก
นางขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เชื่อว่าการขอฝนนั้นจะเป็นคำตอบที่ยั่งยืนสำหรับหมู่บ้าน ด้วยหญิงสาวนั้นไม่เคยศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และมองว่าเรื่องนี้เป็นเพียงโชคหรือความบังเอิญเท่านั้น แต่เมื่อเห็นชาวบ้านประสบปัญหาจากการที่น้ำไหลซึมลงพื้นอย่างรวดเร็ว นางจึงตัดสินใจลงมือช่วยเหลือทันที
อวี้เสวี่ยหนิงก้มหน้าก้มตาช่วยชาวบ้านจัดเรียงไม้และวัสดุที่หามาได้เพื่อสร้างรางน้ำและบ่อเก็บน้ำชั่วคราว
"ถ้าอยากเก็บน้ำให้ได้มากที่สุด พวกเราทุกคนต้องสร้างรางน้ำแบบนี้"
นางพูดพร้อมแสดงวิธีการจัดวางไม้เพื่อระบายน้ำฝนเข้าสู่บ่อชั่วคราวที่เพิ่งขุด
"แล้วเอาโอ่งมาตั้งตรงนี้ น้ำฝนจะได้เก็บไว้ใช้ได้มากขึ้น ไม่อย่างนั้นก็จะซึมลงดินหมด"
ชาวบ้านหลายคนตั้งใจฟัง พยักหน้าและลงมือทำตามอย่างขะมักเขม้น แม้บางคนยังคงระแวงในพฤติกรรมที่มักก่อปัญหาของอวี้เสวี่ยหนิง แต่ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าทำให้หลายคนเริ่มรู้สึกถึงความตั้งใจดีของนาง
“เจ้าดูสิ นางตั้งใจจะช่วยเราจริง ๆ” ชายชราคนหนึ่งกระซิบกับหญิงข้าง ๆ ซึ่งพยักหน้าเห็นด้วย
“ไม่เลวเลยนะ ครั้งนี้บุตรสาวของเจ้าเมืองนั้นทำให้พวกเราประทับใจมาก”
ในขณะเดียวกันนั้นเองนักพรตผู้หนึ่งกลับปรากฏตัวขึ้นในเมืองด้วยท่าทีลึกลับ เขาก้าวเดินอย่างเงียบเชียบ แววตาคมมองไปรอบๆ ราวกับจับสังเกตทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองนี้
เขาหยุดยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ มองฝนที่ตกหนักบ้างเบาบ้างอย่างผิดธรรมชาติ ดวงตาของเขาเปี่ยมด้วยความสงสัยจากสายฝนที่ตกลงมาอย่างแปรปรวน ใบหน้าแสดงถึงความคิดลึกซึ้งที่ยากจะคาดเดา
สายฝนที่บางคราวตกหนักราวกับเทกระหน่ำ บางคราวหยอกล้อด้วยละอองเบา ทำให้เขารู้สึกคล้ายกับว่ามันสะท้อนอารมณ์ของบางสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ เขาไม่ได้กล่าวอะไรออกมาเพียงแค่เฝ้าสังเกตต่อไปอย่างเงียบๆ
เส้นผมยาวเส้นผมยาวสีดำขลับดุจน้ำหมึกของนักพรตพลิ้วไหวตามลม ดวงหน้าคมคายสะท้อนความงดงามเหนือมนุษย์ ดวงตาสีนิลแฝงแววลึกลับราวกับมองทะลุจิตใจผู้สบตา ชุดคลุมสีขาวแต่งลายทองละเอียดสะท้อนแสงเพิ่มความโดดเด่นและพลังลึกลับที่ยากจะละสายตา
เมื่อนักพรตหนุ่มคนนั้นก้าวเข้ามาใกล้กลับกลุ่มชาวบ้านที่กำลังซุบซิบ ชื่อของอวี้เสวี่ยหนิงแว่วขึ้นมาในบทสนทนา แต่พอชาวบ้านสังเกตเห็นว่านักพรตกำลังมองตรงมาทางพวกเขา...เสียงพูดคุยก็เงียบลงทันที ราวกับทุกคนเกรงว่าเขาจะรับรู้ถึงสิ่งที่พวกตนกำลังสนทนากัน
“อวี้เสวี่ยหนิง? เป็นเจ้านี่เอง”