ช่วงเวลาแห่งความตาย
ผ่านมาราว ๆ 1 สัปดาห์ เสิ่นอ้ายฉิงยังคงถูกบอยคอตจากครอบครัวไม่ว่าเธอใช้วิธีการใด คนในบ้านก็ไม่สนใจเธอแม้แต่คนเดียว รวมถึงคนรับใช้ในบ้านด้วยเช่นกัน
หญิงสาวเดินผ่านห้องอาหารซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดศูนย์รวมของคนในบ้าน และวันนี้ไม่มีเธอเป็นส่วนร่วมในนั้น ทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เสิ่นอ้ายฉิงยืนเงียบอยู่หลังประตูบานใหญ่ เธอเห็นแววตามีความสุขของทุกคนในครอบครัว สายตาของเสิ่นเฟยหมิงยามมองเสิ่นอ้ายเหรินก็ดูอ่อนโยนแตกต่างจากสายตาที่เขามองเธอ
คุณพ่อ คุณแม่ ก็มีสีหน้ามีความสุข ยิ้มแย้มพูดคุยกันสนุกสนาน
ช่วงปีก่อนที่เสิ่นอ้ายเหรินจะหายตัวไป เธอจำได้ว่าวันเกิดของเธอและเสิ่นอ้ายเหรินห่างกันเพียงวันเดียว คนในครอบครัวมักจะรวบวันเกิดของเด็กทั้งคู่เป็นวันเดียวกัน เหตุผลเพียงเพราะว่าไม่อยากจัดหลายวันติดกัน
และทุกครั้งพวกเขาจะใช้วันเกิดของเสิ่นอ้ายเหรินเป็นวันจัดงาน มีอยู่ปีหนึ่งเธอร้องขอให้คุณพ่อคุณแม่จัดงานให้ตรงกับวันเกิดของเธอ พวกท่านรับปากแต่สุดท้ายก็จัดงานตรงกับวันเกิดของเสิ่นอ้ายเหรินทุกครั้งไป เสิ่นอ้ายเหรินวัยเด็ก เป็นเด็กเรียนดี สวยงามสดใส ใคร ๆ ชอบเธอ ตอนนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น
เธอเคยถามพวกท่านเล่น ๆ ว่าทำไมต้องเป็นเธอที่เสียสละ พวกท่านได้แต่ยิ้มและบอกว่าโตขึ้นเธอจะเข้าใจเอง แต่จนตอนนี้เธอก็ไม่เข้าใจอะไรอยู่ดี
“คุณหนูเล็ก ทำไมไม่เข้าไปละคะ” พี่เลี้ยงเหอเห็นเด็กผู้หญิงที่เธอเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กกำลังยืนเศร้าสร้อยอยู่หลังประตู จึงเดินเข้าไปหาด้วยความห่วงใย
อ้ายฉิงยิ้มรับ “ฉันคงไม่เข้าไปหรอกค่ะ ในห้องนั้นไม่มีที่ของฉัน” เธอตอบตามความรู้สึก
“สุขสันต์วันเกิดย้อนหลังนะคะ เมื่อวานป้าเห็นว่าคุณหนูไม่อยู่เลยไม่ได้มอบการ์ดวันเกิดให้” สองมือของหญิงสูงวัยยื่นการ์ดวันเกิดทำมือมาให้
พี่เลี้ยงเหอจะวาดมันด้วยรูปภาพง่าย ๆ พร้อมกับข้อความอวยพรไม่ซ้ำกันในแต่ละปีและมอบให้เธอไม่เคยขาด
หญิงสาวน้ำตาเอ่อด้วยความซาบซึ้ง
“ขอบคุณค่ะ ก็มีแต่ป้าเหอที่จำได้”
“แน่นอนสิคะ” หญิงสูงวัยลูบหัวเธอด้วยห่วงใย “พรุ่งนี้ถ้าคุณหนูไม่ได้ไปไหน ป้าจะทำเกาลัดอบน้ำผึ้งไว้ให้”
“ค่ะ ป้าเหอ พรุ่งนี้หนูจะกลับมาทาน”
พูดเสร็จอ้ายฉิงก็รีบก้าวเท้าออกมาจากคฤหาสน์ เธอรีบก้าวให้เร็วที่สุด เธอไม่ต้องการได้ยินเสียงเวลาพวกเขามีความสุข
รถซีดานคันหรูถูกขับออกไปจากรั้วบ้าน เสิ่นอ้ายเหรินได้ยินเสียงรถของน้องสาวจึงรีบวิ่งออกมาตาม แต่ก็ช้าเกินไป ในมืออ้ายเหรินถือกล่องใส่เกาลัดเอาไว้ เธอรู้ว่าอ้ายฉิงชอบมันจึงลุกขึ้นมาทำให้น้องสาวไว้ตั้งแต่เมื่อวาน เธอรอจะมอบมันให้เป็นของขวัญวันเกิดกับน้องสาว
แต่จนกระทั่งตอนนี้เธอ แม้แต่การพูดคุยสักคำก็ยังไม่มี
“อ้ายเหรินทำอะไร พี่เห็นเธอวิ่งออกมา” เสิ่นเฟยฉีเดินตามหลังน้องสาวออกมา
ท่าทีของเธอเร่งรีบเหมือนกำลังรอใครสักคนอยู่ เขาเป็นห่วงเลยตามมาดู
“ฉันได้ยินเสียงรถของอ้ายฉิงก็เลยรีบตามออกมา” เธอมองหน้าพี่ชาย พร้อมกับในมือยังถือกล่องถนอมอาหาร ด้านในเต็มไปด้วยเกาลัดอบน้ำผึ้งแบบที่น้องเล็กชอบ
“เธอตื่นนอนตั้งแต่เช้าลุกขึ้นมาทำให้อ้ายฉิง พี่เชื่อว่าสักวันหนึ่งอ้ายฉิงจะเข้าใจในสิ่งที่เธอทำ” เสิ่นเฟยฉีปลอบใจน้องสาว
“ตอนเด็ก ฉันทำไม่ดีกับอ้ายฉิงเอาไว้มาก โตมาจึงเข้าใจ ต่อจากนี้ถ้าไม่ยากและร้ายแรงจนเกินไปฉันจะทำเพื่อเธอ”
สายตางดงามของเสิ่นอ้ายเหรินมองออกไปยังถนนที่รถของน้องสาวเคลื่อนออกไป แม้ว่าตอนนี้จะมองไม่เห็นแล้วก็ตาม ความรู้สึกของเธอหวิวโหวงแปลก ๆ คล้ายกับจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดี
*********************
อ้ายฉิงขับรถไปตามถนนด้วยความเหม่อลอย จิตใจของเธอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ช่วงเวลาไม่ถึงครึ่งเดือนเกิดเรื่องราวมากมายขึ้นกับเธอ ความเหงาและความเปล่าเปลี่ยวในหัวใจของเธอเพิ่มมากขึ้น ตามแสงของพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ เลือนหายไป ขับรถมาจนเกือบจะมืด มองออกไปรอบนอกตรงนี้เป็นที่ไหนอ้ายเองก็ไม่รู้จัก
“ที่นี่มันที่ไหนกัน” อ้ายฉิงบ่นเบา ๆ กับตัวเอง
ด้านนอกรถเริ่มมืดลง แสงสว่างสวยงามที่เธอชื่นชมเมื่อครู่ก็หายไปด้วย อ้ายฉิงขับรถช้า ๆ ไปตามเส้นทาง
รถของอ้ายฉิงจอดสนิทอยู่ตรงสี่แยกไฟแดง เธอจอดรอไฟสัญญาณจราจรตามปกติ แม้จะไม่มีใครสัญจรอยู่บนถนน อ้ายฉิงก็ยังคงรักษากติกาอย่างเคร่งครัด จนไฟเขียวเธอถึงออกรถ
แสงสีขาวจากไฟหน้ารถบรรทุกพุ่งมาจากไหนไม่รู้ อ้ายฉิงไม่ทันได้สังเกต ความเร็วของรถนั่นไม่ทันให้เธอได้มีสตินึกคิดอะไร
รถคันหรูที่เธอขับมาถูกรถบรรทุกคันนั้นชนเข้าเต็มแรง รถทั้งคันพลิกคว่ำไปหลายตลบ จนพลิกกลับมาอยู่ท่าเดิมแต่สภาพรถยับเยินเสียหายแทบทั้งคัน ความเจ็บปวดทั้งหมดเธอรับรู้ได้ ร่างกายปวดร้าวราวกับจะแหลกสลาย
หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัว ไร้เรี่ยวแรงในการจะกระทำการใด ๆ ทั้งสิ้น ท่ามกลางหมอกควันจากอุบัติเหตุ ชายคนหนึ่งเดินลงจากรถบรรทุกตัวต้นเหตุ ภาพเลือนรางค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น
“ละ ลุงฮั่ว” เธอร้องเรียกชื่อเขาทา
สายตาของฮั่วเฉินมองคนที่บาดเจ็บอย่างไร้อารมณ์ วันนี้ความแค้นของเขาถูกชำระแล้ว หลายปีที่ผ่านมาเด็กนั่นทั้งดูถูกและเหยียดหยามเขา จะให้เขาปรานีใจดีกับหล่อนนะเหรอฝันไปเสียเถอะ
“คุณหนูเล็ก ไม่สิ เสิ่นอ้ายฉิง เป็นยังไงบ้างความเจ็บปวดนี้”
“ชะ ช่วย” อ้ายฉิงพยายามของความช่วยเหลือ
ฮั่วเฉินไม่เพียงไม่สนใจคำขอร้องนั่น แต่ยังเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อปลดกล้องหน้ารถออกมา จะได้ไม่หลงเหลือหลักฐานอะไร ถนนนี่ทั้งเปลี่ยวและห่างไกลจากผู้คนอีกทั้งยังไม่มีกล้องวงจรปิดกว่าคนจะมาเจอเด็กนี่ เธอก็คงตายไปแล้ว เขารอเวลานี้มานานแล้ว ฮั่วเฉินแบบตามเธอมาตั้งแต่ออกจากบ้าน จนในที่สุดฟ้าก็เปิดทางให้เขาชายแก่ยิ้มเหยียดด้วยความสะใจ
“เสิ่นอ้ายฉิง ลาก่อน”
เธอเห็นฮั่วเฉินเดินจากไปอย่างไม่ไยดี ความหนาวเหน็บเข้าปกคลุมหัวใจของเธอ เธอคิดถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาในชีวิต ใช่แล้วล่ะเธอร้ายกับทุกคนเอาไว้มาก ไม่สงสัยเลยว่าทำไมจึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อุณหภูมิร่างกายของอ้ายฉิงลดลงไปเรื่อย ๆ สติสัมปชัญญะก็เลือนรางเช่นกัน
“นี่สินะที่ทุกคนบนโลกเรียกว่าช่วงเวลาแห่งความตาย”
*********************
เสียงไซเรนรถพยาบาลดังลั่นจนเธอนึกรำคาญ แสงไฟสาดส่องเข้ามาในม่านตาของเธอ จากนั้นเธอก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย
5