บทที่ 5-1 ข้าไม่ได้รังเกียจท่าน
บทที่ 4 ข้าไม่ได้รังเกียจท่าน
จิ้งอ๋องแห่งแคว้นหลิน พระนามเดิมหลี่อี้ ว่ากันว่าเชือดคนทิ้งได้ทั้งๆ ที่ยิ้มแย้มอ่อนโยน ทรงเฉลียวฉลาด มองเห็นทุกสิ่งทะลุปรุโปร่ง ใครต่อใครต่างก็เตือนอยู่เสมอว่าเขาเป็นคนที่ไม่ควรเป็นศัตรูด้วย
ทว่าจิ้งอ๋องอดไม่ได้ที่จะคิดถึงสถานการณ์ที่ตนเองเผชิญอยู่ในขณะนี้ ขาพิการของเขาเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นชัดเจน และยศถาบรรดาศักดิ์ที่ครั้งหนึ่งเคยถือครองก็เหลือเพียงเศษซากของอดีต ทำไมองค์หญิงผิงเซียงจะต้องสนใจผู้ไร้ค่าเช่นเขาด้วยเล่า?
“นี่เป็นใบหย่า ส่งตัวนางกลับวังเสด็จอาไปในทันที”
“พ่ะย่ะค่ะ” จิ้งอ๋องตัดสินใจหลบเลี่ยงนางในทุกวิถีทาง นางมีทางเลือกมากกว่านี้ ชีวิตของนางควรจะสดใส ไม่ใช่จมปลักอยู่กับชายพิการเช่นพระองค์
แต่ก่อนที่จะจมลงไปในความคิดเหล่านั้นอีก องค์หญิงผิงเซียงกลับปรากฏตัวต่อหน้า ท่าทางนางดูแข็งกร้าวกว่าปกติ ใบหน้าแดงระเรื่อดั่งผู้ที่เพิ่งตัดสินใจจะทำอะไรบางอย่างอย่างเด็ดเดี่ยว
“ท่านอ๋อง พระชายาขอเข้าพบพ่ะย่ะค่ะ”
“ให้นางเข้ามาได้” ร่างสูงใหญ่กำยำนั่งบนเก้าอี้ตัวใหญ่ หันหน้าออกไปชมทิวทัศน์สวนดอกไม้ เงามือที่ทาบทับบนใบหน้าคมเข้มยิ่งขับเน้นความหล่อเหลาชวนให้รู้สึกลึกลับเกินเอื้อม ผิงเซียงยืนจังก้า แต่เก้อเขินเมื่อคนสนิทของเขาสองคนยังคงอยู่ในห้องด้วย
“เข้ามาสิ”
“เพคะ”
ผิงเซียงเดินดุ่มๆ มาถึงก็ย่อกายคารวะแบบลวกๆ ยิ่งเห็นใบหย่าบนโต๊ะ จุดเดือดของนางก็ยิ่งพุ่งปรี๊ด
“ท่านหลบหน้าข้าทำไมเพคะ” เสียงของนางสั่นเล็กน้อยด้วยความโมโห “ข้ารู้ดีว่าท่านคิดอะไร แต่ข้าขอบอกไว้เลย ข้าไม่ได้รังเกียจท่าน ท่านลืมไปหรือเปล่า ข้าอายุแค่สิบหก ข้าเพิ่งจะเคยแต่งงานครั้งแรก เพิ่งจะได้รู้จักท่านนะ จะให้ข้าสบายใจตั้งแต่ต้นก็คงเป็นไปไม่ได้ ข้าย่อมต้องสั่นบ้างเป็นธรรมดา แต่ท่านอย่าคิดไปเองว่าข้ารังเกียจท่าน เพราะมันไม่จริง!”
ร่างกำยำมองนางด้วยความประหลาดใจ นางพูดจาตรงไปตรงมาเช่นนี้ ทำให้อดไม่ได้ที่จะยิ้มมุมปากเล็กๆ นางดูจริงใจเกินคาด จนจิ้งอ๋องรู้สึกถึงความอบอุ่นแผ่ซ่านขึ้นมาในใจที่เคยเย็นชา
“เจ้าคิดเช่นนั้นจริงๆ หรือ” ทรงถามเบาๆ สายตาคมกริบยังคงสำรวจใบหน้าของนาง ขณะที่ความรู้สึกอึดอัดในอกของชายผู้สูงศักดิ์คลายลงทีละน้อย
“จริงสิ! ข้าไม่ได้รังเกียจอะไรท่านเลย ข้าแค่กำลังปรับตัว และที่ท่านหลบหน้าข้า... มันทำให้ข้าโมโหที่สุด!” นางทำหน้างอเล็กน้อย แขนของนางกอดอก ราวกับพยายามปกปิดความน้อยใจไว้ แต่กลับยิ่งแสดงออกชัดเจนในสายตาของพระองค์
จิ้งอ๋องหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ใช่เพื่อเย้ยหยันนาง แต่เพราะคำพูดของนางตรงไปตรงมาอย่างที่พระองค์ไม่เคยคาดคิด จิ้งอ๋องพยักหน้าช้าๆ
ยอมแพ้นางจริงๆ
“ข้าขอโทษ” ทรงพูดออกมาจากใจจริง น่าตกใจที่ค้นพบว่าเสียงของตนเองฟังดูอ่อนโยนกว่าที่คิด “ข้าคิดมากเกินไป คิดเล็กคิดน้อยจนทำให้เจ้ารู้สึกแย่ ข้าสัญญาว่าต่อไปนี้จะไม่หลบเลี่ยงเจ้าอีก”
สายตาของนางอ่อนลง รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้างดงามของนาง ความหนาวเย็นที่เคยปกคลุมจิตใจของพระองค์เริ่มละลายลงไปเล็กน้อย นางทำให้เขารู้สึกมีความหวัง แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม
“ข้ามาทวงสัญญาเพคะ”
“เรายังไม่ได้เสพสังวาสกันจริงๆ จังๆ เสียหน่อย จะมาทวงอะไร”
“ก็มาทวงหน้าที่สามี แล้วจะได้ทวงสัญญาต่ออย่างไรล่ะเพคะ คนผีทะเล กล้าดียังไงถึงคิดจะหย่าจากข้า”
“แม่หนอนน้อย เจ้าหงุดหงิดหรือ”
“หงุดหงิดสิ มากๆ เลยด้วย” ผิงเซียงหน้ายู่ “ข้ามีคำถามมากมายอยากจะคุยกับท่าน แต่ท่านเล่นปิดโอกาสข้า แล้วเมื่อไหร่ข้าจะได้คุยกับท่านสักทีเล่า”
“คุยกับข้าสนุกขนาดนั้นเชียวหรือ”