บท
ตั้งค่า

จังหวะจะรัก (4)

“วันนั้นน่าจะขอเบอร์เขาไว้”

“รอบที่เท่าไรแล้ว” นายิกาละสายตาจากกระดานมามองเพื่อนสนิท ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ “แกพูดประโยคนี้บ่อยจนอยากซื้อไปเผาทิ้ง”

หลังจากวันนั้นก็ไม่มีความบังเอิญเกิดขึ้นอีกเลย เวลาก็เดินไปข้างหน้าเรื่อย ๆ แต่ก็อีกปีกว่าเห็นจะได้ที่เธอจะจบมัธยม ป่านนั้นพี่เขาอาจจะเรียนจบไปแล้วก็ได้ จากนั้นเขาก็ไปทำงานที่อื่น โอกาสจะได้เจออีกนั้นดูไม่มีวี่แววเลยสักนิด ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายจริง ๆ ที่ดันทิ้งโอกาสทองของตัวเองไป และการที่เอาแต่คิดเรื่องของเขาแต่กลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอีกฝ่ายเลยมันก็ทรมานใช่เล่น

เหมือนใจเธอยังติดอยู่ที่บางแสนและยากที่จะเอากลับคืนมา

ชีวิตของเธอนั้นมีเรื่องที่ยังหาคำตอบไม่ได้เยอะเกินไป ทั้งเรื่องแม่ ตาและยาย ไหนยังมีตัวละครใหม่โผล่มามีอิทธิพลกับหัวใจอีก มีถึงขนาดที่เธอสามารถตกลงปลงใจกับตัวเองได้ในทันทีว่าจะเรียนต่อที่เดียวกับเขา

ความรักนี่มันมีอำนาจมากจริง ๆ แต่บางทีก็ดูไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย ก็แค่คนที่เดินตัดหน้ากล้อง แค่คนที่เคยเข้ามาช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ตกอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบาก แค่นั้นเอง ทำไมมันถึงทำให้เธอเป็นได้ขนาดนี้นะ น่ากลัวจังแฮะ

หลังจากกลับมาถึงบ้านก็เดินเข้าห้องนอนก่อนจะออกมาพร้อมกับกระดาษหนึ่งใบ แล้วถือมันตรงไปยังห้องนอนของพ่อ เคาะประตูด้วยเสียงที่ไม่ดังนักแต่ก็ไม่มีใครมาเปิดให้ จึงเลื่อนมือไปจับที่ลูกบิดแทนเพราะเห็นว่ารถพ่อจอดอยู่ในโรงรถแล้ว แต่ไม่ยักจะเห็นพ่ออยู่ที่ชั้นล่างเหมือนกับคนอื่น ๆ ในบ้าน เมื่อหมุนลูกบิดดูก็พบว่ามันไม่ได้ล็อก จึงเปิดเข้าไปก่อนจะพบว่าท่านนั่งอ่านอะไรบางอย่างอยู่ที่โต๊ะทำงาน เธอยิ้มอย่างรู้สึกโล่งอกเพราะความคิดแรกที่ไม่มีใครเปิดประตูออกมานั้น เผลอคิดไปว่าบางทีบิดาอาจจะล้มหมดสติก็เป็นได้ แต่พอมาเห็นอย่างนี้แล้วก็รู้สึกเบาใจเป็นอย่างมาก

“พ่อ ว่างหรือ-” ยังพูดไม่ทันขาดคำชายวัยกลางคนก็สะดุ้งตัว ก่อนจะรีบเก็บสิ่งที่ตนอ่านอยู่เข้าไปใส่ในลิ้นชัก ท่าทีของอีกฝ่ายทำให้เด็กสาวนึกสงสัยว่ามันคืออะไร ทำไมเขาถึงมีปฏิกิริยาเช่นนั้น แต่ก็ไม่กล้าถามออกไปตรง ๆ แล้วเลือกที่จะส่งกระดาษในมือไปให้แทน “อีกสองสัปดาห์จะมีทัศนศึกษา อันนี้ใบขออนุญาต”

“อ้อ งั้นรอแป๊บหนึ่ง” เธอยืนรออยู่ที่เดิมและไม่ลืมลอบสังเกตอาการของอีกฝ่ายด้วย เหงื่อผุดอยู่ที่บริเวณกรอบหน้าทั้ง ๆ ที่ห้องนี้ก็มีเครื่องปรับอากาศ นั่นยิ่งกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้น แต่ก็พยายามไม่แสดงมันออกมา กลับทำเหมือนว่าตนไม่ได้นึกสนใจสิ่งที่บิดาเพิ่งเก็บเข้าลิ้นชักเมื่อสักครู่นี้ “ปีนี้ไปอยุธยาเหรอ”

“ใช่ ก็ไปดูพวกโบราณสถานอะไรทำนองนั้น”

“สวยนะ ไปก็ตั้งใจศึกษาด้วยล่ะ แล้วช่วงนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไง”

“เรื่อย ๆ”

“อืม มีปัญหาอะไรก็บอกพ่อได้เสมอ รู้ใช่ไหม” มัทรีพยักหน้าที่ประดับรอยยิ้มให้คู่สนทนา “พ่อรู้ว่าแม่ใหญ่กับย่าไม่ได้เอ็นดูลูก แต่ลูกอย่ารู้สึกว่าตัวเองไม่มีใคร ยังมีพ่อ ปู่ แล้วก็น้อง ๆ อีก”

“แล้วตากับยายล่ะ” ชายวัยกลางคนเงียบไปทันที “พูดตรง ๆ ว่าหนูไม่เชื่อว่าพ่อจะไม่รู้จัก พ่อแค่ไม่บอกหนู”

“ไม่ พ่อไม่รู้จักตากับยายของลูกจริง ๆ”

พ่อคือคนที่ดีกับเธอมาก ๆ แน่นอนว่าเธอรักพ่อและที่ผ่านมาก็เชื่อฟังเป็นอย่างดี บอกอะไรก็เชื่อ คงมีแค่เรื่องนี้นี่แหละที่แคลงใจเพราะมันดูเป็นไปไม่ได้จริง ๆ ที่พ่อจะไม่รู้จักพ่อแม่ของภรรยาตัวเอง และที่ยังสงสัยอยู่ก็คือมีเหตุผลอะไรทำไมถึงปิดบังไม่ให้เธอได้รู้จักพวกท่าน

“ถ้ารู้ก็อยากจะไปขอโทษเหมือนกัน”

“พ่อนี่ก็น้า อยู่ ๆ ก็ดึงดรามาเฉย หนูไปดีกว่า”

มือบางคว้ากระดาษที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมาถือไว้แล้วเดินออกไปนอกห้อง ถ้าบิดาไม่พูดเรื่องความโดดเดี่ยวของเธอ เธอก็คงไม่โยงไปถึงเรื่องญาติผู้ใหญ่ฝั่งแม่ให้ต้องหงุดหงิดเปล่า ๆ ยิ่งโตเธอก็ยิ่งมีความคิดเป็นของตัวเอง เริ่มคิดในเรื่องที่ไม่เคยสนใจ เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองมากขึ้น และมันก็ไม่ค่อยจะได้รับคำตอบอย่างที่ใจต้องการ กลับกัน คำถามเริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่หาคำตอบไม่ได้สักอย่าง ล่าสุดคือสิ่งที่อยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของพ่อ มันคืออะไรกัน

“เจ๊ ม.ห้าไปอยุธยาเหรอ” พอลงมาด้านล่างก็เจอกับน้องชายที่นั่งดูโทรทัศน์อยู่ มัทรีเดินไปทิ้งตัวนั่งข้าง ๆ พลางพยักหน้ารับ ก่อนจะถามกลับว่าชั้นของน้องได้ไปที่ไหน “ชลบุรี”

คำตอบนั้นทำให้เธอหันไปมองจนน้องเองยังตกใจ และเธอก็ตกใจไม่ต่างกันกับปฏิกิริยาแบบนี้ของตน พอได้สติก็หันกลับมาทางเดิมแล้วจ้องมองไปยังหน้าจอโทรทัศน์ที่บัดนี้มีซิทคอมออกอากาศอยู่ ทว่าก็ไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด ภายในหัวยังเอาแต่คิดถึงภาพของเขา

เธอเคยเตือนตัวเองว่าต้องเลิกคิดเรื่องของเขาได้แล้ว แต่อีกใจก็ค้านว่าถ้าไม่คิดถึงบ่อย ๆ เกรงว่าความทรงจำนั้นจะถูกลบไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นจริง ผลลัพธ์เลยเป็นอย่างทุกวันนี้

“ทำไม ไปชลแล้วมันทำไม”

“เปล่า”

ภาสกรไหวไหล่ “จริง ๆ ไม่ค่อยอยากไปเท่าไร อยากไปที่อื่นมากกว่า” เด็กหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ในใจเธอนั้นรู้สึกว่าทั้งคู่น่าจะสลับกัน ให้น้องไปอยุธยา แล้วเธอจะไปที่จังหวัดนั้นเอง “ชลบุรีมีอะไรดี”

“มี เชื่อเจ๊เถอะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel