พระเอกมาแล้วพระรองมาแล้วอันนี้พระอะไรดี
นอนหลับแสนสบายบนที่นอนหนานุ่มไม่อยากลุก วรากรดันปวดฉี่ถลาไปที่ประตูกำลังจะไปห้องน้ำจำได้ว่ามันอยู่อีกฟากหนึ่งของห้องหากเที่ยบเวลาตอนนี้คงประมาณ ตีห้าเกือบหกโมงเปิดประตูสงวนท่าที เดินออกจากห้องข้างหน้านั่นสนัขจิ้งจอกขนสีขาวยืนหันหลังให้วรากร วรากรยืนมองอยู่อย่างนั้นไม่กล้าขยับตัวกลัวมันจะหนี สีขาวบริสุทธิ์ความที่ชอบหมาแมวอยู่แล้วอยากได้มาเลี้ยง ขยับขาจะก้าวเดินเข้าไปหา สุนัขจิ้งจอกตัวสีขาวปุกปุยหันมาก่อนจะทะยานออกจากตรงนั้นไปทัน วรากรถอนหายใจเสียดายหากได้มาเลี้ยงคงดี จัดการธุระส่วนตัวตัวเองเสร็จ เดินอ้อมมาอีกทางคงอนนไม่หลับเสียแล้ว เดินผ่านห้องของหลวนคุนหน้าต่างเปิดอ้าไว้ วรากรมองไปข้างใน ร่างเพรียวลม ทว่า มีมักกล้ามหนาแน่นยืน เปลือยอกอยู่ตรงนั้นหน้าอก เต็มไปด้วยซิคแพ็คน่าลูบไล้ ยืน ยืดเส้นยืดสายตามแบบคนที่ดูแลตัวเองอย่างดี วรากรใจหวิว คนอะไรตื่นแต่เช้าจัง
ผิดบทๆ รีบหันหลังกลับไปอีกทาง ต้องไปเรียก อิงหลิวมาดูเคาะห้องอิงหลิวรัวๆ องิหลิวเปิดประตูคือข้ามีบางอย่างจะให้เจ้าดู อิงหลิวตามออกมาทันทีเพราะเห็นว่า วรากรร้อนรนขนาดนั้นออกมา
พาไปจนถึงห้องของหลวนคุน
“ห้องท่านหลวนคุน พี่สาวพาข้ามาทำไม” ไม่เห็นอะไรก็ในเมื่อ คนหล่อไม่อยู่ตรงนั้นเจ้ายืนรออยู่ที่นี่แป้บหนึ่ง ชะโงก หน้าชะโงกหลัง มองหาหลวนคุนกับซิคแพ็คถอยหน้าถอยหลังจน ไปชนเข้ากับร่างใหญ่ หลวนคุนเผลอกอดวรากรเต็มแรงจากด้านหลังใจไหวยวบ๑_๑ หน้าแดงสิรออะไรในเมื่อสัมผัสเข้ากับอกเปลือยเปล่าที่อบอุ่นนั้นอย่างจัง อิงหลิวมองซิคแพ็คของหลวนคุนตาไม่กะพริบ อย่างน้อยก็สำเร็จแหละวะ ขยับตัวออกจากอ้อมกอด
“แม่นางทั้งสองมีธุระอะไรกับข้า”
“เปล่าๆๆๆ ข้าเปล่าอิงหลิวมีธุระกับท่าน ลองถามนางดูเองแล้วกัน” ว่าแล้วก็วิ่งหลบออกไปหอบอยู่ข้างหลังห้อง ใจเต้นตึกตักปล่อยทั้งสองคนอยู่กันตามลำพัง นึกมโนว่าทั้งคู่จะคุยกันว่าอย่างไร หรือจะอายกันม้วนต้วน หรือว่า หลวนคุนจะลากอิงหลิวเข้าห้องไปเลยนะ อยากรู้จริง แต่หักห้ามใจ เอาไว้ถามอิงหลิววันหลังจากที่สังเกตอิงหลิวเองก็ชอบหลวนคุนไม่น้อยเมื่อเห็นหลวนคุนอิงหลิวมักหน้าแดงด้วยความเขินอาย หรือว่าภารกิจของวรากรใกล้จะสำเร็จแล้วมาถูกทางแล้วอีกหน่อยก้จะได้กลับ บ้านเสียที^_^ สบายใจ เดินไปเรื่อยเปื่อยบรรยากาศในบ้านมือปราบนี่ดีไม่น้อยถึงว่า ถึงมีหมาสีขาวอยู่ด้วย เอหรือว่าหลวนคุนก็ชอบหมาเหมือนกันก็เลยเลี้ยงไว้ ไปตามหามันดีกว่า นึกถึงขนปุยๆ แหมน่ากอด เป็นที่สุด เดินหาจนทั่วก็ไม่เห็นเริ่มหิว รีบไปหาอะไรกิน ไปผูกมิตรกับคนในห้องครัวดีกว่า
“แม่นาง อาหารเตรียมพร้อมแล้ว นายท่านให้ข้าเชิญ”
“ไม่เป็นไร ข้าอยากลองมาหาอะไรทานเอง” สาวรับใช้ไม่ได้เซ้าซี้อะไร วรากรเธอจึงถือโอากส หาของกินที่มีในครัวมานั่งกินที่ม้านั่ง หน้าโรงครัวนั่นเองมีแต่ของชอบของวรากรไม่ว่าจะเป็นหน่อไม้จีน หรือปลาแห้ง กินไปอยู่ๆ น้ำตาก้ไหลคิดถึงบ้านคิดถึงน้ำพริกปลาทูคิดถึงข้าวหอมมะลิร้อนๆ ที่หอมที่สุดอร่อยที่สุด
“ฮะแฮ่ม เสียงกระแอมพอให้หันไป” (O) ใครวะ รูปร่างสูงโปร่งแต่ขาวมากไปหน่อยของคนที่มองมา ใบหน้าหล่อเหลาก็จริงแต่มีบางอย่างที่วรากรไม่ชอบใจนักในสายตาคมนั้น เหลือบมองเห็นป้ายหยกแกะสลักสวยงามที่ห้อยอยู่ข้างเอวหนา เสื้อผ้าถูกตัดอย่างประณีตบ่งบอกว่าไม่ใช่คนธรรมดา พระเอกมาแล้วพระรองมาแล้วอันนี้พระอะไรดี แต่ใครสนอะ กำลังเศร้าๆ อยู่&_&
“แม่นาง ขอโทษที่มารบกวนการกินของแม่นางไม่ทราบแม่นางเป็นใคร”
“เรื่องอะไรท่านเป็นใครทำไมข้าต้องบอกเสียมารยาทคนกำลังกินดันมากวนใจได้” คนถามยิ้มมุมปากท่าทางยียวน
“หญิงงามบ้านนี้ ช่างกล้าหาญนัก” เอื้อมมือเชยคางวรากรที่สะบัดคางหนีมือใหญ่
“องค์รัชทายาทโปรดอภัย แม่นางชินอี้นางมาจากต่างแคว้นไม่รู้ธรรมเนียมของที่นี่” หลวนคุนโผล่มาจากไหนพร้อมกับ อิงหลิว
“ชินอี้555แม้นางไม่บอกชื่อนางคนอื่นก็พร้อมจะบอกข้า” หัวเราะเสียงดังกังวาน วรากรตกใจแทบตาย@_@ เป็นถึงองค์รัชทายาท กับมาเดินดุ่มๆ ไม่มีคนติดตาม
“องค์รัชทายาทเสด็จ หลวนคุนไร้การต้อนรับแม่นางชินอี้คนของข้า นางไร้มารยาทแต่เพราะความไม่รุ้หวังว่าองค์รัชทายาทจะไม่ถือสานาง” ”มือไพล่หลัง เหลือบตามองวรากร แววตาขบขันที่เป็นวรากร ท่าทาง เจื่อนๆ ไป
“ข้า ไม่เคยถือสาเพียงแค่ได้เห้นอาการสำนึกผิดของนางก้พอใจแล้วไม่ช้าไม่นานจะมีเทศกาลไหว้พระจันทร์หวังว่านางจะไถ่โทษโดยการเป็นแขกของตำหนักรัชทายาท” @_@หลวนคุน ประสานมือตอบ
“หลวนคุนและแม่นางชินอี้น้อมบัญชา” ส่งสายตาให้วรากร ตอบรับคำเชิญ วรากรจำใจประสานมือ คารวะองค์รัชทายาทเหลือบตามองอิงหลิวเพียงแว๊บเดียวก็ไม่สนใจใดใดอีก
“เสด็จพ่อมีบัญชาให้ข้ามา ถามไถ่เรื่องการตายเมื่อวาน ได้ข่าวว่าศพถูกควักหัวใจ” หลวนคุนเงยหน้ามององค์รัชทายาท
“ฝ่าบาททรงห่วงใย หลวนคุนซาบซึ้งใจนัก”
“ฮองเอาทรงมีบัญชา ให้หัวหน้าองครักษ์จางหลิ่งจือมาช่วยท่านอีกแรง” เห็ดหลินจือ กำลังจะมาแน่นอน วรากรรีบหลบฉากออกมา
ไแม่นางชินอี้ข้าน่ารังเกียจเช่นนั้นเลยหรือแม่นางถึงกับไม่อยากคุยด้วย” องค์รัชทายาททักท้วงเมื่อเห็นวรากร กำลังจะไป” $_$
“คือ…..ข้ากำลัง มีธุระ กำลังจะไปตามหา...หมาสีขาว”
“หมา หมาของใคร” อิงหลิวรีบเดินมาสมทบ
“ก็หมาตัวสีขาวที่ท่านเลี้ยงไว้ขนปุกปุยหางฟูขนขาวสะอาดตัวนั้นงัย” หลวนคุนขมวดคิ้ว แต่สักพักก็ทำสีหน้าปกติ
“ให้แม่นางชินอี้ไปเถอะองค์ชาย เรื่องสืบคดีเป็นเรื่องน่าเบื่อของผู้หญิง” องค์รัชทายาทยิ้มบางๆ
“เพียงยอมไปเป็นแขกที่จวนข้าก็ดีใจมากแล้ว ข้าไม่กวนใจนางแล้วมีเรื่องสำคัญต้องหารือกับท่านอีกมากสักพัก จางหลิ่งจือก็จะมา ร่วมหารือด้วย”
“เชิญ องค์รัชทายาทที่ศาลาท่าน้ำ” หลวนคุนผายมือเชิญ
วรากรเดินถือของกินออกมาด้วย
“พี่สาวท่านช่างกล้าหาญกล้าต่อคำกับองค์รัชทายาท”
ถอนหายใจ
“หากข้ารู้แต่แรกก้คงไม่ต่อปากต่อคำเขา”
“เป็นหญิง ช่างลำบาก แต่ดูพี่สาวสิเหมือนบุรุษคนหนึ่งไม่เกรงกลัวสิ่งใดไม่ต้องสะกดกลั้นความรู้สึกรักเกลียด” ก็แหง๋ละสิสมัยนี้ไม่มีใครต้องสงวนท่าทีกันแล้ว
“น้องสาวอิงหลิว เจ้า ไยต้องสะกดกลั้นในเมื่อรักก้บอกเขาไป”
“พี่สาวพูดเรื่องอะไร”
“ก็5555ข้ารู้นะว่าเจ้าชอบหลวนคุนข้าช่วยเจ้าไหมล่ะ” อิงหลิวหน้าแดง
“ข้าไม่เพียงแต่ชอบเขาแต่เขาคือความทรงจำดีดีของข้าเลยทีเดียว”
“ความทรงจำดีดี...คือ” ไปมีความทรงจำกันตอนไหน@_@
อิงหลิวรู้สึกตัวว่าพูดมากไป
“ไว้ข้าเล่าให้พี่สวาฟังวันหลังว่าแต่พี่สาวจะช่วยข้าจริงๆ นะ” เขย่ามือวรากร
“ห่าว (ได้หรือดี) แน่นอน เชื่อมือพี่สาวคนนี้สิ” อิงหลิวกอดวรากร ตัวกลม